เช็ก 5 สัญญาณเตือน ร่างกายกำลังขาด ‘วิตามินบี’


วิตามิน B มีความจำเป็นต่อร่างกายโดยจะทำหน้าที่เป็นโคเอนไซม์ของปฏิกิริยาเผาผลาญสารอาหาร เพื่อนำไปสร้างสารสำคัญต่างๆ แก่ร่างกายให้เป็นไปอย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะระบบประสาทและสมอง รวมไปถึงมีการทำงานอย่างสมบูรณ์ภายในร่างกายอย่างระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย ข้อมูลจาก เมก้า วีแคร์ อธิบายว่า แหล่งอาหารที่ให้วิตามิน B เช่น ธัญพืช ข้าวกล้อง รำข้าว ยีสต์ เครื่องในสัตว์ เนื้อหมู ปลา นมเปรี้ยว และผักใบเขียว

แต่ปัจจุบันชีวิตประจำวันมีความเร่งรีบสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ชีวิตในเมือง จนทำให้ไม่ได้รับสารอาหารที่หลากหลายมากนัก การทานวิตามินบีในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่จะช่วยเสริมวิตามิน B ได้ดี

อาการแบบไหน เข้าข่ายขาดวิตามิน B

ข้อมูลจาก โรงพยาบาลพญาไท อธิบายว่า วิตามินเป็นสิ่งที่ร่างกายของเราต้องการเป็นประจำในทุกๆ วัน จะมากหรือน้อย แตกต่างกันไปตามแต่ละชนิด วิตามินมีส่วนสำคัญในการช่วยให้ระบบการทำงานของร่างกายเป็นปกติ การขาดวิตามินจึงส่งผลเสียต่อระบบร่างกายและอาจนำมาซึ่งโรคอันตรายชนิดที่อาจจะคิดไม่ถึง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

อาการแบบไหนเข้าข่ายขาดวิตามิน B

1. ชาตามแขนตามขา หรือเป็นเหน็บชาบ่อย เพราะวิตามินบีมีส่วนช่วยในการบำรุงปลายประสาท การขาดวิตามินบี จึงทำให้เกิดอาการเหน็บชาขึ้นได้

2. เครียดง่าย หรือปวดหัวไมเกรนบ่อยครั้ง เพราะวิตามินบีได้รับการยกย่องให้เป็นวิตามินต้านความเครียด คอยกระตุ้นให้ต่อมหมวกไตผลิตฮอร์โมนลดเครียด ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย การได้รับวิตามินบีไม่เพียงพอจึงอาจกระตุ้นให้เกิดความเครียด ความวิตกกังวล จนนำมาซึ่งโรคที่เกิดจาดความเครียดได้

3. เบื่ออาหาร อะไรที่เคยชอบ เคยอยากกินก็พาลไม่น่ากินไปหมด เพราะวิตามินบีมีส่วนสำคัญในการย่อยอาหาร และกระตุ้นการดูดซึมของไขมันและโปรตีนในร่างกาย การที่ระบบย่อยอาหารทำงานไม่ปกติ จึงทำให้รู้สึกไม่อยากอาหารนั่นเอง

4. โลหิตจาง เนื่องจากวิตามินบีมีส่วนในการเสริมสร้างเม็ดเลือดแดง ช่วยให้เม็ดเลือดแดงสามารถลำเลียงออกซิเจนไปตามอวัยวะต่างๆได้ตามความต้องการของร่างกาย การได้รับวิตามินที่ไม่เพียงพอจึงทำให้การทำงานของเม็ดเลือดแดงผิดปกติ และยังอาจส่งผลให้อวัยวะรวมไปถึงกล้ามเนื้อต่างๆทำงานผิดปกติด้วย

5. ผิวหนังอักเสบ แสบคันตามผิวหนัง เป็นสิว การขาดวิตามินบีทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ไม่ดีเท่าที่ควร ไขมันจึงถูกขับออกมาตามส่วนต่างๆ ของผิวหนัง จนทำให้เกิดการอุดตัน อักเสบ และเป็นสิว ได้ด้วย

