เปิดเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง-สิทธิประโยชน์ข้าราชการการเมือง


ข้าราชการการเมือง ได้รับอัตราเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง-สิทธิประโยชน์ คนละเท่าไร การเดินทางไปต่างประเทศ เบิกเงินค่าอะไรได้บ้าง

วันที่ 19 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน แถลงนโยบายและเข้าปฏิบัติหน้าที่ในกระทรวงต่าง ๆ และผ่านการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)มาแล้ว 2 ครั้ง ได้มีการแต่งตั้ง “ข้าราชการการเมือง” ตามโควตารัฐมนตรีของพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล หลายตำแหน่ง

“ประชาชาติธุรกิจ” เปิดอัตราเงินเดือน-เงินประจำตำแหน่ง และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เพื่อคลี่คลายข้อสงสัยทำไมถึงอยากเป็นกันนัก ไม่นับรวมถึง “คณะกรรมการพิเศษ” และที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ที่ถูกครหาว่า เป็นเวทีแสดงความสามารถ-ตอบแทนบุญคุณทางการเมือง

สำหรับอัตราเงินเดือนตามพระราชกฤษฎีกาการปรับอัตราเงินเดือนของข้าราชการ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2554 และเงินประจำตำแหน่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง พ.ศ.2538

  • นายกรัฐมนตรี เงินเดือน 72,590 บาท เงินประจำตำแหน่ง 50,000 บาท
  • รองนายกรัฐมนตรี เงินเดือน 74,420 บาท เงินประจำตำแหน่ง 45,500 บาท
  • รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี / รัฐมนตรีว่าการกระทรวง เงินเดือน 73,240 บาท เงินประจำตำแหน่ง 42,500 บาท
  • รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง เงินเดือน 72,060 บาท เงินประจำตำแหน่ง 41,500 บาท
  • เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เงินเดือน 63,200 บาท เงินประจำตำแหน่ง 18,500 บาท
  • รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เงินเดือน 56,120 บาท เงินประจำตำแหน่ง 14,500 บาท
  • ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เงินเดือน 57,660 บาท เงินประจำตำแหน่ง 15,000 บาท
  • ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษารัฐมนตรี ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เงินเดือน 47,250 บาท เงินประจำตำแหน่ง 10,000 บาท
  • โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เงินเดือน 47,250 บาท เงินประจำตำแหน่ง 10,000 บาท
  • รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เงินเดือน 44,310 บาท เงินประจำตำแหน่ง 4,900 บาท
  • เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เงินเดือน 44,310 บาท เงินประจำตำแหน่ง 4,900 บาท
  • ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรี เงินเดือน 39,710 บาท เงินประจำตำแหน่ง 4,400 บาท
  • ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เงินเดือน 25,410 บาท เงินประจำตำแหน่ง 2,850 บาท

สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย การเบิกค่ารักษาพยาบาลสำหรับตนเอง บิดา มารดา คู่สมรส และบุตรซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ (บิดา คู่สมรส และบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ยกเว้นบุตรบุญธรรม) บำเหน็จบำนาญ

  • ข้าราชการการเมืองรับราชการมาไม่น้อยกว่า 1 ปีบริบูรณ์ เมื่อพ้นจากตำแหน่ง มีสิทธิได้รับบำเหน็จ
  • ข้าราชการการเมือง มีเวลาราชการรวมกันไม่น้อยกว่า 4 ปีบูริบูรณ์ และดำรงตำแหน่งครั้งสุดท้ายเป็นรัฐมนตรี มีสิทธิได้รับบำนาญ เดือนละ 2,000 บาท และมีเวลาราชการรวมกันครบ 10 ปีบริบูรณ์ เมื่อพ้นจากตำแหน่งมีสิทธิ์ได้รับบำนาญ การเบิกจ่ายค่าใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (มือถือ) และค่าบริการเสรมต่อรอบเดือน
  • นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง ให้เบิกจ่ายได้เท่าที่จ่ายจริง
  • เลขาธิการนายกรัฐมนตรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษารัฐมนตรี และที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้เบิกจ่ายได้เท่าที่จ่ายจริง ไม่เกินอัตราคนละ 6,000 บาทต่อเดือน
  • โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ให้เบิกจ่ายได้เท่าที่จ่ายจริง ไม่เกินอัตราคนละ 4,000 บาทต่อรอบเดือน
  • ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ให้เบิกจ่ายได้เท่าที่จ่ายจริงไม่เกินอัตราคนละ 2,000 บาทต่อรอบเดือน

