
ที่มาของภาพ, YONI ASHER
เมื่อ 23 นาทีที่ผ่านมา
หลายครอบครัวบอกเล่าถึงความตื่นตระหนกอย่างยิ่งเมื่อได้รู้ว่าบุคคลอันเป็นที่รักอาจถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกัน หลังกลุ่มติดอาวุธบุกโจมตีอิสราเอลตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.
กองทัพอิสราเอลระบุว่า มีผู้คนราว 150 คนถูกจับเป็นตัวประกัน และพาตัวไปยังฉนวนกาซา ในจำนวนนี้มีชาวต่างชาติ รวมถึงแรงงานชาวไทยอย่างน้อย 11 คนด้วย
ต่อไปนี้คือเรื่องราวของพวกเขา
“ผมพยายามสงบสติอารมณ์”
โยนิ แอชเชอร์ สงสัยว่าครอบครัวของเขาอยู่ในฉนวนกาซา หลังแกะรอยโทรศัพท์มือถือภรรยาของเขา
โดรอน ภรรยาของเขา และลูกอีก 2 คน คือ ราซวัย 5 ขวบ และ อาวีฟวัย 3 ขวบ พักอยู่ที่บ้านญาติใกล้ชายแดนฉนวนกาซาในช่วงที่กลุ่มติดอาวุธโจมตี
โยนิบอกกับบีบีซีว่า “เช้าวันเสาร์ ประมาณ 10.30 น. ผมได้คุยกับภรรยาเป็นสายสุดท้าย เธอบอกผมว่าผู้ก่อการร้ายจากกลุ่มฮามาสเข้ามาในบ้านแล้ว”
“พวกเขาปลอดภัย หลบอยู่ในห้องที่ปลอดภัย ก่อนที่สัญญาณโทรศัพท์จะถูกตัดไป หลังจากนั้น ผมก็ค้นหาที่อยู่มือถือของเธอได้ และพบว่าอยู่ในฉนวนกาซา”
วันต่อมา เขารู้สึกกลัวอย่างสุดขีดหลังเห็นคลิปวิดีโอที่ฉายให้เห็นภาพคนที่นั่งอยู่ท้ายรถบรรทุก ซึ่งดูเหมือนจะมีสมาชิกในครอบครัวแอชเชอร์ด้วย
“ในคลิปวิดีโอนี้ ผมจำภรรยาและลูกสาวทั้ง 2 คนได้ ทารกตัวน้อย ๆ ของผม” เขากล่าว
“ผมไม่รู้ว่า พวกเขาถูกควบคุมตัวในสภาพและเงื่อนไขอะไร แต่คุณรู้ไหมว่าสถานการณ์กำลังเลวร้ายมาก”
ถึงตอนนี้ โยนิทำได้แค่หวัง ไม่ต่างจากครอบครัวอื่น ๆ “ผมพยายามสงบสติอารมณ์ ผมอยากจะเชื่อว่ามีการติดต่อโดยใช้วิธีการเจรจาทางการทูต หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่เราไม่รู้อะไรเลย นั่นคือสิ่งที่ยากที่สุด”
“ยังมีหวังที่จะเชื่อว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่”
สำหรับ ไอดอ แดน ความสยองขวัญของเหตุการณ์เมื่อวันเสาร์ปรากฏในกรุ๊ปแชทครอบครัวในแอปพลิคชันวอตส์แอปส์ (WhatsApp)
“เธอกำลังบอกลา เธอส่ง (อิโมจิ) หัวใจแล้วบอกว่า ‘ฉันรักพวกคุณทุกคน ฉันไม่แน่ใจว่าเราจะรอดไปได้” ไอดอ กล่าวด้วยน้ำเสียงสะอื้นขณะย้อนดูข้อความที่หลั่งไหลเข้ามา
ฮาแดส ลูกพี่ลูกน้องของเขา อาศัยอยู่ในชุมชนเกษตรกรรมที่เรียกว่า คิบบุตส์ นีร์ ออส (Kibbutz Nir Oz) ไม่ไกลจากฉนวนกาซา เธออัพเดทสถานการณ์ให้ครอบครัวรับทราบจากที่หลบภัย
พลันที่สัญญาณเตือนภัยดังขึ้นในช่วงเช้า เพื่อแจ้งว่ามีการยิงจรวดเข้ามา เธอก็รีบวิ่งไปหลบอยู่ที่นั่น และพิมพ์ข้อความบอกว่า ได้ยินเสียงผู้ก่อการร้ายตะโกนเป็นภาษาอาหรับ
“มีบางอย่างที่น่ากลัวเกิดขึ้นที่นี่” เธอระบุในกรุ๊ปสนทนาของครอบครัว และพรรณนาถึงเสียงกรีดร้องของสมาชิกคิบบุตซ์คนอื่น ๆ
“เธอพูดว่า ‘มันเหมือนมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่นี่ พวกเขากำลังฆ่าทุกคน’ กระทั่งเวลา 09.00 น. เธอก็ขาดการติดต่อไปหลังแบตเตอรีโทรศัพท์หมด” ไอโด เล่า

ที่มาของภาพ, IDO DAN
ฮาแดส รอดชีวิตมาได้ด้วยการปิดประตูและซ่อนตัวอยู่ในนั้น ก่อนที่ในช่วงค่ำจะพบว่าสมาชิกในครอบครัวหายไป 5 คน เป็นลูกของฮาดาส 2 คนกับอดีตสามี, หลานสาว, แม่วัย 80 ปีของเธอ และ คาร์เมลลา ป้าของไอโด
เบาะแสหลักที่บอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือ คลิปวิดีโออันน่าสะเทือนใจซึ่งเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ ดูเหมือนว่า เอเรซ ลูกชายวัย 12 ปีของฮาแดส ถูกกลุ่มผู้ก่อการจับตัวเข้าไปในฉนวนกาซา
“ยังมีความหวังที่จะเชื่อว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่” ไอดอ ซึ่งอาศัยอยู่ใกล้เทลอาวีฟ กล่าว ทว่าเขากลับรู้สึกกลัวจนตัวสั่น
“ยาป้าของผมหมดแล้ว.. และเด็ก ๆ เราไม่รู้ว่าพวกเขาได้ไปห้องน้ำบ้างไหม กินอยู่อย่างไร”
ครอบครัวนี้พยายามค้นหาข้อมูลข่าวสารจากทุกช่องทางที่มีและทุกคนที่รู้จัก แต่ได้รับความช่วยเหลือเพียงเล็กน้อยจากทางการอิสราเอล
“ผมไม่โทษใครเลย เพราะมันเป็นสถานการณ์เฉพาะจริง ๆ” และ “ตอนนี้ยังมืดแปดด้าน แต่เรารอให้สถานการณ์คลี่คลายไม่ได้ ทุกชั่วโมงมีค่า” ไอดอ กล่าว
มีรายงานว่า การเจรจาเพื่อขอให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันกำลังเกิดขึ้น โดยมีกาตาร์เป็นตัวกลาง ไอกแ จึงขอส่งสารฝากไปยังกลุ่มฮามาสเกี่ยวกับครอบครัวของเขาว่า “ขอแค่พาพวกเขาออกจากแนวสู้รบในครั้งนี้ ตรงนั้นไม่เหมาะกับเด็ก ๆ ไม่เหมาะกับผู้สูงวัย”
“ผมไม่คิดว่า ไม่มีจรรยาบรรณในการทำสงครามใด ๆ ที่ไม่ถูกละเมิดที่นี่ แม้แต่สงครามก็มีกฎกติกา จริยธรรม และข้อจำกัด”
“มันเหมือนหนังสยองขวัญ”
โนม ซากี กล่าวว่า หัวใจของเขาหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เมื่อสื่อปาเลสไตน์เผยแพร่ภาพแม่วัย 74 ปีของเขา ซึ่งพักในบ้านที่อยู่ห่างจากชายแดนติดฉนวนกาซาราว 400 เมตร
บ่ายวันเสาร์ (7 ต.ค.) กองทัพอิสราเอลเข้าไปในบ้านของคุณยาย แอดา ซากี แล้วพบคราบเลือด แต่ไม่มีวี่แววของหญิงสูงวัยรายนี้
ในการให้สัมภาษณ์กับบีบีซี เรดิโอ 4 (BBC Radio 4) นายซากีซึ่งอยู่ในกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร สันนิษฐานว่า แม่ของเขาซึ่งเป็นครูสอนภาษาอาหรับอยู่ในกลุ่มคนที่ถูกลักพาตัวไป
“เรากำลังพูดถึงหญิงคนหนึ่งที่อายุ 74 ปี ที่เข้าไปอยู่ในห้องปลอดภัย และตอนนี้ เธอไม่อยู่ที่นั่นแล้ว” เขากล่าว
“เธอไม่ได้อยู่ในรายชื่อผู้เสียชีวิต เธอไม่ได้อยู่ในรายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่นั่นเป็นชุมชนเล็ก ๆ มีคนอย่างมากก็ 350 คน และทุกคนรู้จักกันหมด ดังนั้น พวกเขาน่าจะระบุตัวตนทุกคนเรียบร้อยแล้ว”
ซากี กล่าวว่า ทางชุมชนรายงานว่ามีผู้สูงอายุและเยาวชนถูกลักพาตัว แต่ทางการยังไม่ยืนยัน และไม่มีการยืนยันว่าแม้ของเขาอยู่ที่ไหน เขาชี้ว่า เธอวิ่งได้ไม่ไกลนักหลังเพิ่งผ่าตัดเปลี่ยนสะโพกไป เมื่อเร็ว ๆ นี้
“สิ่งที่เกิดขึ้นมันดูเหนือจริงอย่างสิ้นเชิง ฟังดูเหมือนหนังสยองขวัญ มันยากที่จะคาดคิดแบบวิทยาศาสตร์” ซากี กล่าว
“ลองจินตนาการถึงหมู่บ้านชนบทที่น่ารักในสหราชอาณาจักร ผู้คนก็ใช้ชีวิตามปกติ… แต่แล้วคุณก็ถูกฉุดกระชากออกไปจากบ้าน”
“มันรู้สึกเกินจริง… รู้สึกไร้มนุษยธรรม… หดหู่มากที่คิดว่ามันเป็นไปได้ แม้แต่ในสงครามก็ยังมีกฎกติกา และเรากำลังพูดถึงชายวัย 20 และ 30 กว่า ๆ ที่เข้ามาในบ้านของหญิงชรา และชิงตัวเธอไปจากเพื่อนบ้านของเธอ”
เขากล่าวเสริมว่า เขารู้สึกกลัวเพราะแม่ต้องกินยาเป็นประจำ
มิชาล ภรรยาของซากี ซึ่งให้สัมภาษณ์กับบีบีซีด้วยบอกว่า ไอดา มีอาการแพ้ “หากเธอไม่มียา เราก็ไม่รู้ว่าเธอจะอยู่ได้นานแค่ไหน ฉันพยายามไม่คิดไปในทางลบ แต่มันยากที่จะจินตนาการ”
ถึงวันนี้ ซากี ยังเชื่อว่าจะมีโอกาสพบหน้าแม่อีกครั้ง และคาดหวังให้เธออยู่ในลอนดอนในสัปดาห์หน้าเพื่อฉลองวันคล้ายวันเกิดปีที่ 75 ปี
เขาอธิบายว่า แม่ของเขาเป็นคนเข้มแข็งมาก สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คน และเป็นหญิงมหัศจรรย์ และเชื่อว่าเธอจะ “จัดการกับสถานการณ์” ได้

ที่มาของภาพ, NOAM SAGI
“ไม่เหลืออะไรเลย”
ชารอน ลิฟสชิตซ์ ซึ่งอยู่ในลอนดอนเช่นกัน เป็นอีกคนที่พ่อแม่สูงวัยถูกพรากตัวไปจากชุมชนเดียวกันกับ ไอดา ซากี ใกล้กับฉนวนกาซา
“พวกเขา (กลุ่มติดอาวุธ) เผาบ้านเรือนเพื่อทำให้คนหวาดกลัว” เธอกล่าวและว่า ผู้คนพยายามหาที่หลบภัยในห้องปลอดภัย
“ทุกอย่างมันพังทลายลง ดูเหมือนจะไม่เหลืออะไรเลย”
เช่นเดียวกับ ไอดา ซากี พ่อของลิฟสชิตซ์พูดภาษาอาหรับ และใช้เวลาในวัยเกษียณขับรถพาผู้ป่วยชาวปาเลสไตน์ไปส่งโรงพยาบาล
“เขาเชื่อในมนุษยธรรม และเชื่อในการทำประโยชน์ให้แก่ทุกคน”
นางลิฟชิตซ์ กล่าวว่า มี “พลังมหาศาลบางอย่าง” ที่พยายามทำให้ชาวอิสราเอลและชาวปาเลสไตน์ต่อไป และทั้งสองฝ่ายควรตระหนักว่า อีกฝ่ายก็เป็นมนุษย์
“ฉันหวังจะเห็นสันติภาพ ฉันหวังว่าพวกเขา (พ่อแม่ของเธอ) จะกลับมาอย่างปลอดภัย”

“หมดสติอยู่ในรถ”
ชานี ลุก นักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน เข้าร่วมงานเทศกาลดนตรี ใกล้ชายแดนฉนวนกาซา เมื่อกลุ่มติดอาวุธฮามาสบุกโจมตีพื้นที่จัดงาน เปิดฉากยิง บรรดาผู้ร่วมงานต่างหวาดกลัวและวิ่งหลบหนีไปในทะเลทราย
ริคาร์ดา แม่ของชานี บอกว่า เธอเห็นคลิปวิดีโอของชานีหลังลูกสาวถูกจับตัวไป
เธอโชว์ภาพของหญิงสาวอายุ 20 ปีที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ พร้อมระบุในโซเชียลมีเดียว่า ลูกสาวของเธอถูก “กลุ่มฮามาสลักพาตัวไปพร้อมกับกลุ่มนักท่องเที่ยวอีกหลายคน”
“เราได้รับคลิปวิดีโอนี้ เห็นลูกสาวของเราหมดสติอยู่ในรถพร้อมกับชาวปาเลสไตน์ และพวกเขาขับรถไปรอบ ๆ ฉนวนกาซา” เธอกล่าว
“หากคุณมีข่าวสารใด ๆ โปรดส่งมาแจ้งเรา ขอบคุณมาก”
ผู้ร่วมงานเทศกาลดนตรีอีกรายที่หายไปและเชื่อว่าถูกจับเป็นตัวประกันคือ โนอา อาร์กามานี พลเมืองอิสราเอลทีเกิดในจีน
หนังสือพิมพ์เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์รายงานโดยอ้างคำกล่าวของสถานทูตอิสราเอลในกรุงปักกิ่ง
คลิปวิดีโอที่ไม่อาจยืนยันได้ เผยให้เห็นภาพหญิงวัย 25 ปีรายนี้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของกลุ่มติดอาวุธที่กำลังขับออกไป และส่งเสียงร้องว่า “อย่าฆ่าฉัน!”

ที่มาของภาพ, SHANI LOUK’S INSTAGRAM
“นั่นยายของฉัน อยู่ที่นั่น”
“เธอเป็นคุณยายที่น่าทึ่ง เธอเป็นผู้หญิงที่มองโลกในแง่ดีมาก เป็นผู้หญิงที่ตลกมาก” แอวา อาดาร์ พูดถึงคุณย่าวัย 85 ปีของเธอ ยาฟฟา อาดาร์
“นั่นยายของฉัน อยู่ที่นั่น!” เธอโพสต์บนเฟซบุ๊ก หลังจากเห็นยายนั่งรถกอล์ฟแห่ไปตามถนนในฉนวนกาซา
ในการให้สัมภาษณ์กับสกายนิวส์ อาดาร์กล่าวว่า เธอกลัวที่ยายไม่ได้นำยาติดตัวไปด้วย และบอกด้วยว่า เธอไม่รู้ว่ายายจะมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหน