สาวระยองนำหลักฐานร้องผ่านสื่อถึงนักกฎหมาย “แม่ทำงานเมืองนอกส่งเงินโอนเข้าบัญชีอดีตลูกเขยให้เป็นค่าใช้จ่ายรักษามะเร็งยาย อดีตลูกเขยแอบถอนเงินไปหมดเกลี้ยงบัญชี แบบนี้แจ้งความดำเนินคดีแฟนเก่าได้ไหม?”

วันที่ 18 ม.ค.68 เมื่อเวลา 13.00 น. น.ส.พันษพัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ชาวบ้านพื้นที่ ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง ได้ร้องเรียนผ่านสื่อไปถึงนักกฏหมายพร้อมนำหลักฐานแชทสนทนากับนายแม็ก อดีตแฟน ซึ่งนายแม็ก ยอมรับในแชทว่าเอาเงินไปและในแชทยังมีการท้าให้ดำเนินคดีที่นายแม็กเอาเงินไปด้วย เพราะถ้าดำเนินคดีเงินก็จะไม่ได้คืน จึงอยากถามนักกฎหมายว่า กรณีนี้สามารถแจ้งความและดำเนินคดีอย่างไรได้บ้างตอนนี้เดือดร้อนมาก

น.ส.พันษพัฒน์ เล่าเพิ่มเติมว่า นายแม็กกับตนเคยเป็นแฟนกันก่อนจะเลิกกันแม่ซึ่งทำงานเมืองนอกได้โอนเงินมาเข้าบัญชีนายแม็ก เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในบ้านรวมถึงเป็นค่ารักษายายที่ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย โดยเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 ตนกับนายแม็กได้เลิกกัน ต่อมาวันที่ 3 ธันวาคม 2567 นายแม็กได้โอนเงินจำนวน 50,300 บาทออกจากบัญชี จึงมีการทวงถามผ่านแชท นายแม็กยอมรับเอาไปจริง พร้อมกับท้าให้แจ้งความดำเนินคดีแล้วนายแม็กก็บล็อกการติดต่อทุกช่องทาง

“ตอนนี้หนูและยายเดือดร้อนมาก ไม่มีเงินใช้จ่าย ไม่มีเงินพายายไปหาหมอ เรื่องนี้หนูอยากถามไปถึงนักกฏหมายว่าพอจะดำเนินคดีทางกฏหมายได้หรือเปล่า และหากนายแม็ก ดูอยู่ อยากวอนให้นำเงินมาคืน อยากให้สงสารยายบ้าง” น.ส.พันษพัฒน์ กล่าว

ด้านนางสำรวย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี ยาย น.ส.พันษพัฒน์ ที่ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะสุดท้ายกล่าวว่า ลูกสาวทำงานเมืองนอกส่งเงินมาให้รักษาตนผ่านหลานสาว พอรู้ว่าอดีตหลานเขยถอนเงินไปหมดก็ทุกข์ใจมาก ตอนนี้ลำบากมากไม่มีเงินรักษาตัว บางวันคิดมากต้องนอนร้องให้ ถ้านายแม็ก อดีตหลายเขยดูอยู่วอนนายแม็กกลับมาคุย เอาเงินมาคืน อยากให้สงสารยายบ้าง เพราะนายแม็กก็เป็นคนดีในสายตายาย ไม่ได้เป็นคนไม่ดี กลับมาคุยกับยายเถอะ