“ศรีสุวรรณ” ส่งหนังสือถึงกรมราชทัณฑ์ ขอเอกสารบันทึกของเจ้าหน้าที่และความเห็นแพทย์ หลังให้ “ทักษิณ” อยู่ รพ.ตำรวจ ต่อ ลั่น ต้องไม่มีใครเป็นเทวดา มีอภิสิทธิ์เหนือกฎหมาย

วันที่ 23 กันยายน 2566 นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก ถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ในความควบคุมของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งรับตัวไว้เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 และต่อมามีการอ้างว่ามีอาการป่วยฉุกเฉินต้องส่งตัวออกไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจในคืนดังกล่าว อันเป็นที่สงสัยและเคลือบแคลงของสังคมไทยว่าป่วยจริงหรือป่วยการเมือง ซึ่งบัดนี้ครบระยะเวลา 30 วัน ที่ส่งตัวออกไปรักษาพยาบาลภายนอกในวันที่ 21 กันยายน 2566

นายศรีสุวรรณ ระบุต่อไปว่า ตามกฎกระทรวงว่าด้วยการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ. 2563 กำหนดไว้ว่า กรณีผู้ต้องขังพักรักษาตัวนอกเรือนจำเกินกว่า 30 วัน ให้มีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมความเห็นของแพทย์ที่ทำการรักษาผู้ป่วยและหลักฐานที่เกี่ยวข้อง โดยกรมราชทัณฑ์ได้รับหนังสือจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร รายงานความเห็นแพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจ ระบุเหตุผลความจำเป็นของ นายทักษิณ ที่จำเป็นต้องรักษาตัวเกิน 30 วัน เนื่องจากการรักษายังไม่สิ้นสุด เพราะเข้ารับการผ่าตัดและยังคงต้องรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลตำรวจ

ขณะเดียวกัน ตามกฎกระทรวงดังกล่าวกำหนดให้ต้องมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 2 คน คอยควบคุมนักโทษภายในเขตที่กำหนดตลอดเวลาในโรงพยาบาล ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องจดบันทึกข้อมูลทุกอย่างที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องอาหารและผู้เข้าเยี่ยมโดยละเอียด แล้วรายงานให้ผู้บังคับบัญชาและอธิบดีทราบทุกวันด้วย ซึ่งเอกสารการจดบันทึกและรายงานดังกล่าวเป็นเอกสารของทางราชการที่จะต้องเปิดเผยให้ประชาชนทราบได้ด้วย 

อีกทั้งในรายงานความเห็นแพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจ ไม่มีใครทราบว่าเขียนรายงานว่าอย่างไร โดยรายงานดังกล่าวเป็นเอกสารราชการทั่วไป ซึ่งชอบที่กรมราชทัณฑ์จะต้องเปิดเผยให้สาธารณชนทราบด้วย เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน 

ด้วยเหตุนี้องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงได้ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 41(1) มาตรา 53 ประกอบ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ 2540 ในการขอเอกสารราชการดังกล่าวทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ นายทักษิณ มาพิจารณาตรวจสอบตามสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย เพราะเอกสารดังกล่าวไม่เข้าเงื่อนไขการยกเว้นตามมาตรา 15 เพราะมิใช่ระเบียนประวัติการรักษาทางการแพทย์แต่อย่างใด

ในช่วงท้าย นายศรีสุวรรณ ยังระบุด้วยว่า “หากมีความพยายามที่จะปกปิดข้อมูลข่าวสารดังกล่าว องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ก็จะร้องเรียนไปยังคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารตาม มาตรา 18 วรรคสาม ในทันที แต่หากยังมีความพยายามที่จะร่วมมือกันปกปิดข้อมูลข่าวสารดังกล่าวอีก ก็จำเป็นที่จะต้องนำความไปฟ้องร้องต่อศาลปกครองต่อไป ทั้งนี้กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ต้องไม่มีใครเป็นเทวดา มีอภิสิทธิ์อยู่เหนือกฎหมาย แม้จะมีฐานะทางการเงินหรืออำนาจเพียงใดก็ตาม”