กรณีเดินทางไปต่างราชการต่างประเทศชั่วคราว การประชุมระหว่างประเทศ การจัดงาน หรือการเยือนของบุคคลสำคัญ ให้เบิกจ่ายค่าใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และค่าบริการเสริมสำหรับแต่ละกรณีในครั้งนั้น เพิ่มได้อีกไม่เกิน 1 เท่าของอัตราตามตำแหน่ง รถประจำตำแหน่งให้มีได้ไม่เกินตำแหน่งละ 1 คัน

Advertisement
@media (min-width: 1139.98px) { #ud-dfp-ad-pos-pc_inarticle1 { min-width: 336px;
min-height: 280px; } }@media (max-width: 768px) { #ud-dfp-ad-pos-pc_inarticle1 { min-width: 336px;
min-height: 280px; } }

ส่วนข้าราชการผู้ใดดำรงตำแหน่งหลายตำแหน่งให้เลือกใช้รถประจำตำแหน่งเพียงตำแหน่งเดียว การเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการของข้าราชการการเมืองเป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ.2526 และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติม และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการพ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

  • เบี้ยเลี้ยงเดินทางในประเทศ (เหมาจ่าย) 240 / 270 บาทต่อวันต่อคน
  • เบี้ยเลี้ยงเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราวและค่าใช้จ่ายอื่น (เหมาจ่าย) 2,100 / 3,100 บาทต่อวันต่อคน กรณีไม่เลือกเบี้ยเลี้ยงเดินทางเหมาจ่าย
  • ค่าอาหารและเครื่องดื่ม ค่าภาษีและค่าบริการที่โรงแรม ภัตตาคาร ร้านค้า เบิกเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกินวันละ 4,500 บาทต่อเดือน
  • ค่าทำความสะอาดเสื้อผ้า ไม่เกิน 7 วัน ให้เบิกจ่ายเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกินวันละ 500 บาทต่อคน
  • ค่าใช้สอยเบ็ดเตล็ด เหมาจ่ายไม่เกินวันละ 500 บาทต่อคน ค่าเช่าที่พักในประเทศ
  • กรณีเบิกจ่ายตามจริง แต่ไม่เกินอัตรานี้ ห้องพักคนเดียว 1,500/2,200/2,500 บาทต่อวันต่อคน ห้องพักคู่ 850 / 1,200/1,400 บาทต่อวันต่อคน
  • กรณีเหมาจ่าย ไม่เกิน 800/1,200 บาทต่อวันต่อคน

กรณีเดินทางไปราชการในท้องที่ที่มีค่าครองชีพสูงหรือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเบิกจ่ายค่าเช่าที่พักสูงกว่าอัตราที่กำหนดเพิ่มขึ้นได้อีกไม่เกินร้อยละ 25 (ยกเว้นกรณีเลือกเบิกค่าเช่าที่พักแบบเหมาจ่าย) อัตราค่าเช่าที่พักในการเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว (เบิกจ่ายตามประเทศรัฐเมือง 5 กลุ่มประเภท) ตั้งแต่ ไม่เกิน 7,500 บาทต่อวันต่อคน ถึง ไม่เกิน 4,500 บาทต่อวันต่อคน และเพิ่มขึ้นจากเดิมอีกไม่เกินร้อยละ 25 / ร้อยละ 40 ค่าเครื่องแต่งตัวในการเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว 7,500 / 9,000 บาทต่อคนการยืมตัวช่วยราชการ

  • การยืมตัวข้าราชการจากกระทรวง ทบวง กรมและหน่วยงายต่าง ๆ มาช่วยราชการ
  • การยืมตัวข้าราชการตำรวจมาอารักขารักษาความปลอดภัย และยืมตัวข้าราชการตำรวจมาช่วยราชการ ไม่เกิน 2 นาย การขอมีบัตรและเครื่องแบบข้าราชการการเมือง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *