อิสราเอล มีชื่อเสียงด้านนวัตกรรมว่าเป็นผู้นำระดับโลกเรื่องเทคโนโลยีอาหาร โดยมีสตาร์ทอัพหลายร้อยแห่งที่เป็นผู้นำในการพัฒนานวัตกรรมต่างๆ เช่น เนื้อสัตว์ที่ได้จากการเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการ ผลิตภัณฑ์อาหารจากพืช เทคโนโลยีใหม่ที่ลดการใช้น้ำตาล เทคโนโลยีการหมักแบบล้ำสมัย และนวัตกรรมอื่นๆ ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมอาหารระดับโลก มีความโดดเด่นในการพัฒนา การผลิต และส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารไปทั่วโลก ดังนั้นการผสานนวัตกรรมล้ำสมัยจากอิสราเอลกับความชำนาญด้านการผลิตของไทย จึงสร้างนิยามใหม่และพลิกโฉมตลาดอาหารระดับโลก
ในปีนี้มีแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พ.ย.กว่า 100 คนจากบริษัทอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำของไทยกว่า 50 บริษัท โดยมีกิจกรรมต่างๆ ประกอบด้วยการสัมมนาและการจับคู่ธุรกิจ ผู้เข้าร่วมงานมีโอกาสสำรวจแนวโน้มของนวัตกรรมและความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีอาหาร ทั้งยังได้ทำความรู้จักกับ “อาหารในอนาคต” ซึ่งจัดแสดงนวัตกรรมอาหารหลากชนิด ได้แก่ น้ำส้มลดน้ำตาล ผลิตภัณฑ์นมที่ไม่ใช้วัตถุดิบจากสัตว์ เช่น ครีมชีสและชีสเค้ก รวมทั้งไส้กรอกและเบคอนที่ทำจากโปรตีนสาหร่ายอีกด้วย
นางออร์นา ซากีฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอล กล่าวว่า “งาน FoodTech Roadshow ของเราครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่งของความร่วมมือระหว่างอิสราเอลและไทย โดยเฉพาะในด้านการวางแผนอนาคตของอุตสาหกรรมอาหาร ดิฉันยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นการตอบรับที่ดีจากบุคคลสำคัญด้านอุตสาหกรรมอาหารของทั้งสองประเทศ เมื่อผสานจุดแข็งของเราเข้าด้วยกัน อิสราเอลและไทยจึงมีความพร้อมที่จะพัฒนานวัตกรรมและสร้างผลลัพธ์อันยั่งยืนต่อตลาดอาหารโลก”
ในขณะเดียวกัน นายโทเมอร์ ชปิลมาน หัวหน้าและที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจและการค้า สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอล กล่าวเสริมว่า “อิสราเอลเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปว่าเป็นระบบนิเวศเทคโนโลยีอาหารที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ในขณะที่ประเทศไทยได้รับสมญานามว่าเป็น ‘ครัวโลก’ ความร่วมมือระดับทวิภาคีนี้จะช่วยให้ทั้งสองประเทศสามารถรับมือกับความท้าทาย พัฒนาระบบอาหารที่ยั่งยืน และปกป้องโลกในอนาคตไว้ได้อย่างมั่นคง เมื่อเราร่วมมือมือกัน เราก็พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนความมั่นคงด้านอาหาร ความยั่งยืน และนวัตกรรมระดับโลก”