ปังตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจนถึงต้นปีนี้ สำหรับพระเอก ‘เกรท’ วรินทร ปัญหกาญจน์ หลังร่ายบทรับเชิญสุดฮอต ‘ขุนหลวงท้ายสระ’ ในละคร “พรหมิลิขิต” ล่าสุดมีผลงานชิ้นโบแดง “มือปราบมหาอุตม์” สวมบทพระเอก ‘กระทิง’ โชว์ฝีมือแสดงบู๊ร่วมกับ ‘เต้ย’ พงศกร เมตตาริกานนท์ และ ‘น้ำตาล’ พิจักขณา วงศารัตนศิลป์ ที่กำลังออนแอร์ทางช่อง 3
โดยวันนี้เจ้าตัวมาเปิดอกถึงการทำงานที่ไม่เกี่ยงบท และเคล็ดลับการรื้อระยะการเป็นพระเอกให้ได้นานที่สุด รวมถึงการอยู่โยงเป็นนักแสดงสังกัดช่อง 3 พร้อมเปลือยสาเหตุที่ยังครองตัวโสด
เป็นยังไงบ้างกับละคร “มือปราบมหาอุตม์”?
เกรท – “เรื่องนี้ทำให้ผมได้เปิดประสบการณ์ทางการแสดงใหม่ ผมชอบมากที่ได้เล่นคิวบู๊แบบใหม่ น่าจะเป็นละครแนวใหม่ที่ทางช่อง 3 ยังไม่เคยทำ เรื่องการบู๊แบบใช้คาถาอาคม เรียกว่าเป็นมิติใหม่ในการถ่ายทำ เป็นมิติใหม่ของการแสดงบู๊ในแบบที่ผมไม่เคยเจอ ขนาดตอนเล่นยังตื่นตาตื่นใจ ซึ่งตอนแรกอ่านบทกระทิงตัวละครที่ผมเล่น คิดว่าน่าจะไม่ยาก แต่พอเล่นไปเล่นมามันหาจุดสมดุลยากเหมือนกัน เพราะผมไม่เคยเล่นละครเป็นตำรวจที่มีคาแร็กเตอร์ความดิบขนาดนี้มาก่อน”
เคยบอกว่าจะไม่รับบทบู๊เเล้ว เพราะกล้ามเนื้อเริ่มยึด?
เกรท – “จริงๆ รับได้ เเต่อยากเว้นช่วงเพื่อเตรียมร่างกาย เเต่เราก็จะรู้ลิมิต อันไหนเล่นได้เราก็จะเล่น แต่ถ้าช่วงนั้นที่เราใช้ร่างกายเยอะเราก็จะเหนื่อยมากหน่อย เราถ่ายละครมันไม่ได้บู๊อย่างเดียว นอกจากถ่ายละคร เราอาจจะเข้ายิม ออกกำลังกาย มันใช้พลังงานอยู่เเล้ว และถ้าช่วงนั้นถ่ายละครเรื่องเดียวเเล้วเป็นละครบู๊อย่างเดียวจะดีมาก เเต่ถ้าถ่ายละครบู๊คิวนึง ดราม่าอีกคิวนึงก็จะส่งผลต่อร่างกายนิดนึงครับ”
เป็นคนที่คิวเเน่นมาก ตั้งเเต่ปีที่เเล้ว?
เกรท – “ปีที่เเล้วคิวทำงานผมเเน่นมาก ส่วนหนึ่งเพราะผมมีโอกาสไปรับเชิญหลายเรื่อง อย่าง มาตาลดา, พรหมลิขิต และเรื่อง โลกหมุนรอบเธอ ที่รอออนแอร์ พบว่ามันสนุกมาก ได้เปิดมุมมองการแสดงใหม่ๆ ถึงบทที่ได้รับจะไม่ได้เป็นพระเอก แต่ก็เป็นบทที่ดี ได้เล่นหลากหลายบทบาทมากขึ้น และตอนนี้นอกจากมือปราบมหาอุตม์ ผมก็ยังมีละคร รักหักหลัง ที่แสดงเต็มๆ ซึ่งรื่องนี้ได้ร่วมงานกับน้องพาย รินรดา และ กระทิง ขุนณรงค์ เรียกว่าเป็นช่วงที่ผมรับละครเยอะมากจริงๆ”
ต่อไปจะได้เห็นเกรทในบทรับเชิญอีกเรื่อยๆ ไหม?
