เจ้าของบ้านขอคำปรึกษาด่วน เจอคนจีนจอดรถขวางทางเข้าบ้าน ตำรวจอ้างที่เอกชน ทำอะไรไม่ได้ นิติได้แต่ขอโทษ

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ลงกลุ่ม พวกเราคือผู้บริโภค เพื่อปรึกษาปัญหา หลังเผชิญความเดือดร้อน บ้านทาวน์โฮมที่ซื้อไว้ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านกรุงเทพกรีฑา ถูกคนนำรถมาจอดขวางประตู จนเธอเอารถเข้าบ้านไม่ได้ แม้จะถ่ายรูปรถส่งเข้าไลน์กลุ่มหมู่บ้านเพื่อขอให้มาขยับรถ แต่ก็ไม่มีใครมา

เมื่อโทรหานิติหมู่บ้าน ก็มีการตาม รปภ. มาดูให้ รปภ. มาถึงก็บอกว่ารถคันนี้เป็นของคนจีนที่มาเช่าอยู่ใกล้บ้านของเธอ ในบ้านนั้นมีรถอีกคัน ทั้งที่บ้านหลังหนึ่งมีที่จอดรถ 2 คัน แต่คนเช่ายังเอารถคันที่ 2 มาจอดขวางคนอื่น

ซึ่งทาง รปภ. และนิติหมู่บ้านเคยแจ้งผู้เช่าชาวจีนมาหลายครั้งแล้ว เรื่องห้ามจอดรถขวางหน้าบ้านคนอื่น แต่อีกฝ่ายจะทำมึนว่าฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง และโบกมือไล่ รปภ. ไป ทางนิติพูดภาษาอังกฤษได้ จึงใช้โปรแกรมแปลเป็นภาษาจีน เพื่อบอกคนจีนว่าห้ามจอดขวาง คนจีนทำมือโอเคว่ารับทราบ แต่ก็ยังจอดอยู่เหมือนเดิม

ตอนนี้คนจีนออกไปรับลูกที่โรงเรียน กดกริ่งที่บ้านแล้วไม่มีคนอยู่ นิติไม่มีเบอร์ติดต่อคนจีน มีแต่เบอร์เจ้าของบ้าน จึงพยายามโทรหาเจ้าของบ้านเพื่อให้ช่วยติดต่อคนจีนมาขยับรถ แต่เจ้าของบ้านไม่รับสาย

เธอจึงติดต่อไปยัง สน. ในพื้นที่เพื่อปรึกษาตำรวจ แต่ตำรวจแจ้งว่าเหตุเกิดในหมู่บ้าน เป็นพื้นที่เอกชน ตำรวจทำอะไรไม่ได้ ให้แจ้งนิติ แล้ววางสายไป สรุปคือได้คุยกับตำรวจแค่ 44 วินาทีเท่านั้น

จากนั้นเธอติดต่อบริษัทยกรถละแวกบ้าน แต่ทางบริษัทแจ้งว่าไม่รับงานยกรถจอดขวางหน้าบ้าน เพราะเคยรับงานแล้วถูกเจ้าของรถฟ้องร้อง เลยไม่ขอรับงาน

ผู้โพสต์ เล่าอีกว่า เธอเห็นที่กรอบป้ายทะเบียนรถมีเบอร์ศูนย์ที่ออกรถ จึงติดต่อไปหาศูนย์ เล่าเหตุการณ์ให้เจ้าหน้าที่ฟังพร้อมขอเบอร์เจ้าของรถ ซึ่งศูนย์ก็ให้มา แต่เมื่อเธอโทรไป เจ้าของรถก็ไม่รับสาย ขณะที่ทางผู้จัดการนิติหมู่บ้านก็แจ้งว่า เคยให้รถมายกรถที่จอดขวางในหมู่บ้านอื่นแล้ว นิติก็โดนเจ้าของรถฟ้องร้องเหมือนกัน เลยช่วยอะไรไม่ได้ ทำได้แค่ขอโทษเธอซ้ำๆ

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เธองงมาก มีรถจอดขวางหน้าบ้าน นิติทำอะไรไม่ได้ ตำรวจทำอะไรไม่ได้ เธอจะช่วยเหลือตัวเองด้วยการโทรเรียกรถยก ก็ทำอะไรไม่ได้ กลายเป็นว่าจะมาเอาของที่บ้านก็ทำไม่ได้ เพราะของเธอเยอะและหนัก เธอจะขับรถจากที่อยู่ปัจจุบันมาบ้านหลังนี้ก็ไม่ใช่ใกล้ๆ สรุปคือรอเจ้าของรถอยู่ 90 นาที เจ้าของรถก็ไม่โผล่มา จนเธอต้องกลับบ้านมือเปล่า

นอกจากนี้ ยังมีเพื่อนบ้านส่งไลน์มาแจ้งว่าเคยเจอปัญหาคนจอดรถขวางหน้าบ้านเหมือนกัน ทำให้ไปสนามบินไม่ทันจนตกเครื่องบิน

เธอจึงอยากขอคำปรึกษาว่า หากเจอเหตุการณ์แบบนี้อีกควรทำอย่างไรดี ตอนนี้บ้านหลังนี้ติดป้ายขายอยู่ แต่ถ้าขายไม่ออกในปลายปีนี้เธอก็ตั้งใจจะย้ายมาอยู่เอง เลยไม่อยากมีปัญหากับเพื่อนบ้าน

ทั้งนี้ ชาวเน็ตได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย มีทั้งแนะนำให้เริ่มจากการติดป้ายห้ามจอดหน้าบ้าน ทั้งภาษาไทยและภาษาอื่นๆ ก่อนจะดำเนินการขั้นต่อไป รวมถึงแนะนำให้แจ้งความกับตำรวจ และแจ้ง ตม. ให้ตรวจสอบอีกทาง