แม้ตลาดภายในประเทศของเกาหลีใต้ ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐ และจีน มีมูลค่าประมาณ 7 ล้านล้านวอน (ราว 188,000 ล้านบาท) แต่ประเทศเริ่มประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานจากวิกฤติจำนวนประชากร อันเป็นผลมาจากอัตราการเกิดที่ต่ำสุดในโลก

ผลสำรวจของรัฐบาลเกาหลีใต้เมื่อปีที่แล้วพบว่า เจ้าของธุรกิจในภาคส่วนบริการอาหารประมาณ 54% ประสบปัญหาในการหาพนักงานใหม่ ซึ่งคาดว่ามีสาเหตุมาจากชั่วโมงทำงานที่ยาวนาน และสภาพการทำงานที่เคร่งเครียด

เนื่องจากไก่ทอดและหมูทอด เป็นเมนูยอดนิยมซึ่งมีคนสั่งมากที่สุดในเกาหลีใต้ คังจึงมองเห็นโอกาสในการปรับปรุงโมเดลธุรกิจไก่ทอด เธอมองว่า อุตสาหกรรมนี้จะได้รับประโยชน์จากระบบอัตโนมัติมากขึ้น เพื่อจัดการปัญหาต้นทุนแรงงาน และการขาดแคลนกำลังคนอย่างมีประสิทธิภาพ

หุ่นยนต์ของคัง ซึ่งประกอบด้วยแขนกลที่เรียบง่ายและยืดหยุ่น สามารถทอดไก่ได้ 100 ชิ้นต่อ 2 ชั่วโมง เทียบเท่ากับการใช้พนักงาน 5 คน และเครื่องทอดหลายตัว นอกจากนี้ เธอยังกล่าวว่า หุ่นยนต์สามารถทำให้ไก่ทอดอร่อยมากกว่าเดิม และมั่นใจว่ามันทอดไก่ได้ดีกว่ามนุษย์

ในฐานะผู้มีอิทธิพลทางวัฒนธรรมระดับโลก และผู้ส่งออกเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ เกาหลีใต้ประกาศแผนการทุ่มเงินหลายล้านดอลลาร์เข้าสู่กองทุน “ฟู้ดเทค” หรือเทคโนโลยีอาหาร เมื่อปีที่แล้ว เพื่อช่วยเหลือบริษัทสตาร์ทอัพที่ทำงานเกี่ยวกับโซลูชั่นอุตสาหกรรมอาหารที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง

รัฐบาลโซลระบุว่า นวัตกรรมดังกล่าวอาจกลายเป็น “กลไกการเติบโตใหม่” โดยให้เหตุผลว่า มันมีศักยภาพมหาศาล หากความสามารถในด้านหุ่นยนต์และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ขั้นสูงของประเทศ รวมเข้ากับความสามารถในการแข่งขันของอาหารคลาสสิกของเกาหลีใต้ เช่น กิมจิ

ปัจจุบัน คังมีร้านอาหารจำหน่ายไก่ทอดฝีมือหุ่นยนต์ 15 แห่งในเกาหลีใต้ และมีอีก 1 สาขาในสิงคโปร์ โดยหุ่นยนต์เหล่านี้ดำเนินกระบวนการทอดอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่การแช่ไก่ในน้ำมัน การพลิกในขณะทอด ไปจนถึงการยกไก่ออกเมื่อได้ความกรอบที่สมบูรณ์แบบ

นอกจากนี้ หุ่นยนต์ยังสามารถตรวจสอบอุณหภูมิของน้ำมัน และระดับออกซิเดชันตามเวลาจริงระหว่างการทอดไก่ ซึ่งเป็นการรับประกันรสชาติที่สม่ำเสมอ และสุขอนามัยที่เหนือกว่า

เมื่อคังเริ่มต้นธุรกิจครั้งแรก เธอไม่ค่อยเข้าใจถึงเหตุผลของการใช้หุ่นยนต์แทนเชฟที่เป็นมนุษย์ แต่หลังจากมีการพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้ คังพบว่าจากมุมมองของลูกค้า พวกเขาสามารถเพลิดเพลินกับอาหารที่สะอาดกว่า และมีรสชาติที่อร่อยกว่าด้วย.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : AFP