ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และแผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด (สอจร.) ได้ร่วมกับสโมสรแบดมินตัน จัดแข่งขันแบดมินตันการกุศล ตีแบดเพื่อหัว มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดหาหมวกกันน็อกสำหรับเด็กจำนวน 2,000 ใบนำไปมอบให้กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่เข้าร่วม โครงการศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้นแบบด้านความปลอดภัยทางถนน จำนวน 105 แห่ง และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่ทำงานร่วมกับแผนงาน สอจร. เพื่อป้องกันการบาดเจ็บในเด็กเล็กที่เดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ โดยมีผู้ปกครองขับขี่มาส่งเข้าเรียน และเป็นตัวอย่างให้กับบุคคลต่าง ๆ ในครอบครัวได้สวมหมวกกันน็อกตาม

นายสุริยัน ตื้อยศ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลป่าก่อดำ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย กล่าวว่า ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในอำเภอแม่ลาว ได้จัดทำธนาคารหมวกกันน็อก สำหรับให้นร.ยืมเรียนในศูนย์เด็กเล็กใช้ในแต่ละปีการศึกษา ซึ่งจะเชื่อมโยงกับการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะสมองส่วนหน้า EF (Executive Function) หมวกกันน็อกช่วยป้องกันไม่ให้สมองได้รับการกระทบกระเทือนหากเกิดอุบัติเหตุ อีกทั้งช่วยการสร้างวินัยการขับขี่เคารพกฎจราจรตั้งแต่เด็ก ซึ่งจะส่งผลเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ทั้งนี้จากการรับมอบหมวกกันน็อกครั้งนี้จำนวน 70ใบ โดยอบต.ป่าก่อดำ ได้ประสานกับเครือข่ายพัฒนาเด็กเล็กจำนวน 7 แห่งในอำเภอแม่ลาว เพื่อแบ่งปันหมวกกันน็อกที่ได้รับบริจาคไปให้เด็กนร.ที่มีความขาดแคลนด้วย พร้อมกันนี้ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU ) ว่าด้วยความร่วมมือส่งเสริมสนับสนุนศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้นแบบความปลอดภัยทางถนน ระหว่างองค์การบริหารส่วนตำบลป่าก่อ และสสส.

น.ส.ขวัญรักษ์ เม้งตระกูล ประธานโครงการศูนย์พัฒนาเด็กเล็กต้นแบบด้านความปลอดภัยทางถนน กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นความตั้งใจใช้วินัยทางกีฬามาบูรณาการกับการรับบริจาคซื้อหมวกกันน็อกสำหรับเด็กเล็ก ผ่านรูปแบบจัดการแข่งขันกีฬาแบดมินตันการกุศล ร่วมกับสโมสรแบดมินตันอมาตยกุล สโมสรแบดมินตันยูนิตี้แอนด์ระวิน สโมสรแบดมินตันพัชระ และสโมสรแบดมินตันในจังหวัดขอนแก่น หนองคาย อุดรธานี โดยจัดเดือนเมษายน 2566 ที่ผ่านมากิจกรรมนี้นับว่าสอดรับกับเป้าหมายสูงสุดของการดูแลรักษาชีวิตของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ที่ สสส. และภาคีทั้งภาคส่วนราชการ เอกชน ชุมชนในหลายพื้นที่ ได้ร่วมกันกระตุ้นให้คนไทยที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ทุกเพศทุกวัย สวมหมวกนิรภัยทุกครั้งเมื่อขับขี่ เพื่อลดการเสียชีวิตจากการบาดเจ็บทางศีรษะ และการพิการของผู้ได้รับบาดเจ็บขั้นรุนแรง ซึ่งเป็นส่วนหนี่งของการลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2570 ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติด้านความปลอดภัยทางถนนอีกด้วย

“สถานการณ์การเสียชีวิตและบาดเจ็บจาก การชนบนถนน หรือ อุบัติเหตุทางถนน ของประเทศไทย มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ละปีคนไทยทั้งประเทศเสียชีวิตบนถนนมากถึง 2 หมื่นคน กว่า 16,000 คน หรือ 80% เหตุจากการขับขี่รถจักรยานยนต์ จากข้อมูลพบว่าเฉพาะรถจักรยานยนต์ 5 ปีที่ผ่านมา มูลค่าความสูญเสียสูงถึง 9 หมื่นล้านบาท จำนวนผู้รับบาดเจ็บรุนแรงที่ใช้รถจักรยานยนต์เฉลี่ยปีละเกือบ 2 แสนคน กลุ่มอายุสูงสุดที่เกิดเหตุคือ 15-19 ปี โดยส่วนมากบาดเจ็บทางศีรษะ สำหรับจังหวัดเชียงราย มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงมากถึง 34.3 คน ต่อ ประชากร 1 แสนคน จากจำนวนประชากร 1.9 ล้านคน หมายความว่าต่อปีแล้ว คนเชียงรายเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 650-700 คน” น.ส.ขวัญรักษ์ กล่าว