เจาะความคุ้มค่า‘โอร่า กู๊ดแคท’ เหมียวน้อยพลังไฟฟ้า


ยิ่งนับวันกระแสความนิยมรถยนต์ไฟฟ้า 100% หรือ EV ในประเทศไทย ทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้จากยอดจดทะเบียนรถใหม่ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยปี 2020 รถยนต์ไฟฟ้าในไทยจดทะเบียน 1,056 คัน, ปี 2021 เพิ่มเป็น 1,935 คัน ปี 2022 ขยับขึ้นเป็น 9,729 และในปี 2023 ผ่านมาแค่ครึ่งปีแรก ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าใหม่มากถึง 31,738 คัน

นอกจากเรื่องการรักษ์โลกแล้ว ความประหยัดน้ำมัน ความง่ายและราคาถูกในการบำรุงรักษา บวกกับสถานีชาร์จที่แพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยม ต่อเนื่อง หนึ่งในรถยนต์ที่มาแรงและมียอดขายติดอันดับท็อปมาตลอดต้องยกให้‘โอร่า กู๊ดแคท’(ORA Good Cat) จากค่ายเกรทวอลล์ มอเตอร์ ซึ่งเป็นค่ายที่ทำตลาดด้วยรถยนต์หลากหลายพลังงาน โดยโอร่า กู๊ดแคท เป็นรถธงในกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า

โอร่า กู๊ดแคท เข้ามาทำตลาดในบ้านเราตั้งแต่ปี 2021 หรือพ.ศ.2564 มีให้เลือก 2 รุ่นย่อยคือ ORA Good Cat 400 PRO และ ORA Good Cat 500 ULTRA ก่อนที่จะมีตัวแรงมาให้เลือกเพิ่มกับ‘ORA Good Cat GT‘ ในปี 2022 ด้วยรูปร่างหน้าตาน่ารักน่าชัง ออปชั่นต่างๆ ที่อัดมาแน่นคัน คุ้มค่ากับราคา

จึงกลายเป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าท็อปฮิตของคนไทย ยิ่งในภายหลังเมื่อมีผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น จึงเห็นข้อแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างรถยนต์ไฟฟ้ากับรถยนต์สันดาปภายใน หรือรถเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน

ข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้าหลักๆ คือการรักษาสิ่งแวดล้อม ตามมาด้วยค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่ต่ำกว่า รถยนต์สันดาป 3-4 เท่า ยิ่งหากบ้านไหนใช้พลังงานจากโซล่าร์เซลล์ ราคาจ่ายต่อหน่วยการใช้พลังงาน ยิ่งต่ำลงไปอีก เช่นเดียวกับค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา ด้วยรถยนต์ไฟฟ้ามีชิ้นส่วนที่น้อยกว่าหลายเท่า ทำให้การบำรุงรักษาเทียบกันปีต่อปีถูกกว่าชนิดน่าตกใจ

นอกจากนี้การขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าให้แรงม้าและแรงบิดมาเร็วกว่ารถยนต์สันดาป เรียกว่ากดคันเร่ง เท่าไหร่ก็แรงเท่านั้นไม่ต้องรอรอบเครื่องยนต์ รวมถึงเสียงที่เงียบกว่า

แม้จะมีข้อจำกัดเรื่องการชาร์จที่ใช้เวลานานกว่าการเติมน้ำมัน แต่ด้วยระยะทางวิ่งระดับ 400-500 ก.ม.ขึ้นไปเป็นส่วนใหญ่ ทำให้การใช้งานในชีวิตประจำวันแทบไม่ต้องเติมพลังงานไฟฟ้าเพิ่มให้กับแบตเตอรี่ เลย เรียกว่าชาร์จเต็มออกจากบ้านตอนเช้า ให้ขับมากขนาดไหน แทบเป็นไปไม่ได้ที่ไฟฟ้าจะหมดระหว่างทาง

ส่วนการเดินทางไปต่างจังหวัดหากวางแผนให้เหมาะสม เช่นหาสถานีชาร์จ จองเวลา กำหนดจุดจอดพักผ่อนระหว่างทาง ไม่น่าใช่ปัญหาใหญ่ อีกทั้งคนส่วนใหญ่จะใช้รถเดินทางไปเที่ยว หรือทำธุระต่างจังหวัดปีหนึ่งสักกี่ครั้งกันเชียว

ขณะที่ราคาแบตเตอรี่ที่ถือเป็นชิ้นส่วนแพงสุดของรถยนต์ไฟฟ้า แต่ด้วยการรับประกันระดับ 8-10 ปี ขึ้นไป ทำให้เจ้าของรถวางใจได้พอสมควร อีกทั้งเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ บวกกับการจำหน่าย รถยนต์ไฟฟ้าที่มากขึ้น หากเปรียบเทียบเรื่องอุปสงค์-อุปทาน

