เด็ก 5 คนผวา เล่นน้ำอยู่ดีๆ ชายฉกรรจ์ จอดรถ ชักปืนยิง ต้องดำน้ำ-แหวกต้นข้าวหนีตาย ขู่ซ้ำใครโผล่หัวขึ้นมา โดนสอยแน่ ผู้ปกครองโร่แจ้ง ตร.

วันที่ 17 ก.ย.2566 ผู้ปกครองของเด็กนักเรียน ตั้งแต่ชั้น ป.5 – ม.2 รวม 5 คน ใน ต.หนองปล่อง อ.อชำนิ จ.บุรีรัมย์ ออกมาร้องขอความช่วยเหลือและวอนให้ตำรวจเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี หลังจากบุตรหลานทั้ง 5 คนพากันไปตกปลาและลงเล่นน้ำในคลองอยู่ที่อยู่ในนาข้าว บริเวณริมถนนสายบ้านสิงห์-หนองปล่อง ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ต.บ้านสิงห์ อ.นางรอง เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.66) แล้วถูกชายฉกรรจ์ 4 คน อายุประมาณ 25–35 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ และรถกระบะสีดำ มีคอกสแตนเลส ติดไฟไซเรนบนหลังคา มาจอด

จากนั้นแล้วชายฉกรรจ์ทั้ง 4 ค นเดินลงมาที่กลุ่มเด็กนักเรียนกำลังเล่นน้ำกันอยู่ แล้ว 1 ในนั้น ซึ่งคนในกลุ่มเรียกว่า “ฉาน” ชักอาวุธปืนออกมาชี้ไปที่กลุ่มเด็กนักเรียนทั้ง 5 คน แล้วยิงใส่ 1 นัดแต่ปืนไม่แตก จึงตะโกนข่มขู่ว่าถ้าใครโผล่หัวขึ้นมาจะยิงให้ตาย ทำให้เด็กนักเรียนทั้ง 5 คนหวาดกลัว ต่างพากันมุดน้ำแหวกไปตามต้นข้าวเพื่อหนีตายจนถูกต้นข้าวบาดตามตัว

จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ทั้ง 4 คน ยังรื้อค้นหาทรัพย์สินกับเสื้อผ้าของเด็กนักเรียนที่กองเอาไว้ ขโมยเอาเสื้อ กางเกง รองเท้า และเข็มขัดของนักเรียนไป ก่อนพากันขับรถหลบหนีไป นักเรียนทั้ง 5 คน จึงพากันตะเกียกตะกายขึ้นจากน้ำและทุ่งนา แล้วพากันไปที่ สภ.ชำนิ เพื่อแจ้งความ แต่ตำรวจบอกว่าจุดเกิดเหตุอยู่ในท้องที่ สภ.นางรอง จึงกลับบ้านไปหาผู้ปกครองเพื่อพาไปแจ้งความที่ สภ.นางรอง เมื่อคืนวันที่ 16 ก.ย.66 ที่ผ่านมา

ซึ่งเด็กนักเรียนผู้เสียหายทั้ง 5 คน ยืนยันว่าคนที่ชักปืนยิงใส่และข่มขู่ชื่อนายฉาน เพราะเคยเห็น และจำรถได้แม่น ส่วนอาวุธปืนก็เป็นปืนกระบอกเดียวกันกับที่นายฉาน โพสต์ลงในเฟซบุ๊ก เมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ที่ผู้ปกครองกังวลใจและเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม คือ คืนวันที่ไปแจ้งความซึ่งตำรวจยังไม่ทันได้สอบปากคำเด็กผู้เสียหาย แต่เห็นรถของนายฉาน ไปที่โรงพัก แล้วมีตำรวจเดินไปคุยด้วยที่รถ ผู้ปกครองจึงได้บันทึกคลิปไว้ และเมื่อเดินไปดูที่รถก็พบเสื้อกั๊กแขวนบนเบาะด้านหน้า มีตัวหนังสือว่า “Police”

