ด้านนางปริยวดี ประจวบเหมาะ Head of Supply Chain and vFIX บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า หลังจากที่ได้นำอีวีทรัคเข้ามาใช้ในระบบโลจิสติกส์ – ซัพพลายเชนของไทวัสดุมามากกว่า 1 ปี พบว่าเป็นการลงทุนที่สร้างประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน แม้ปัจจุบันราคาของรถอีวีทรัคจะค่อนข้างสูงกว่ารถบรรทุกดีเซล แต่เมื่อเปรียบเทียบกับประสิทธิผลที่ได้รับถือว่าคุ้มค่า
เพราะไม่เพียงแต่เข้ามาช่วยลดค่าใช้จ่ายในการการเติมเชื้อเพลิง และการดูแลรักษาระบบเครื่องยนต์ที่ลดลงไปกว่า 16% ต่อปีแล้ว แต่ยังมีส่วนช่วยในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปได้กว่า 456 ตัน เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 20,976 ต้น ช่วยสร้างประโยชน์ให้กับเส้นทางในการเดินรถเพื่อขนส่งสินค้า ตลอดจนกลุ่มคู่ค้าที่เข้ามาจำหน่ายสินค้ากับไทวัสดุให้มั่นใจกับการกระจายสินค้าที่มีส่วนช่วยเสริมนโยบายเรื่องสิ่งแวดล้อมในองค์กร
โดยจากการปรับเปลี่ยนมาใช้รถอีวีทรัคยังพบประสิทธิภาพที่สำคัญดังนี้
- สมรรถนะการขนส่งเทียบเท่ารถบรรทุกดีเซล – ไทวัสดุ เป็นเจ้าเดียวในประเทศไทย ที่ใช้อีวีทรัคในลักษณะรถพ่วงแม่ลูก ขนาดใหญ่ ทำให้สามารถขนส่งสินค้าได้ 24 พาเลทเทียบเท่ากับรถเครื่องยนต์ดีเซล ระยะทางในการเดินรถต่อการชาร์จ 1 ครั้งจะอยู่ที่ 250 – 400 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับน้ำหนักในการบรรทุกสินค้า โดยอีวีทรัคนี้มีอัตราการเร่งสูงถึง 80 กม./ชม. และสามารถวิ่งผ่านเส้นทางลาดชันได้อย่างปลอดภัย
- เต็มมาตรฐานความปลอดภัย – มอเตอร์ไฟฟ้าของรถอีวีทรัคไทวัสดุ จะมีระบบกันน้ำ ทำให้สามารถลุยน้ำลุยฝนได้อย่างปกติ โดยมอเตอร์มีอายุการใช้งานได้ถึง 10 ปี หมดกังวลเรื่องไฟฟ้ารั่วไหล นอกจากนี้ยังได้มีการติดเซนเซอร์รอบคันเพื่อส่งสัญญาณเตือน เมื่อเดินรถด้วยความเร็วไม่เกิน 30 กม./ชม. เพื่อให้คนโดยรอบทราบว่ามีรถกำลังเคลื่อนที่มาเพื่อป้องกันอันตรายจากความเงียบของเสียงเครื่องยนต์ ทั้งนี้ ก่อนการเดินรถจะมีการตรวจเช็ครถและคนขับ ให้อยู่ในคอนดิชันที่ตรงตามมาตรฐานทุกครั้งก่อนการออกเดินรถ เรียกได้ว่ารับรองได้ถึงความปลอดภัยทั้งพนักงานขับรถ สินค้า และผู้ร่วมทางสัญจรโดยรอบ
- แผนการขยายการเดินรถอีวีทรัคในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเป้าหมายของบริษัทเซ็นทรัล รีเทล ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 ด้วยการปรับมาใช้พลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาดผ่านการดำเนินงานควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้คู่ค้าและผู้บริโภคร่วมกันสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนไปพร้อมกัน
ต่อมาพามาส่องแบรนด์อื่นๆ ดูว่าแบรนด์ไหนจะทำอะไรบ้าง ?
IKEA
- สนับสนุนให้หยุดใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
- จัดการมลพิษทางอากาศจากกระบวนการผลิต
CP ALL
- ใช้รถบรรทุก EV รองรับการกระจายสินค้าเข้าเซเว่น
Dairy Queen
- EV Truck คันแรกของเดลี่ควีนไทย
สยามยิปซัม
- ใช้ EV FORKLIFT ในโรงงานวัสดุก่อสร้าง
- ลดใช้พลังงานเชื้อเพลิงจากน้ำมัน 90%
แกร็บ ประเทศไทย
- ตั้งเป้าพาร์ทเนอร์ คนขับ ผู้จัดส่งอาหาร ใช้ EV ไม่ต่ำกว่า 10% ปี’69
เต่าบิน
- ต่อยอดปั๊ม EV ไปสู่จำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม
ทั้งหมด คือตัวอย่างแบรนด์รักษ์โลก และหันมาใช้รถ EV ในการทำธุรกิจ แต่ยังมีมากมายหลายแบรนด์ที่ทำในลักษณะเช่นกัน และยังมีอีกหลายแบรนด์ที่กำลังจะทำในลักษณะนี้ในอนาคต เพื่อรองรับเกมธุรกิจที่เปลี่ยนไป!!!!
ที่มา: เว็บไซต์แต่ละบริษัท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง