รถบรรทุกเห็นก่อนตายเล่าเหตุการณ์ สาวกอดลาสามีครั้งสุดท้าย กลางสายฝน รถชนดับสลด ตามมาเจอเข่าทรุดใจแทบขาด

เผยภาพเหตุการณ์ขณะที่ภรรยาของนายณัฐพงศ์ ผู้เสียชีวิต ทราบข่าวว่าสามีขี่รถจักรยานยนต์ประสบอุบัติเหตุ ชนเข้ากับแท่งแบริเออร์ที่วางอยู่กลางถนนสายเลี่ยงเมือง-บางขวัญ บริเวณหน้าวัดถวิลศิลามงมล ม.8 ต.ท่าไข่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา เมื่อมาเห็นสภาพสามี ถึงกับเข่าทรุดร้องไห้ใจแทบขาด โอบกอดสามีไว้ไม่ยอมไปไหน ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่าหนัก

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.30 น. คืนวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ร.ต.อ.ธีรวัต พรประสิทธิ์ รอง.สว.(สอบสวน) สภ.เมืองฉะเชิงเทรา รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์ เฉี่ยวชนแท่งแบริเออร์จนเสียชีวิต จึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลพุทธโสธร และเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉะเชิงเทรา รุดเข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุลักษณะเป็นถนนกำลังสร้างใหม่ สองเลนสวนกันไปมา มีแท่งแบริเออร์ปูนสีขาวแดงวางกั้นตลอดทั้งสาย โดยจุดเกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย ทราบชื่อต่อมา คือ นายณัฐพงศ์ อายุ 34 ปี นอนเสียชีวิตอยู่กลางคน สภาพศพ บริเวณด้านหลังศีรษะมีบาดแผลเจาะลึก ขาขวาหัก นอนเสียชีวิต ถัดออกไปประมาณ 10 เมตร พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 กด 862 ฉะเชิงเทรา จอดล้มคว่ำอยู่ บริเวณท่อไอเสียฝั่งขวามีร่องรอยการเฉี่ยวชนเข้ากับแท่งแบริเออร์จนพังเสียหาย ส่วนแบริเออร์กลางถนน มีร่องรอยการเฉี่ยวชนเป็นทางยาว

นายยุทธนา อายุ 40 ปี คนขับรถบรรทุกพ่วง ที่ตามหลังมาเปิดเผยว่า เห็นรถคันดังกล่าว ขี่ออกจากปั๊มน้ำมันก่อนหน้าที่จะมาถึงจุดเกิดเหตุ ลักษณะขี่ฉวัดเฉวียนไปมาด้วยความเร็ว ตนเองตามไม่ทัน จนมาถึงจุดเกิดเหตุ ที่แรกนึกว่าเป็นแอ่งน้ำกลางถนน แต่เมื่อขับเข้ามาใกล้ๆ เป็นจักรยานยนต์ที่ขับออกหน้าตนมาก่อนหน้านี้ จึงจอดรถรอให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่

ขณะที่ภรรยาของผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า สามีของตนทำงานอยู่ที่บริษัททาคอม จำกัด ช่วงเช้าออกไปทำงานตามปกติ แล้วบอกกับตนว่าวันนี้ ขอไปกินเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อน กระทั่งมีคนโทรศัพท์มาบอกว่าสามีเกิดอุบัติเหตุ จึงรีบออกมาดูก็พบว่า สามีของตนเสียชีวิตแล้ว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้เชิญตัวคนขับรถบรรทุกพ่วงที่เห็นเหตุการณ์ ไปทำการสอบสวนเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา เพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงต่อไป ส่วนร่างของผู้เสียชีวิตได้มอบให้เจ้าหน้าที่กู้ภัย นำร่างส่งโรงพยาบาลพุทธโสธร เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะมอบร่างให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนา