แจกที่เที่ยว “เฉิงตู” ชมแพนด้ายักษ์ ชิมต้นตำรับอาหารเสสวน สัมผัสมนต์เสน่ห์ของนครจีนที่ทำให้ได้รับการจัดอันดับจาก The Times ให้เป็นเมืองน่าเที่ยวสุดในจีน
.ads-billboard-wrapper{display:flex;min-height:250px;align-items:center;justify-content:center}
สร้างมงคลชีวิต 24 ก.พ.นี้ ร่วมสักการะ “พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ” ณ ท้องสนามหลวง
รวม 7 ซีรีส์เกาหลีสนุกสุดมันส์ แนวแอ็กชันเรื่องใหม่ของปี 2024
“เฉิงตู” หนึ่งในสิบสองที่เที่ยวจีนที่เว็บไซต์ The Times ยกให้เป็นเมืองที่น่าเที่ยวที่สุดเป็นอันดับต้นๆ เพราะนอกจากที่นี่จะเป็นที่ตั้งฐานการวิจัยการเพาะพันธุ์แพนด้ายักษ์ของจีนแล้ว ยังเป็นจุดแวะยอดนิยมสำหรับทัวร์จีน ที่เหล่านักชิมจะเข้ามาสัมผัสกับศาสตร์การทำอาหารดั้งเดิมและรสชาติของอาหารต้นตำรับสไตล์เสฉวน ไม่ว่าจะเป็น หม้อไฟรสเผ็ด เต้าหู้มาโป หรืออาหารแนวสตรีทฟู้ดชื่อดังของจีนมากมายอีกด้วย
แต่ที่นี่นั้นจะมีจุดไฮไลท์น่าเที่ยวตรงไหนบ้าง วันนี้ทีมข่าวพีพีทีวีจึงได้รวบรวมข้อมูลมาฝากทุกคนกัน!
บ้านแพนด้ายักษ์
สมบัติประจำชาติจีนและสัญลักษณ์ของกองทุนสัตว์ป่าโลก แพนด้ายักษ์เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ที่หายากที่สุดในโลก โดยมีเพียงประมาณ 1,800 ตัวเท่านั้นที่อาศัยอยู่ในป่า พวกเขาอาศัยอยู่ในป่าไผ่ขนาดใหญ่ในบริเวณเชิงเขาทิเบตของมณฑลเสฉวน กานซู และส่านซี
โดย 80% พบในเสฉวน และที่นี่ยังมีฐานแพนด้ายักษ์หลายแห่งรอบเมือง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาดู เข้ามาทักทายแพนด้ายักษ์กันได้
โดยเฉพาะ ศูนย์อนุรักษ์และวิจัยแพนด้ายักษ์ของจีน (CCRCGP) หรือฐานแพนด้าตู้เจียงเอียน ได้มีการจัดโครงการอาสาสมัคร พานักท่องเที่ยวเยี่ยมชมสัตว์เลี้ยงต่างๆ รวมถึงแพนด้ายักษ์ของศูนย์ฯ อย่างใกล้ชิดด้วย ดังนั้นแล้วผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปท่องเที่ยวที่นี่กันได้ ทุกคนจะได้ประสบการณ์จากฐานเพาะพันธุ์และวิจัยแพนด้ายักษ์ที่มีความเชี่ยวชาญ และหากใครที่อยากเห็นลูกแพนด้าแรกเกิน ให้ไปเที่ยวกันในเดือนสิงหาคมและกันยายน เพราะถือเป็นเดือนที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมลูกแพนด้าแรกเกิด
นอกจากนี้ใครที่อยากดูแพนด้าตามถิ่นธรรมชาติ แนะนำให้ไปที่ “เขตอนุรักษ์ธรรมชาติแห่งชาติหว้อหลง” (Wolong) หรือ “ศูนย์แพนด้าหว้อหลง” ซึ่งอยู่ห่างจากเฉิงตูไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 120 กิโลเมตร ที่นี่ถือเป็นบ้านเกิดที่แท้จริงของแพนด้า เป็นศูนย์ที่สร้างขึ้นมาใหม่เพื่อทำโครงการฝึกอบรมแพนด้าในป่า และเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินป่ามาดูถิ่นที่อยู่อาศัยของแพนด้าได้
ภูเขาเอ๋อเหมย
ภูเขาเอ๋อเหมย เป็นหนึ่งในสี่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของจีน ร่วมกับภูเขาหวูไถแห่งมณฑลซานซี ภูเขาผู่โถวแห่งมณฑลเจ้อเจียง และภูเขาจิ่วหัวแห่งมณฑลฮานฮุย
ภูเขาลูกนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ เพราะเป็นที่ประดิษฐานของวัดพุทธแห่งแรกในจีน ที่ถูกสร้างขึ้นบนยอดเขาเอ๋อเหมยเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 1 ก่อนที่ต่อมาจะมีวัดอื่นๆ เพิ่มมาอีกกว่า 30 วัด ไม่ว่าจะเป็น วัดหว่านเนียน ที่มีพระพุทธรูปสำริดผู่เซียนสูง 7.85 เมตร, วัดเป่ากั๋วแห่งศตวรรษที่ 17, สวนลี่โกว วัดฟูหู และ พระพุทธรูปองค์ใหญ่ “เล่อซาน” ซึ่งทั้งหมดนี้ ได้เปลี่ยนภูเขานี้ให้กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งของพุทธศาสนา
พระพุทธรูปใหญ่เล่อซาน
ถ้าใครเคยได้ยินประโยคหนึ่งที่ชาวเสฉวนพูดกันว่า “ภูเขาคือพระพุทธเจ้า และพระพุทธเจ้าก็คือภูเขา” แต่ไม่รู้จริงหรือไม่ อยากให้มาที่เนินหน้าผาบนภูเขาเอ๋อเหมย เพราะทุกคนจะได้เห็นพระพุทธรูปองค์ที่ใหญ่ที่สุดและสูงที่สุดในโลก และสัมผัสได้ว่านั่นคือเรื่องจริง
รูปปั้นนี้และบริเวณจุดชมวิวภูเขาเอ๋อเหมยเป็นส่วนหนึ่งที่ได้รับการจารึกไว้ให้เป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกตั้งแต่ปี 1996 พื้นที่แห่งนี้มีความโดดเด่นทางวัฒนธรรม และเป็นสถานที่ที่พุทธศาสนาก่อตั้งขึ้นเป็นดินแดนแรกของจีนก่อนจะแผ่ขยายออกไป ใครที่อยากไปค้นพบความมหัศจรรย์นี้ ที่นี่จึงไม่ควรพลาด
ถนนโบราณจิ๋นหลี่
เฉิงตูเป็นเมืองแรกๆ ของโลกที่ได้รับการประกาศจากยูเนสโกให้เป็นเมืองแห่งการทำอาหารในปี 2010 เพราะที่นี่เป็นแหล่งกำเนิดอาหารเสฉวน หนึ่งในสี่ประเภทอาหารหลักของจีน ควบคู่ไปกับอาหารกวางตุ้ง อาหารซานตง และอาหารริมฝั่งแม่น้ำแยงซีเกียงและแม่น้ำฮวงโห
และคำอธิบายของเมืองที่ยูเนสโกเคยประกาศไว้ได้ระบุว่า “อาหารที่ดีที่สุดมาจากจีน แต่รสชาติที่เข้มข้นสุดมาจากเฉิงตู” แต่ถ้าใครอยากจะไปลิ้มลองอาหารของเมืองเฉิงตู อยากให้เริ่มกันที่ “ถนนโบราณจิ๋นหลี่” เพราะที่นี่ถือเป็นแหล่งอาหาร สตรีทฟู้ด คาเฟ่ และร้านชา ที่มีหลากหลายร้านให้ได้ไปลองกัน
โรงละคร Sichuan Opera
การแสดงเปลี่ยนหน้ากาก ถือเป็นวัฒธรรมการแสดงงิ้วที่เก่าแก่ที่สุดในจีน แม้ว่านักมายากล นักกายกรรม และนักพ่นไฟจะทำให้ผู้ชมตื่นตาตื่นใจ แต่การเปลี่ยนหน้ากากแบบนี้กลับเป็นสิ่งที่ดึงดูดผู้ชมได้มากที่สุด
สำหรับการเปลี่ยนแปลงหน้ากาก มีต้นกำเนิดเมื่อประมาณ 300 ปีที่แล้ว โดยการใช้หน้ากากหลายแบบที่นักแสดงเปลี่ยนอย่างรวดเร็วเพื่อเผยให้เห็นด้านใหม่ๆ ของตัวละครโดยไม่ต้องเปลี่ยนการแต่งหน้า ความลับที่ได้รับการปกป้องอย่างดีเบื้องหลังงานศิลปะชิ้นนี้ได้รับการสืบทอดจากตระกูลละครจากรุ่นสู่รุ่น ดาราโอเปร่ามากทักษะสามารถเปลี่ยนหน้ากากได้มากถึง 10 ชิ้นในเวลาเพียง 20 วินาที ซึ่งเป็นความสามารถที่สร้างปริศนาและทำให้ผู้ชมประหลาดใจอย่างต่อเนื่อง
และสถานที่ที่จะสามารถดูศิลปวัฒนธรรมนี้ ที่ได้รัการสืบทอดกันรุ่นสู่รุ่นภายในตระกูล หลายชั่วอายุคน แนะนำให้ไปชมกันที่โรงละคร Sichuan Opera โรงละครเก่าแก่ที่อยู่ใจกลางเมืองเฉิงตู
สำหรับเฉิงตูก่อตั้งเมื่อ 2,300 กว่าปีที่แล้ว และเป็นเมืองหลวงของมณฑลเสฉวนของจีน ที่นี่แม้จะเป็นเมืองขนาดใหญ่แห่งเดียวของจีนที่ยังคงใช้ชื่อและที่ตั้งเดียวกันมานานกว่าสองศตวรรษ ดูเก่าแก่มากก็ตาม แต่จากข้อมูลข้างต้นก็แสดงให้เห็นถึงการดูแลรักษาเป็นอย่างดี ที่ทุกคนจะสามารถมาสัมผัสวัฒนธรรมภูมิปัญญาของชาวเสฉวนกันตั้งแต่โบราณกาลกันได้ เฉิงตูจึงเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่น่าลองไปเยือนกันให้ได้สักครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก : The Times และ Travel Tomorrow