เกรท – “จริงๆ รับเชิญผมก็เล่นได้ เต็มใจจะรับเเละเต็มที่กับบท ผมไม่เกี่ยง เราก็อยากอยู่ตรงนี้ให้นานขึ้น อยู่เบื้องหน้ามันเป็นความสุขของเรา แต่ถ้าเป็นพระเอกไปได้เรื่อยๆ มันก็ดี แต่สุดท้ายทุกอย่างมีวัฏจักรและช่วงเวลาของมัน”
“ซึ่งไม่ว่าจะเป็นพระเอกหรือไม่เป็นพระเอก ถ้าเราตั้งใจเต็มที่กับ ทุกบทบาทที่ได้รับ ผลของงานจะออกมาให้ทุกคนเห็นเอง วันนี้เราเป็นรุ่นพี่เเล้ว สมมติมีคนอยากให้เราเป็นพระเอกอยู่ เราก็ยินดี เราชอบดูเเลตัวเอง ได้ทำงานตรงนี้มีความสุข ได้เจอเพื่อนร่วมงานที่ดี ถ้ายื้อระยะให้ได้ยาวนานที่สุดมันก็ตอบโจทย์ความสุขของเรา”
คิดว่าอะไรคือการยื้อระยะในการเป็นพระเอกของตัวเรา?
เกรท – “มันมีหลายปัจจัย สำหรับผมนะ ผมว่าวินัยไม่ว่าจะเป็นวินัยในการใช้ชีวิต วินัยในการทำงาน วินัยในการดูเเลตัวเอง ต้องครอบคลุมในการจะเป็นนักเเสดงที่มีคุณภาพคนหนึ่ง คุณมีวินัยในการทำการบ้าน ทำการบ้านมาก่อนจะเข้าฉาก ผมว่ามันเหมือนคนที่มีความเป็นมืออาชีพ ผมว่าสิ่งนี้จะทำให้อยู่ตรงนี้ได้นาน ไม่ว่าจะเป็นงานอะไรก็เเล้วเเต่ ถ้าเขาจะเลือกใช้งานใครสักคน เราอาจจะเป็นตัวเลือกที่ถูกเรียกใช้งานได้ง่าย”
ทำงานอยู่ช่อง 3 มา 15 ปีแล้ว ยังมีอะไรที่ยากสำหรับเราไหม?
เกรท – “เอาจริงๆ บทละครสำหรับผมยากหมด ไม่มีเรื่องไหนง่าย จะมีเเค่เรื่องนี้ไม่ต้องเปลี่ยนเเปลงตัวเองเยอะ เเต่ถ้าเรื่องไหนที่ไกลตัวหน่อยก็จะยากมาก เเต่ในทุกบทบาท หลายๆ ฉากมันจะมีจุดที่ยากของเรื่อง ทุกความยากเราทุ่มเทพลัง ทุ่มเทสมาธิ เเต่ละเรื่องมีความท้าทายที่เเตกต่าง ถ้าให้พูดก็อย่างเรื่อง พรหมลิขิต มีความยากในเรื่องภาษาในเรื่องบท คำพูด เรื่องมือปราบมหาอุตม์ ก็จะเป็นเรื่องบู๊ เรื่องภาพ หรือเรื่องเเอ๊กชั่นที่สวยงาม ความยากเเต่ละเรื่อง จะไม่เหมือนกัน”
15 ปีคิดจะเปลี่ยนเเปลงบ้างไหม?
เกรท – “ไม่คิดครับ ตอบตรงนี้ได้ เพราะ ณ ตอนนี้ผมคิดเเบบนี้จริงๆ ผมไม่คิดจะเปลี่ยนเเปลง เพราะรู้สึกว่ามันคงที่ในหลายๆ อย่าง ทางช่อง 3 เองก็เป็นที่เเรกที่ให้คำว่าอาชีพนักเเสดงกับผม ผมรู้สึกภาคภูมิใจตรงนี้ เเละโดยส่วนตัวเป็นคนที่ถ้าอยู่ตรงไหนเเล้วมีความสุขก็ไม่คิดจะไปอะไรมากขนาดนั้น ณ ตอนนี้รู้สึกเเบบนั้น เเละการงานหรือบทบาทหรือสิ่งที่ได้รับมอบหมายมา มันยังคงอยู่ในจุดที่เรามีความสุขก็เลยไม่คิดจะเปลี่ยนไปไหน”
เพิ่งต่อสัญญากับช่อง 3?
เกรท – “เพิ่งต่อไป กี่ปีบอกตรงๆ จำไม่ได้ เเต่ไม่ต่ำกว่า 3 ปี มีความสุขกับงานที่ได้รับ เป็นตำเเหน่งที่ผมอยู่เเล้วมีความสุข ทั้งพี่ๆ ที่เจอผมมาตั้งเเต่เด็ก เลยรู้สึกว่า ณ ตรงนี้มันก็เหมือนบ้านอีกหลังหนึ่งของผม”
อย่าง ‘บอย ปกรณ์’ ได้เป็นนักเเสดงอิสระ มีผลกับการตัดสินใจถึงการเปลี่ยนแปลงของเราบ้างไหม?
เกรท – “ไม่มีผลอะไรครับ ของเเบบนี้อยู่ที่จุดมุ่งหมายของเเต่ละคน”
ด้วยอยู่มานาน นักแสดงรุ่นน้องที่ร่วมงานจะชมว่าพี่เกรทน่ารักดูแลดี?
เกรท – “จริงเหรอ ขอบคุณมาก ในเวย์ของการทำงานเรารู้สึกว่าเราก็เคยใหม่ รู้ว่าการเป็นนักเเสดงใหม่มันกดดัน เราเข้าใจน้องๆ สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการเเสดงคือคุณต้องไม่กังวล ถ้าสมมติน้องๆ เข้ามา ต้องกังวลกับบท กังวลกับผู้กำกับฯ กังวลความใหม่อีก สามกังวลเเล้ว ถ้าต้องมากังวลกับพี่เกรทอีกมันไม่ดี การทำงานในกองถ่ายมันเป็นมวลรวมที่เราต้องเดินไปด้วยกัน ผมเลยอยากผลักดันให้น้องๆ ไปได้ดี เเล้วเราจะไม่เป็นความกังวลนั้นของคุณ เพราะเราเคยถูกพี่ปอ ทฤษฎี ที่เล่นด้วยกัน เขาสอนมาแบบนี้ พี่ชาย ชาตโยดม ที่เคยเล่นด้วยกันน่ารักให้กำลังใจไม่กดดัน ผมเคยเป็นเด็กใหม่ เคยมองดูรุ่นพี่หลายคนที่เขาเก่ง มีฝีมือการแสดง และการวางตัวดี”
พูดถึง ‘ปอ ทฤษฎี’ ตอนนั้นประทับใจอะไรในตัวเขา?
เกรท – “ตอนเล่นกับพี่ปอ เรื่องนั้นผมต้องเป็นตัวหาเรื่อง ตัวดราม่า จำได้ว่าผมเครียดมาก เราก็พยายามสนุก ตอนนั้นเราเด็กมากไม่รู้ว่าจะสนุกยังไง รู้เเค่ว่าตอนนั้นมันคือการทำงานคือการมาเเสดงละคร เเล้วพี่ปอก็พูดว่า ‘เกรท เขาให้มึงมาเล่นละคร เล่นอ่ะ เข้าใจคำว่าเล่นไหม’ พี่ปอพูดกับผมเเบบนี้ ผมเลยจำได้ คำพูดนี้ของพี่ปอยังอยู่กับผมตลอด การไปถ่ายละคร มันต้องสนุกสิวะ”
ถามความรักหน่อย เป็นพ่อแมวอยู่พักใหญ่แล้ว จะมีแม่ให้ลูกๆ ที่เลี้ยงหรือยัง?
เกรท – “ยังๆ คงตอบเหมือนเดิม ยังแฮปปี้กับการทำงาน จริงๆ ก็รู้จักตัวเองมากขึ้น ไม่ได้ปิดกั้น แค่รู้สึกว่าตัวผมเองเมเนจการใช้ชีวิตได้ด้วยตัวเองมานานแล้ว ยังรักตรงนี้ ยังไม่คิดว่าอยากให้ใครมาลองช่วยแชร์ตรงนี้ ยังไม่รู้ว่าการเปลี่ยนแปลงไปในทางไหน ทำให้ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้”
จะไม่ใช้ชีวิตโสดไปตลอดชีวิต?
เกรท – “คิดว่าไม่ แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เท่านั้นเอง แต่ก็มีโอกาสเป็นไปได้ คือมันยังไม่ได้คิดเรื่องนี้เท่านั้นเอง ถ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่อไหร่ เดี๋ยวรู้เองแหละ แต่ตอนนี้ยังไม่มีครับ”
อนงค์ จันทร