เปิดรายได้รวม ‘ไทบ้าน เดอะซีรีส์’ หลัง ‘สัปเหร่อ’ ภาพยนตร์ลำดับที่ 6 ในจักรวาลทำรายได้รวมทั่วประเทศทะยานสู่ 200 ล้านบาท จากจุดเริ่มต้นด้วยทุนเพียง 2 ล้านบาท สู่ภาพยนตร์รายได้สูงสุดแห่งยุค
เปิดรายได้รวม ‘ไทบ้าน เดอะซีรีส์’ หลัง ‘สัปเหร่อ’ ภาพยนตร์ลำดับที่ 6 ในจักรวาลทำรายได้รวมทั่วประเทศทะยานสู่ 200 ล้านบาท จากจุดเริ่มต้นด้วยทุนเพียง 2 ล้านบาท สู่ภาพยนตร์รายได้สูงสุดแห่งยุค
“สัปเหร่อ” ภาพยนตร์เรื่องลำดับที่ 6 ในจักรวาล “ไทบ้าน เดอะซีรีส์” ทำรายได้รวมทั่วประเทศแตะ 200 ล้านบาท ขณะที่รายได้ในเขตกรุงเทพฯ, ปริมณฑล, เชียงใหม่ทะลุ 71.77 ล้านบาท หลังจากการเข้าฉายเพียง 11 วัน ขึ้นแท่นเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดประจำปี 2566 และนับเเป็นหนังจาก “จักรวาลไทบ้าน” ที่ทำรายได้สูงที่สุด
“กรุงเทพธุรกิจ” พาย้อนทำความรู้จักภาพยนตร์ตระกูล “ไทบ้าน เดอะซีรีส์” มีมาแล้วกี่เรื่อง และทำรายได้แต่ละเรื่องไปเท่าใดบ้าง
ไทบ้าน เดอะซีรีส์ คือภาพยนตร์นำเสนอเรื่องราวของวัยรุ่นหนุ่มสาวอีสาน เป็นไอเดียของ สุรศักดิ์ ป้องศร, อวิรุทธ์ อรรคบุตร, บุญโชค ศรีคำ และ ศุภณัฐ นามวงศ์ ผู้กำกับและคนเขียนบทของหนังชุดนี้ ที่อยากนำเสนอหนังสไตล์อีสานแบบจริง ๆ โดยหยิบเรื่องราวใกล้ตัว วิถีชีวิตที่คุ้นชินมาเล่า ใช้ภาษาอีสานทั้งเรื่อง และแสดงโดยชาวอีสานจริง ๆ
“ตอนนั้นมี Hormones วัยว้าวุ่น เราเห็นกระแสว่าเป็นหนังวัยรุ่นขายได้ และยังไม่มีใครทำสไตล์แนวอีสานมาก่อน” สุรศักดิ์ ให้สัมภาษณ์กับ The People
ในการสร้างภาพยนตร์ ไทบ้าน เดอะซีรีส์ “ภาคแรก” ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของจักรวาลไทบ้านนี้ พวกเขาได้รับทุนสร้างเพียง 2 ล้านบาท จาก สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ อดีตสส. จ.ศรีสะเกษ เขต 1 นายทุนหลัก โดยในภาคแรกนี้เป็นเรื่องของ “จาลอด” ชายหนุ่มผู้ไม่เคยมีแฟนมาก่อน อยากจะจีบสาวหนึ่งร้อยคน เพราะเชื่อว่าต้องมีสักคนที่ตอบรับคำขอเป็นแฟน
- จุดเริ่มต้นจักรวาล “ไทบ้าน เดอะซีรีส์”
23 ก.พ. 2560 ไทบ้าน เดอะซีรีส์ เข้าฉายครั้งแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้วยความสดใหม่ของภาพยนตร์ เนื้อเรื่องที่สะท้อนถึงอีสานยุคปัจจุบัน ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ทำให้หนังเรื่องนี้ กวาดรายได้ไปถึง 30 ล้านบาท กลายเป็นที่พูดถึงและส่งต่อกระแสปากต่อปาก จนได้เข้าฉายในกรุงเทพ และปริมณฑล เก็บรายได้ไปได้อีก 7.5 ล้านบาท รวมตลอดการเข้าฉายทำรายได้ราว 37.5 ล้านบาท อีกทั้งยังได้รับรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ครั้งที่ 27 สาขาเพลงนำภาพยนตร์ยอดเยี่ยม เพลง “ทดเวลาบาดเจ็บ” ขับร้องโดย บอย พนมไพร
หลังจากนั้นในปี 2561 “ไทบ้าน เดอะซีรีส์ ภาค 2” ก็ได้เข้าฉาย โดยคราวนี้หนังถูกแบ่งออกเป็น 2 ตอน คือ “ไทบ้าน เดอะซีรีส์ 2.1” เข้าฉายเมื่อ 22 ก.พ. 2561 ส่วน “ไทบ้าน เดอะซีรีส์ 2.2” เข้าฉายตามหลังในวันที่ 24 พ.ย. 2561 เนื่องจากเดิมที่ภาค 2 มีแผนว่าจะทำเป็นซีรีส์ที่มีตัวละครหลากหลาย ไม่ได้เล่าเรื่องแค่ตัวละครหลักในภาคแรกเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องราวของตัวละครอื่น ๆ อีก พร้อมเพิ่มมิติของหนัง ด้วยการเล่าถึงสังคมอีสานท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง ความเป็นเมืองและเทคโนโลยีที่กำลังรุกคืบวิถีดั้งเดิมของชาวบ้าน
นอกจากนี้ ทีมผู้สร้างยังหมายมั่นขยายจักรวาลไทบ้านออกไปอีก ด้วยการนำเรื่องราวของตัวละครไปใส่เอาไว้ในมิวสิควิดีโอเพลงต่าง ๆ และประกาศสร้างภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวของตัวละครอื่นเพิ่มขึ้นอีก คล้ายกับจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล
ผลตอบรับ“ไทบ้าน เดอะซีรีส์ ภาค 2” เรียกว่า ล้นหลามเกินคาด กวาดรายได้พุ่งเป็นเท่าตัว โดย “ไทบ้าน เดอะซีรีส์ 2.1” ทำรายได้ไป 68 ล้านบาท ขณะที่ “ไทบ้าน เดอะซีรีส์ 2.2” กวาดรายได้ไปถึง 97 ล้านบาท เรียกได้ว่า ไทบ้านได้ก้าวข้ามจากหนังอีสานอินดี้ กลายเป็นหนังแมสอย่างเต็มตัว
- ขยายฐานผู้ชม คอลแลบกับ BNK48
23 ม.ค. 2563 ภาพยนตร์เรื่องที่ 4 ของจักรวาลไทบ้านได้เข้าฉาย ในชื่อว่า “ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้” ซึ่งเป็นโปรเจ็กต์พิเศษที่ไทบ้านได้ร่วมงานกับ “BNK48” เกิร์ลกรุ๊ปแถวหน้าของไทย โดยต้องการขยายความนิยมของวง BNK48 ไปยังพื้นที่ภาคอีสานมากยิ่งขึ้นซึ่งเป็นผู้ชมส่วนใหญ่ของไทบ้าน ขณะเดียวกันได้ทำให้แฟน BNK48 ที่เป็นคนเมือง ได้รู้จักวัฒนธรรมอีสานที่มีเสน่ห์ ความสวยงามของพื้นถิ่นมากยิ่งขึ้น
หนังเรื่องนี้เล่าถึง สมาชิกวง BNK48 ต้องการทำเพลงซิงเกิ้ลใหม่ในรูปแบบ หมอลำอีสาน ดังนั้นเพื่อให้รู้จักและเข้าใจในวัฒนธรรมของคนอีสานให้มากขึ้น จึงจำเป็นต้องมาใช้ชีวิตในภาคอีสานและได้เจอกับแก๊งไทบ้าน จนเกิดเป็นเรื่องราวมากมายให้ได้ติดตาม
ถึงแม้ว่าเนื้อเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้จะดำเนินต่อจากไทบ้าน เดอะซีรีส์ 2.2 แต่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาหลักในจักรวาลไทยบ้านมากนัก มีเพียงช่วงท้ายที่จะปูเข้าสู่หนังภาคต่อไปเท่านั้น
ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ ทำรายได้ตลอดการฉายไปราว 19.9 ล้านบาท ส่วน “โดดดิด่ง” เพลงประกอบภาพยนตร์กลายเป็นเพลงฮิตของ BNK48 ถือว่าบรรลุจุดประสงค์ของโปรเจ็กต์นี้ได้ในระดับหนึ่ง
- หมอปลาวาฬ มุมมองใหม่ในจักรวาลไทบ้าน
“หมอปลาวาฬ” หนึ่งในตัวละครที่อยู่ในจักรวาลไทยบ้านมาโดยตลอด และเป็นที่รักของผู้ชมมาเสมอ ในที่สุดผู้ชมก็ได้มีโอกาสได้เห็นตัวตนของเธอมากยิ่งขึ้นผ่านภาพยนตร์สปินออฟ (Spin-off) ชื่อเรื่องเดียวกัน ในเรื่องนี้จะเน้นไปที่เรื่องราวชีวิตของหมอปลาวาฬ ทั้งในหน้าที่การเป็นหมอในสถานีอนามัย และเรื่องความรักว่าทำไมเธอถึงตัดใจจากจาลอดไม่ได้สักที
ปรกติแล้วไทบ้าน เดอะซีรีส์มักจะนำเสนอออกมาในแนวตลกเป็นส่วนใหญ่ แต่สำหรับในหมอปลาวาฬกลับเป็นเน้นไปที่แนวดรามา นี่จึงเป็นการทดลองอะไรใหม่ ๆ ของทีมผู้สร้าง ที่พยายามออกจากคอมฟอร์ตโซนของตนเอง สำหรับหมอปลาวาฬ เข้าฉายเมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2565 และทำรายได้ไป 14 ล้านบาท
- สัปเหร่อ รายได้สูงสุดในจักรวาล
ดูเหมือนในปี 2566 นี้จะเป็นปีทองของ “หนังผี” ไทย เพราะมีเข้าฉายไม่เกือบทุกสัปดาห์ แต่ที่โดดเด่นที่สุดคงจะหนีไม่พ้น “สัปเหร่อ” ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดในจักรวาลไทบ้าน ที่ทำรายได้ผ่านหลัก 200 ล้านบาทไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
การกลับมาคราวนี้ ไทบ้าน เดอะซีรีส์ได้หยิบยกอาชีพสัปเหร่อมาเล่า สอดแทรกพิธีกรรม ความเชื่อเกี่ยวกับคนตายของชาวอีสาน พร้อมเล่าถึงความกลัว ความตายและคนตายได้อย่างเรียบง่ายแต่ทรงพลัง โดยคงความตลกที่เป็นจุดเด่นของจักรวาลไทบ้านไว้ด้วย
ผ่านมาร่วม 6 ปีจักรวาลไทบ้าน เดอะซีรีส์มีผลงานภาพยนตร์และมิวสิควิดีโอรวมกันถึง 23 เรื่อง ซึ่งเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งรายได้ภาพยนตร์และยอดเข้าชมมิวสิควิดีโอ ขณะที่นักแสดงในเรื่องจากคนธรรมดากลายเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงและต่อยอดออกไปผลิตคอนเทนต์อื่น ๆ ทั้งงานเบื้องหน้าและเบื้องหลัง
หลังจากนี้จักรวาลไทบ้าน ยังคงมีเรื่องราวอีกมากมายที่เตรียมนำเสนอสู่สายตาผู้ชม และเป็นข้อพิสูจน์ว่าบางครั้งไม่จำเป็นต้องใช้นักแสดงที่มีชื่อเสียง แต่ถ้าเนื้อหาดีและเหมาะสมกับบท ผู้ชมก็พร้อมที่จะสนับสนุนและเป็นแฟนคลับ ตราบใดที่ยังมีสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้ถูกใจผู้บริโภค
กราฟิก: ณัชชา พ่วงพี
ที่มา: Brand Inside, Creative Thailand, Marketeer Online, MGR Online, The People