ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.17 น.ของวันที่ 6 ต.ค.66 ร.ต.อ.จรัญ กระจ่างแจ่ม รองสารวัตรสอบสวน สภ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากตำรวจประจำจุดบริการประชาชน ต.หวายเหนียว อ.ท่ามะกาฯ ว่า เกิดอุบัติเหตุรถพ่วง 18 ล้อชนรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีก 1 ราย
เหตุเกิดบนถนนสายท่ามะกา-หนองตากยา ช่วงทางแยกไฟเขียว-ไฟแดง แยกจามจุรี-หนองตากยา หมู่ 3 ต.หวายเหนียว อ.ท่ามะกาฯ หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเรื่อง
จากนั้น จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.มะการักษ์ ให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพพบว่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์(กู้ชีพขุนรัตนาวุธ)ประจำจุดรอรับเหตุ อ.ท่ามะกา กำลังอำนวยความสะดวกดัานการจราจรอยู่ ณ จุดเกิดเหตุ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพในที่เกิดเหตุช่างเป็นภาพที่น่าอุดจาดตาต่อผู้พบเห็นยิ่งนัก เนื่องจากสภาพรถจักรยานยนต์ทั้งคัน ที่ถูกเฉี่ยวชนนั้น อยู่ในสภาพที่น่าสยดสยอง เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ต้องรีบนำผ้าดิบมาทำการปิดบังศพไว้กันอุดจาด สภาพรถจักรยานยนต์และร่างผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชายที่เคราะห์ร้าย ถูกล้อรถ พ่วง 18 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุสีขาว-น้ำเงิน หมายเลขทะเบียนตัวแม่(ป้ายเหลือง) สุราษฎร์ธานี ส่วนตัวลูกหมายเลขทะเบียน สุราษฎร์ธานี ทับบดขยี้ศีรษะและลำตัวจนร่างเละคาถนน ตรวจสอบหลักฐานของผู้ตายทราบชื่อนายพงศ์ศักดิ์(ขอสงวนนามสกุล)อายุ 58 ปี อยู่หมู่ 4 ต.ดอนขมิ้น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี รวมทั้งรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 125 ซีซี.สีดำ หมายเลขทะเบียนกรุงเทพมหานครฯ เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ต้องใช้ความระมัดระวังในการนำศพและรถจักรยานยนต์ ออกมาให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพตามขั้นตอน เนื่องจากสภาพศพถูกล้อรถทับอยู่
เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายซึ่งขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน เพื่อไปจ่ายค่าไฟที่สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.ท่ามะกาฯ โดยมีลูกสาวนั่งซ้อนท้ายมาด้วย โดยมุ่งหน้ามาตามถนนสายดังกล่าว พอมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นสี่แยกไฟเขียว-ไฟแดง เป็นเวลาเดียวกันกับรถพ่วง 18 ล้อซึ่งวิ่งลงสะพานท่ามะกาเปิดไฟเลึ้ยวซ้ายรอสัญญาณไฟจะมุ่งหน้าไปตามถนนเลียบริมคลองชลประทาน เพื่อมุ่งหน้าไป อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เมื่อมาถึงก็เลึ้ยวรถทันทีโดยไม่ได้ดูว่า ทางซ้ายมือมีรถจักรยานยนต์ของ 2 พ่อลูกเหยื่อความประมาทจอดรแสัญญาณไฟอยู่เช่นกันคาดว่าคนขับรถพ่วง 18 ล้อ คงมองไม่เห็น หรือไม่ได้มอง อารามรีบร้อนจึงเร่งเครื่องเลี้ยวรถ รถจึงไปเฉี่ยวรถของจักรยานยนต์ของผู้ตายจนรถล้มคว่ำ ผู้ตายจึงถูกล้อหน้าด้านซ้ายทับบดขึ้ยร่างจนเสียชีวิตคาล้อ
ส่วนลูกสาวของผู้ตาย(ขอสงวนชื่อและนามสกุล)ที่นั่งซ้อนท้ายมาด้วย เดชะบุญขณะเกิดเหตุ ร่างกระเด็นออกนอกรัศมีของล้อรถ จึงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยและเสียขวัญ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ได้รีบนำตัวส่ง รพ.ฯ เพื่อให้แพทย์ช่วยเหลือเป็นการด่วน จนอาการพ้นขีดอันตราย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
ส่วนร่างผู้เสียชีวิตได้มอบให้มูลนิธิฯ นำไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.ฯ เพื่อรอญาติมาติดต่อขอรับศพไปดำเนินการตามประเพณีทางศาสนาต่อไป