ในอนาคตแบตเตอรี่มีแนวโน้มราคาถูกลง ยังไม่นับถึงความสามารถของช่างซ่อมที่เก่งขึ้น จนบางรายสามารถแยกซ่อมแบตเตอรี่เฉพาะโมดูลที่เสียหายได้ โดยไม่ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งลูกเหล่านี้ล้วนเป็นทิศทางที่ทำให้คนไทยและทั่วโลก นิยมใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนรถยนต์โอร่า กู๊ดแคท ที่ยังได้รับความนิยมต่อเนื่อง นอกจากคุณสมบัติเด่นๆ ของถถยนต์ไฟฟ้าแล้ว รูปทรงยังเป็นอีกส่วนเสริมสำคัญ เพราะหากดูรถยนต์ไฟฟ้าในบ้านเราตอนนี้ โอร่า กู๊ดแคท เป็นรถที่มีเอกลักษณ์เฉพาะอย่างมาก

รูปลักษณ์ภายนอกดูล้ำสมัยแต่แฝงไปด้วยความคลาสสิกเหนือกาลเวลาภายใต้คอนเซ็ปต์ Retro Futuristic กระจังหน้าในดีไซน์สุดคลาสสิกพร้อมระบบ Active Air Intake

ไฟหน้าอันเป็นเอกลักษณ์ แบบ LED เต็มรูปแบบในรูปทรง Cat Eye ที่โดดเด่นเฉพาะตัวพร้อม Daytime Running Light และไฟส่องสว่างหลังดับเครื่องยนต์ Follow Me Home ไฟท้าย LED Tail light Strip มาในดีไซน์พาดยาวซ้ายจรดขวา พร้อมไฟเบรกดวงที่สามและไฟตัดหมอกหลังแบบ LED

ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว ดูเต็มซุ้มล้อพอดี

ภายในเด่นด้วยการออกแบบภายใต้แนวคิด “Intelligent Cockpit with Exquisite Craftsmanship” หน้าจอ Interactive Double Screen หน้าจอพาดยาวบริเวณคอนโซลของตัวรถมีขนาด 17.25 นิ้ว ที่มีความละเอียดสูง แบ่งออกเป็น หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบดิจิตอล (Full TFT) ขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอระบบมัลติมิเดียพร้อมระบบสัมผัส ขนาด 10.25 นิ้ว

ระบบอินโฟเทนเมนต์รองรับ Apple CarPlay และ Siri รองรับ Android Auto และ Google Assistant ระบบนำทาง รองรับแอปพลิเคชั่นเพลง เช่น JOOX ลำโพงรอบทิศทาง 6 ตำแหน่ง

มีระบบสั่งการด้วยเสียงอัจฉริยะ สามารถควบคุมการใช้งานฟังก์ชันได้ตลอดเวลา ควบคุมเครื่องปรับอากาศ ซันรูฟ ระบบนำทาง และมัลติมีเดีย ได้ในประโยคเดียว

มีฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อโครงข่ายระยะไกล สามารถควบคุมการเปิด-ปิดการชาร์จ เครื่องปรับอากาศ ปิดหน้าต่างได้จากระยะไกล และสามารถดูสถานะของรถรถได้ผ่านระบบ GWM Application

วัสดุภายในห้องโดยสารให้สัมผัสที่สบาย โดยใช้วัสดุที่มีคุณภาพในการตกแต่งภายให้สัมผัสที่นุ่มนวล กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร มีความยืดหยุ่นสูงและสัมผัสที่นุ่มนวล เบาะที่นั่งที่ถูกออกแบบมาอย่างถูกต้อง ตามหลักสรีรศาสตร์ ปรับไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชั่น Welcome Seat สามารถเข้า-ออกจากรถได้อย่างง่ายดาย มีระบบเบาะนวดไฟฟ้า เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่

หลังคาพาโนรามิคซันรูฟอัจฉริยะ เพิ่มพื้นที่แสงสว่าง และเปิดมุมมองรับชมวิวทิวทัศน์ได้มากยิ่งขึ้น

ขุมพลังขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor กำลังสูงสุด 105 kW หรือ 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ความเร็วสูงสุด 152 กิโลเมตร/ชั่วโมง อัตราเร่ง 0-50 กม./ชม. ภายใน 3.8 วินาที ระบบขับขี่ทั้งหมด 5 แบบ ได้แก่ 1) มาตรฐาน 2) Sport 3) ECO 4) ECO+ และ 5) อัตโนมัติ ซึ่งผู้ขับขี่สามารถปรับได้เองตามปริมาณแบตเตอรี่ที่คงเหลือ

ความสามารถการกู้คืนพลังงาน (Energy Recovery) ได้สามระดับ ได้แก่ น้อย, มาตรฐาน และมาก เพื่อการประหยัดพลังงาน

แบตเตอรี่ชนิดลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) ความจุ 47.788 kWh มีระยะทางวิ่งสูงสุด 400 กิโลเมตร ในรุ่น 400 PRO แบตเตอรี่ชนิดลิเธียม Ternary (NMC) ความจุ 63.139 kWh ระยะทางวิ่งสูงสุด 500 กิโลเมตร ในรุ่น 500 ULTRA

รองรับการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟกระแสตรง (DC) สูงสุด 60 kW และการชาร์จไฟบ้านแบบ AC 6.6 kW ชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (0% – 80%) 45 นาที สำหรับรุ่น 400 และ 60 นาที สำหรับรุ่น 500 ชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (30% – 80%) 32 นาที สำหรับรุ่น 400 และ 40 นาที สำหรับรุ่น 500 ส่วนการชาร์จด้วยไฟบ้านแบบ AC 8 ชั่วโมง สำหรับรุ่น 400 และ 10 ชั่วโมง สำหรับรุ่น 500

แบตเตอรี่มีความสามารถในการป้องกันมาตรฐาน IPX9K และ IP67 ซึ่งสามารถป้องกันน้ำ การกัดกร่อน การชน อัคคีภัย และการกระแทกได้ โดยเมื่อเกิดการกระแทกระบบไฟฟ้าจะตัดการทำงานภายใน 0.1 วินาที เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

เซลล์แบตเตอรี่ถูกห่อหุ้มด้วยกล่องที่มีความแข็งแรงในระดับ 3 มิติ พร้อมมีการควบคุมอุณหภูมิ และระบบระบายความร้อน

ส่วนระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบทอร์ชันบีม พร้อมเหล็กกันโคลง ได้ทั้งความยึดเกาะถนน และความนุ่มนวลในยามขับขี่ ทุกย่านความเร็ว

ด้านเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่และความปลอดภัย ถือว่าเป็นรถที่จัดเต็มมากๆ รุ่นหนึ่ง ที่เด่นๆ อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) มาพร้อมกล้องติดรถยนต์ ADASรถจะลดความเร็วลง และหยุดตามคันหน้า และเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัวหลังจากเบรคภายใน 3 วินาที รถจะเคลื่อนตัวตามคันข้างหน้า อัตโนมัติ

การเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent Turn) เมื่อระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันทำงาน กล้องจะตรวจสอบความโค้งของถนน และความเร็วจะถูกปรับอัตโนมัติ หากจำเป็นต้องลดความเร็ว ในขณะเข้าโค้งเพื่อความปลอดภัย และเมื่อผ่านโค้งไปแล้ว รถจะกลับเข้าสู่ความเร็วเดิมที่ตั้งไว้

ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI) ระบบการตรวจจับคนเดินถนน และทางแยก โดยสามารถคำนวณระยะทางระหว่างรถ และคนเดินถนนได้แบบเรียลไทม์ มีสัญญาณเตือนด้วยเสียง และการเบรกอัตโนมัติช่วยหลีกเลี่ยงการชนหรือลดแรงกระแทก

การเบรกฉุกเฉินความเร็วต่ำ เมื่อเรดาร์ทำงาน จะตรวจสิ่งกีดขวางทั้งที่หยุดนิ่งหรือคนเดินถนน ที่เคลื่อนที่ในแนวถอยจอด และหากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะชน ระบบจะช่วยเบรคให้อัตโนมัติ

กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา ประกอบไปด้วยกล้องที่มองได้รอบ 4 ตัว มีความละเอียดคมชัด 4 Megapixel โดยระบบจะรวมเอามุมมองภาพทั้ง 4 กล้องมาสร้างภาพที่มีมุมมอง 360 องศา เพื่อแสดงให้เห็น มุมมองของรถในแบบ “เฮลิคอปเตอร์” และเปิดการทำงานอัตโนมัติเมื่อเข้าสู่โหมดการถอยหลัง

ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IAP) ทั้งแนวตั้ง แนวนอน หรือแนวเฉียง โดยเมื่อระบุช่องว่าง ที่จะนำรถเข้าจอดแล้ว รถจะทำการจอดด้วยตัวเองด้วยการควบคุมพวงมาลัย เบรก และคันเร่ง ฯลฯ

โครงสร้างตัวถัง ทำจากเหล็กกล้าขึ้นรูปร้อนที่มีความแข็งแรงสูงเป็นพิเศษ สามารถดูดซับ และลดแรงกระแทกเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นหลัก ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง และในกรณีที่ถุงลมนิรภัยทำงาน สัญญาณเตือนอันตรายจะทำงาน ประตูถูกปลดล็อก และรถจะโทรติดต่อศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉิน และสามารถส่งตำแหน่งเพื่อขอความช่วยเหลือได้ ฯลฯ

เรียกว่าเทคโนโลยีตัวช่วยต่างๆ จัดมาให้เพื่อความสะดวก และปลอดภัยมากขึ้น ด้วยภาพรวมต่างๆ ตั้งแต่การออกแบบภายนอก-ภายใน ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีต่างๆ ที่ลำสมัยจัดมาให้แน่นคัน

ที่สำคัญราคาค่าตัวเริ่มต้นอยู่ที่ 828,500 บาท แถมมีโปรโมชั่นเด็ดๆ ให้เลือกอีกเพียบ จึงไม่น่าแปลกใจที่‘โอร่า กู๊ดแคท’ กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้ายอดนิยมของคนไทย


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *