เทศกาลปลาทูอร่อยที่ท่าฉลอม ครั้งที่ 14 ตอน ปลาทูนี้…ที่คิดถึง เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 ที่บริเวณริมเขื่อนวัดสุทธิวาตวราราม ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรสาคร นายวรณัฎฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในพิธีเปิดงานเทศกาลปลาทูอร่อยที่ท่าฉลอม ครั้งที่ 14 ตอน ปลาทูนี้…ที่คิดถึง

นางพรจิตร สร้อยเพ็ชร ประธานชมรมพลังสตรีท่าฉลอม ปลัดจังหวัด นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร หัวน้าส่วนราชการ นายอำเภอ นายกสมาคมการประมงสมุทรสาคร นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรสาคร ประธานบริษัท สมุทรสาครพัฒนาเมือง (วิสาหกิจเพื่อสังคม), ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุทรสงคราม หอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร ภาคเอกชน กลุ่มพลังสตรีท่าฉลอม และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

สำหรับ การจัดงานเทศกาลปลาทูอร่อยที่ท่าฉลอม ครั้งที่ 14 ตอน ปลาทูนี้…ที่คิดถึง เกิดจากการรวมพลังของชมรมพลังสตรีท่าฉลอมจังหวัดสมุทรสาคร ภาคเอกชน และเครือข่ายประชาชนในพื้นที่ตำบลท่าฉลอม ซึ่งจัดงานฯ มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 จนถึงปัจจุบัน

การจัดงานดังกล่าวเป็นการประชาสัมพันธ์ปลาทูอร่อยต้องที่ท่าฉลอม จังหวัดสมุทรสาครมีกองเรือปลาทูกว่า 30 ลำ ออกเรือไปจับปลาทูตอนกลางคืนแล้วกลับเข้าฝั่งมาตอนเช้าปลาทูจึงมีสดแน่นอนและเนื่องจากทะเลอ่าวไทยตัว ก. เป็นทะเลดินเลนจึงทำให้เนื้อปลาทูมีความนิ่มอร่อย การจัดงานเทศกาลปลาทูอร่อยที่ท่าฉลอม ครั้งที่ 14 ตอน “ปลาทูนี้ ที่คิดถึง” จะจัดขึ้นในวันที่ 20 – 24 พฤศจิกายน567 ที่บริเวณริมเขื่อนวัดสุทธิวาตวราราม (วัดช่องลม) ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรสาคร

โดยภายในงานสำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสาครนำปลาทูเป็นๆ ตัวใหญ่ๆ มาโชว์อยู่ในตู้ การจัดจำหน่ายเมนูอาหารที่ทำจากปลาทูหลากหลายเมนู อาทิ

• ปลาทูทอดกระเทียม
• ปลาทูราดพริก
• ฉู่ฉี่ปลาทู
• ปลาทูซอสสามรส
• ปลาทูนึ่งที่ตัวใหญ่ๆ ที่อยู่ในเข่ง
• ปลาทูซาเตี๊ยะ
• ปลาทูแดดเดียว
• ปลาทูหวาน
• ปลาทูต้มส้ม
• ทอดมันปลาทู
• ห่อหมกปลาทู
• ข้าวต้มปลาทู
• และสินค้าจากโรงงานมาขายโดยตรง อาหารทะเลแห้ง เป็นต้น

ซึ่งการจัดงานมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและยกระดับงานเทศกาลปลาทูอร่อยที่ท่าฉลอมเป็น Soft Power ด้านอาหารสู่สากล, เพื่อสร้างการรับรู้ของชุมชนท่าฉลอมในการเป็นย่านชุมชนเก่าของจังหวัดสมุทรสาครได้รับการประกาศให้เป็นแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมของจังหวัดสมุทรสาครและเป็นสุดยอดชุมชนต้นแบบ

เที่ยวชุมชน ยลวิถี ให้เป็นที่รู้จักในระดับประเทศ, เพื่อสร้างรายได้หมุนเวียนเพิ่มขึ้นจากทุนทางวัฒนธรรม,เพื่อเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล, เพื่อปลูกจิตสํานึกให้รักและความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมของชุมชน ต่อยอดในด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในจังหวัดสมุทรสาคร ต่อไป