26 ต.ค. 2566 จากกรณีชาวบ้านพบชายคลุ้มคลั่ง บริเวณถนนกาญจนาภิเษก ก่อนถึงตลาดสมบัติบุรี ในพื้นที่จ.นนทบุรี ใช้ก้อนหินขว้างปาใส่รถที่สัญจรไปมา จนทำให้ทรัพย์สินและรถยนต์ได้รับความเสียหาย
หลังเกิดเหตุผู้เสียหายออกติดตาม จนกระทั่งพบว่าชายคนดังกล่าว ได้หลบไปซ่อนตัวอยู่ที่บ้าน ซึ่งเมื่อเรียกชายนี้ออกมาพูดคุยเจรจา ทำให้เกิดมีปากเสียงกัน ทำให้ชายคนดังกล่าววิ่งออกมา และถือไม้ปีนขึ้นหลังคารถที่จอดอยู่ ก่อนจะกระหน่ำทุบรถ จนกระจกรถแตก และขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ทำให้มีรถยนต์ ซึ่งเป็นรถแท็กซี่ พังเสียหาย 3 คัน
เหตุการณ์ดังกล่าวผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง นายน็อต อายุ 33 ปี เจ้าของรถแท็กซี่สีส้ม เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา ขณะนั้นตนกับแฟนและลูก กำลังขับรถกลับบ้าน กระทั่งรถวิ่งมาถึงที่เกิดเหตุ ก่อนถึงตลาดสมบัติบุรี จ.นนทบุรี พบชายคนดังกล่าวกำลังยืนถือหิน ทำท่าเหมือนกำลังจะขว้างอะไรบางอย่างไปที่ถนน เมื่อเห็นดังนั้นจึงได้ชะลอความเร็ว พร้อมกับเปิดกระจกถามเขาไปว่า “ขว้างทำไม”
แต่ชายคนดังกล่าว ตอบกลับมาว่า “ปาโดนรถรึยัง” ตนเห็นว่าชายคนนี้ มีอาการไม่ปกติ เหมือนคนเมายา และในรถก็มีแฟนกับลูกอยู่ด้วย ด้วยความเป็นห่วงว่าครอบครัวจะเกิดอันตราย จึงได้ขับรถออกมา แต่ชายรายนี้ก็ยังขี่รถจักรยานยนต์ไล่ติดตามหลังมา พร้อมกับนำหินที่ถืออยู่ในมือ ขว้างใส่รถทันที แต่โชคดีที่ไม่โดน
จากนั้นคนรายนี้ ยังได้พยายามขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาประกบด้านข้าง และใช้เท้าถีบรถของตน ด้วยความตกใจ ตนจึงเหยียบคันเร่งหลบหนี ออกมาจากบริเวณนั้นทันที และโทรศัพท์บอกเพื่อนๆ และมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ดำเนินคดีกับชายรายนี้ โดยเมื่อไปถึงโรงพัก จึงทราบว่ามีชาวบ้านเข้ามาแจ้งความกับตำรวจอีกหลายราย ที่ถูกชายรายนี้ ใช้ก้อนหินขว้างปารถ จนได้รับความเสียหายด้วยเช่นกัน
นายอภิสิทธิ์ พรหมสิทธิ์ อายุ 28 ปี เจ้าของรถแท็กซี่สีชมพู เล่าว่า ก่อนหน้านี้รถของพี่ชาย ก็ถูกปาก้อนหินใส่กระจกหน้ารถ จนทำให้กระจกแตกทั้งบานมาแล้ว ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ พี่ชายจึงได้โทรศัพท์ตามให้ตนมาช่วย เพราะเห็นว่าผู้ชายคนนี้ เหมือนสติไม่ดี คล้ายคนเมายา และเมื่อตนเดินทางมาถึง ก็ช่วยกันออกติดตาม จนกระทั่งมาพบว่าหลบซ่อนอยู่ภายในบ้านหลังหนึ่ง และเมื่อตนเรียกให้ออกมาเจรจา จึงเกิดการทะเลาะกันขึ้น ก่อนที่ผู้ชายคนนี้ ซึ่งมีอาการเหมือนคลุ้มคลั่ง จะคว้าไม้วิ่งไปที่รถของตน ซึ่งจอดอยู่และปีนขึ้นไปบนหลังคา พร้อมกับใช้ไม้ที่ถืออยู่กระหน่ำตีจนกระจกแตกหมดทุกบาน และรถได้รับความเสียหาย ก่อนที่ชายรายนี้ จะขี่รถจักรยานยนต์ หลบหนีไป
“ผมกับพี่ชาย สามารถติดตามไปจนถึงที่บ้าน และได้สอบถามแม่ของเขาว่า ทำไมเขามาทำแบบนี้ โดยแม่เขาตอบว่า ช่วงเย็นลูกชายเข้ามาขอเงิน เพื่อไปซื้อยา แต่แม่ไม่มีเงินให้ ทำให้เขาเกิดอาการคุ้มคลั่ง และอาละวาดอย่างที่เห็น”
สุรสิทธิ์ สินธ์ประเสริฐ์ จ.นนทบุรี