ขณะที่เฟซบุ๊กของนายฉาน เคยโพสต์ภาพบัตรที่แต่งเครื่องแบบคล้ายตำรวจด้วย แต่ไม่รู้ว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ เบื้องต้นที่นายฉาน ไปพบ ตร. ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ก่อเหตุตามที่เด็กกล่าวหา เพราะช่วงนั้นอยู่ต่างจังหวัด

ผู้ปกครองจึงไปหาภาพจากกล้องวงจรปิดใกล้จุดเกิดเหตุเพื่อเป็นหลักฐาน พบว่าบริเวณสี่แยกหนองปล่องห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กม. พบรถกระบะคันเดียวกับที่เด็กให้ข้อมูลขับมุ่งหน้าไปทางจุดที่เกิดเหตุ เวลาประมาณ 13.48 น. ซึ่งเป็นเวลาไล่เลี่ยกับที่เกิดเหตุ

สอบถาม ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 เล่าว่า ตนกับเพื่อนทั้งรุ่นพี่ ม. 2 และ รุ่นน้องพวกรวม 5 คน พากันไปตกปลาและลงเล่นน้ำในคลองริมถนน จากนั้นมี จยย.ขี่ซ้อนกันมา 2 คนแล้ว แล้วเห็นคุยโทรศัพท์

สักพักเห็นรถกระบะหลังคาติดไซเรน ตามมาแล้วมีผู้ชายลงมา 2 คน หนึ่งในนั้นคือ นายฉาน ถือปืนลงมาด้วยแล้วยิงใส่พวกตน 1 นัดแต่ปืนไม่แตก พวกตนตกใจและกลัวจึงพากันมุดน้ำแหวกต้นข้าวหนีเอาตัวรอด

จากนั้นชายฉกรรจ์ทั้ง 4 พากันมาค้นเสื้อผ้าใต้เบาะรถแถมยังเอาเสื้อผ้า รองเท้าไปด้วย 3 คู่ ทั้งยังขู่ว่าถ้าใครโผล่หัวขึ้นมาจะยิงให้ตาย พวกตนจึงพากันแอบในป่าข้าวเกือบครึ่งชั่วโมง พอเขาขับรถออกไปจึงพากันขึ้นจากน้ำ ยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องกับใครก็ไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงมาก่อเหตุแบบนี้ ยอมรับกลัวมาก

ด้าน ด.ช.บี (นามสมมติ) อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 ก็ให้ข้อมูลตรงกันว่า วันเกิดเหตุพวกตนรวม 5 คนไปตกปลาและเล่นน้ำในคลอง ตอนแรกมี จยย.ขี่มาก่อน แล้วก็โทรตามนายฉาน ขับกระบะมาทีหลังกับเพื่อนอีกคน รวมเป็น 4 คน มาค้นเสื้อผ้าใต้เบาะรถ

แล้วนายฉาน ชักปืนออกมายิงใส่ 1 นัด แต่ไม่แตก พวกตนพากันมุดน้ำแหวกต้นข้าวหนีเอาตัวรอด ทั้งยังขู่ว่าถ้าใครโผล่หัวออกมากูยิง ใครออกมากูยิง ป่าข้าวขยับตรงไหนยิงตรงนั้น ตอนนั้นกลัวมากพากันหลบรอจนกว่าเขาขับรถออกไป

ด้าน นายสมพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ผู้ปกครองน้องเอ เล่าว่า จากที่ลูกชายและเพื่อนๆ เล่าให้ฟังถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่อุกอาจมาก ซึ่งลูกหลานเป็นแค่เด็ก ทำไมถึงทำขนาดนี้ ทั้งที่เด็กก็ไม่เคยไปทำอะไรให้ แล้วถ้าเกิดยิงใส่จนเกิดการสูญเสียจะทำยังไง ซึ่งผู้ปกครองทุกคนต่างเป็นห่วงลูกหลาน เพราะไม่รู้ว่าที่เขาก่อเหตุแบบนี้ต้องการอะไร อยากให้ตำรวจดำเนินการเอาผิดกับผู้ก่อเหตุตามกฎหมายด้วย