
วารุณี ยังไม่ได้ประกันตัว บอกทนาย ไม่หนีไปไหน นอกจากปรโลก อดอาหารแล้ว 12 วัน
เมื่อวันที่ 1 กันยายน ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเปิดเผยบันทึกการเข้าเยี่ยม ‘น้ำ วารุณี’ หญิงชาวพิษณุโลก ผู้ต้องขังคดี ม.112 ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง โดยอดอาหารเพื่อเรียกร้องสิทธิการประกันตัวต่อเนื่องเป็นวันที่ 12 กระทั่งต้องเข้ารับการดูแลที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์
ศูนย์ทนายฯ เปิดเผยว่า วารุณีแจ้งทนายว่า มีอาการหน้ามืด และในวันนี้มีการตรวจเลือดพบว่ามีค่าน้ำตาล 26มิลลิกรัม/เดชิลิตร (ระดับน้ำตาลของคนปกติอยู่ที่ 70-100 มิลลิกรัม/เดชิลิตร) ค่าความเป็นกรดด่าง CO2 18 ค่า GFR 115.82 ค่า BUN 18 ค่าโซเดียม 137 ค่าโพแทสเซียม 4.1 ค่าคลอรีน 103
วารุณีระบุว่า ตนแทบจะต้องนอนกับเตียงทั้งวันเพราะค่าน้ำตาลต่ำมาหากลุกยืนมากจะหน้ามืด
แม้ยอมจิบเกลือแร่ แต่ยังคงปฏิเสธการดื่มน้ำ ทานอาหาร และให้น้ำเกลือทางเส้นเลือด ยอมรับเฉพาะยานอนหลับและยาปรับฮอร์โมนรักษาโรคไบโพลาร์
ศูนย์ทนายฯ เปิดเผยว่า หลังจากวารุณีทราบผลของคำสั่งศาลอุทธรณ์วันนี้ ว่ายังคงไม่ได้รับการประกันตัว วารุณีกล่าวว่า ตนไม่หนีไปไหน ที่เดียวที่จะหนีไป คือปรโลก ตนมาจนสุดทางแล้ว โทษ 1 ปี ทำไมต้องหนีเป็นสิบยี่สิบปี
วารุณียังยืนยันกับทนายความว่า จะอดน้ำและอาหารต่อไปจนกว่าจะได้รับสิทธิในการประกันตัว
ทั่งนี้ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งลงวันที่ 31 ส.ค. 66 ไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราว พิเคราะห์ว่าจำเลยให้การสารภาพ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน มีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยจะหลบหนี ประกอบกับศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาเคยไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ในระหว่างอุทธรณ์มาหลายครั้ง ที่จำเลยอ้างว่าเจ็บป่วยนั้น กรมราชทัณฑ์สามารถดูแลจัดการให้ได้ตาม พ.ร.บ.ราชฑัณฑ์ พ.ศ.2560 มาตรา 55 เหตุตามคำร้องไม่มีเหตุจะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว
.
หลังจากยื่นขอประกันจากศาลอุทธรณ์มา 5 ครั้ง และศาลฎีกา 2 ครั้ง โดยวารุณีอดอาหารมา 12 วัน แต่ตัดสินใจว่าจะยังไม่ยื่นอุทธรณ์คำสั่งไปยังศาลฎีกาหรือยื่นขอประกันตัวใหม่