วิตามิน B แต่ละชนิดมีหน้าที่อย่างไร

ทั้งนี้ วิตามินบี มีหลากหลายชนิด เพื่อใช้บำรุงฟื้นฟูร่างกาย รวมถึงเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะระบบประสาทและสมอง วิตามินบี สามารถพบได้ทั่วไปจากการรับประทานอาหาร โรงพยาบาลเปาโล อธิบาย หน้าที่ของวิตามิน B แต่ละชนิดไว้ ดังนี้

วิตามิน B1 มีหน้าที่เผาผลาญน้ำตาลที่เรารับประทานเข้าไปให้เกิดเป็นพลังงาน ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง และโรคเหน็บชา ช่วยบำรุงประสาท กล้ามเนื้อ ช่วยให้หัวใจทำงานเป็นปกติ หากร่างกายขาดวิตามิน B1 จะทำให้อ่อนเพลีย ชาตามนิ้วมือ นิ้วเท้า และส่งผลเสียต่อกล้ามเนื้อหัวใจ

วิตามินบี B2 มีประโยชน์ในเด็กที่กำลังเจริญเติบโต ป้องกันการเกิดแผลในช่องปาก รวมถึงโรคปากนกกระจอก ช่วยป้องกันการเกิดไมเกรน ทำให้ผิวหนัง เล็บ เส้นผมมีสุขภาพดี และลดการเกิดมะเร็งหลอดอาหาร

วิตามินบี B3 ช่วยเผาผลาญอาหาร ทำให้เกิดพลัง และสร้างไขมันในร่างกาย ช่วยทำลายสารพิษจากควันบุหรี่ มลพิษ รักษาภาวะเครียด และช่วยการไหลเวียนของเลือด

วิตามิน B5 มีความจำเป็นต่อการทำงานของสมอง ช่วยเรื่องการนอนหลับ และควบคุมสมดุลเกลือแร่ในร่างกาย บรรเทาอาการข้ออักเสบ ลดระดับคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์

วิตามิน B6 จำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาทและสมอง เสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกายให้แข็งแรง ช่วยชะลอวัย และมีหน้าที่สำคัญเรื่องการเผาผลาญโปรตีนในร่างกาย ช่วยปรับสภาพผิวหนังให้เป็นปกติ

วิตามิน B7 ช่วยป้องกันผมหงอก รักษาโรคเกี่ยวกับเส้นผม และหนังศีรษะ บำรุงรักษาเล็บที่แห้งเปราะ ช่วยในการเผาผลาญไขมัน และโปรตีน บรรเทาอาการผื่นผิวหนังอักเสบ ผดผื่นคันต่าง ๆ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ

วิตามิน B9 ช่วยบำรุงผิวพรรณและสุขภาพ แก้ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ ช่วยชะลอการเกิดผมขาว หากรับประทานร่วมกับพาบา และ วิตามิน B5 จะช่วยให้เจริญอาหาร หากร่างกายอ่อนเพลีย ช่วยป้องกันแผลร้อนในได้ ช่วยรักษาภาวะซีดหรือโลหิตจาง ป้องกันพยาธิในลำไส้ และอาการแพ้จากอาหารเป็นพิษ ป้องกันภาวะพิการในทารกแรกเกิด ช่วยในการสร้างน้ำนมของมารดาหลังคลอดบุตร ช่วยลดระดับกรดอะมิโนโฮโมซิสเทอีนในเลือด และลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจได้

วิตามิน B12 มีความจำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือด การทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง และระบบทางเดินอาหาร ป้องกันการอ่อนเพลียจากโรคโลหิตจาง

ถึงแม้วิตามิน B จะมีหลากหลายชนิด ก็ไม่ควรขาดตัวใดตัวหนึ่ง เพราะแต่ละชนิดจะคอยทำหน้าที่เสริมซึ่งกัน และกัน นอกจากนี้ ยังต้องทำความเข้าใจก่อนว่าวิตามินไม่ใช่ทางเลือกหลักของการรักษา หรือป้องกันโรค เป็นเพียงตัวช่วยในการฟื้นฟู บำรุงร่างกาย ซึ่งต้องควบคู่ไปกับการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม ด้วยการทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ ก็จะช่วยเสริมให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายเราทำงานได้อย่างเต็มที่ และมีประสิทธิภาพ

อ้างอิง : รพ.เปาโล , รพ.พญาไท , เมก้า วีแคร์ 


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *