ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2566 เวลา 19.30 น. ร.ต.อ.ชณัฏฐ์ แว่นแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสที่บริเวณหน้าร้านขายไก่ย่างบนถนนเลียบคลองตลาดสามชุก หมู่ 2 ตำบลสามชุก อำเภอสามชุก จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ กันตะยศ ผู้กำกับ สภ.สามชุก กำลังฝ่ายสืบสวน มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี และหน่วยกู้ชีพ รพ.สามชุก
ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บทราบชื่อ นายอุทัย อายุ 31 ปี อยู่บ้านหมู่ 1 ต.สระทะเล อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ถูกยิงด้วยปืนขนาด .22 ลูกโม่ จำนวน 5 นัด เข้าที่บริเวณคอ 1 นัด ที่ด้านหลังบริเวณสะบัก 4 นัด ล้มนอนจมกองเลือด อยู่ข้างรถจักรยานยนต์สีเขียวอาการสาหัส ทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลสามชุกให้แพทย์ทำการรักษา จากนั้นได้ถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่ โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช อ.เมืองสุพรรณบุรี เนื่องจากอาการสาหัส
เบื้องต้นทราบว่านายอุทัย ผู้บาดเจ็บ เป็นช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ และภรรยาเปิดร้านขายไก่ย่าง อยู่ตรงจุดเกิดเหตุ ก่อนเกิดเหตุ นายอุทัย ได้มาช่วยภรรยาเก็บร้าน และนั่งอยู่บนรถจักรยานยนต์ คุยกับเพื่อนอยู่ริมถนนหน้าร้าน โดยนั่งหันหลังให้ถนนหันหน้าไปทางร้านไก่ย่าง ระหว่างนั้นมีคนร้ายเป็นชายรูปร่างผอมสูงได้เดินข้ามสะพานคลองชลประทานเข้ามาด้านหลัง และชักอาวุธปืนออกมาจ่อยิงในระยะเผาขน แต่กระสุนนัดแรกเกิดด้าน นายอุทัยได้ยินเสียงจึงหันมาดู คนร้ายจึงจ่อยิงใส่นายอุทัย ในระยะเผาขน อีก 5 นัด จนร่างนายอุทัย หงายหลังตกจากรถจักรยานยนต์ หลังก่อแล้วคนร้ายได้เดินถือปืนกลับไปทางเดิมอย่างใจเย็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ กันตะยศ ผู้กำกับ สภ.สามชุก ได้เดินทางไปดูจุดเกิดเหตุและสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเร่งสืบหาเบาะแสของคนร้าย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว และได้ออกไล่ล่าติดตามจับกุมอย่างกระชั้นชิด ทางด้านพนักงานสอบสวนก็จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเตรียมขออนุมัติศาลหมายจับ และได้ส่งกำลังชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆที่คาดว่าคนร้ายใช้หลบหนี เพื่อเพื่อเป็นแนวทางในการติดตามจับกุม
ขณะที่ นายธงชัย อายุ 41 ปีญาติคนเจ็บเล่าว่า เพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ประมาณ 1 ปี ไม่แน่ใจว่ามีเรื่องอะไรกันเพราะอยู่กันคนละอู่ ตรงนี้เป็นอู่ที่ 2 ส่วนผมอยู่อีกที่ คนเจ็บเปิดอู่ซ่อมรถเหมือนกับผม คนยิงมาซื้อไก่ย่างเป็นประจำแล้วก็ยังเป็นลูกค้าของที่อู่ซ่อมรถของเราด้วย ซึ่งน้องชายขายไก่ย่างด้วยและเปิดอู่ซ่อมรถด้วย ทราบว่าก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุมีการมองหน้ากันมาก่อน เมื่อประมาณสองวันนี้ ส่วนสาเหตุที่แท้จริงตนไม่ทราบ ทีแรกยังคิดว่าเป็นเรื่องยาหรือเรื่องอู่ซ่อมรถ แต่มารู้อีกสาเหตุหนึ่งก็คือการมองหน้ากัน แต่ก็ยังไม่ละทิ้งเรื่องประเด็นยาเสพติด ผมพูดตรงๆเพราะเราก็ยังไม่แน่ใจ แต่ถ้าจะทะเลาะกันก็น่าจะเป็นประเด็นที่น้องขี่รถไปมองหน้าเขาที่หน้าบ้านมากกว่าตามที่ได้ข่าวมา แต่ก็ไม่ได้เข้าข้างน้องชายนะ แต่ถ้าน้องไม่ผิดพี่ก็เต็มร้อยเหมือนกัน ผิดว่าไปตามผิด
ด้านนางสาวมัทฑะนา อายุ 37 ปี ภรรยาผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขายของอยู่ ผู้ก่อเหตุเป็นลูกค้ามาซื้อไก่ย่างที่ร้านประจำทุกวันวันละ 2 ไม้ แต่ไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว ส่วนสามีก็จะมานั่งรอช่วยเก็บร้านเป็นประจำทุกวัน เวลาประมาณ 1 ทุ่มสามีจะนั่งคุยอยู่กับพี่อีกคนนึงตามปกติ ซึ่งลูกค้าคนนี้เข้ามาซื้อของ ก่อนเกิดเหตุสามีกำลังอยู่กับเพื่อนเขาไม่ได้แซวอะไรลูกค้า เขาอาจจะเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า หนูก็ไม่รู้ว่าลูกค้าคนนี้ เขาไม่พอใจอะไรหรือยังไงสามีก็คุยเล่นตามปกติอยู่กับ ก่อนที่คนร้ายเดินเข้ามายิง เขาพูดว่า “น้องเป็นอะไรมากหรือเปล่า” จากนั้นเขาก็ยิงใส่เลย ยิงทั้งหมด 6 นัด แต่เข้า 5 นัด เพราะนัดแรกยิงไม่ออกกระสุนด้าน ตนเห็นปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นปืนลูกโม่สีดำ มาคนเดียวเดินข้ามมาจากถนนอีกฝั่ง
หลังก่อเหตุเห็นเขาเดินกลับเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อาการเขาเหมือนคนเมาเพราะเห็นเขามาซื้อเหล้ากินทุกวัน ไม่รู้ว่าคนร้าย เข้าใจอะไรผิดและทำไปได้อย่างไรทั้งที่เห็นกันอยู่ทุกวัน ทำไมมีอะไรไม่พูดกันดีๆ