ใครเลี้ยงแมวส้มต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าน้องคือที่สุดของความซน ความแสบ ที่แฝงมาพร้อมกับความน่ารัก แต่น้องแมวส้มซนจริงหรือถูกใส่ร้ายกันนะ!? 

จากบทความของ Psychology Today โดย Karen Wu ผู้ช่วยศาสตราจารย์ทางจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ได้เปิดเผยว่า แมวที่มีขนสีส้มมักจะมีพฤติกรรมชอบเสี่ยงตาย และเซ็กซี่ในหมู่แมวมากที่สุด จึงทำให้แมวส้ม มีสถานะทางสังคมแมว สูงกว่าแมวอื่น ๆ แถมยังประสบความสำเร็จในการสืบพันธุ์มากที่สุดในชนบทอีกด้วย!

 

แมวส้มทั้งก้าวร้าว และเซ็กซี่ 

บทความดังกล่าว ได้อ้างถึงงานวิจัยของปอนเทียร์และคณะที่เผยแพร่เมื่อปี 1995 ในการศึกษาความถี่และความแปรปรวนของยีนที่ทำให้เกิดขนสีส้มในแมว ซึ่งได้สุ่มกลุ่มตัวอย่างประชากรแมว 59 – 491 ตัวในฝรั่งเศส ระหว่างปี ค.ศ. 1982 – 1992 และได้พบกับแนวโน้มที่น่าสนใจ 3 ประการของแมวส้ม ดังนี้ 

1. แมวส้มพบได้ในชนบทมากกว่าในเมือง แสดงให้เห็นว่า แมวส้มนั้นน่าจะประสบความสำเร็จในการสืบพันธุ์ในชนบท 

2. แมวสีส้มมีความน่าสนใจทางเพศมากกว่าแมวอื่น เพราะนักวิจัยพบว่าแมวเพศผู้สีส้มมีน้ำหนักมากกว่าแมวสีอื่น และยังมีขนาดตัวโดยเฉลี่ยใหญ่กว่าด้วย นั่นอาจเป็นเหตุผลที่แมวส้มประสบความสำเร็จในการสืบพันธุ์ 

3. แมวส้มพบได้น้อยในพื้นที่เสี่ยงที่อาจมีผลต่อชีวิต หรือในสังคมเมือง แสดงให้เห็นว่าแมวส้มมีพฤติกรรมชอบอันตราย ก้าวร้าว จนทำให้แมวส้มเหลือน้อยในพื้นที่ดังกล่าว 

นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยเมื่อปี 2021 จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเดวิส ระบุว่าแมวบางสี (ซึ่งประกอบไปด้วยแมวสีส้มตัวเมีย แมวสีขาวดำตัวเมีย และแมวสีเทาขาวตัวเมีย) มีความก้าวร้าวต่อมนุษย์มากกว่าแมวสีอื่น ๆ อีกด้วย

เปิดเผย 5 ความลับแมวส้ม

1. แมวส้มคือแมวลายสลิด 

ที่เราชอบเรียกว่าแมวส้ม แท้จริงแล้วนั่นไม่ใช่ชื่อสายพันธุ์ แต่คือการเรียกตามสีขนและลายของน้อง และไม่ว่าจะส้มเข้ม ส้มอ่อน ก็เป็นแมวส้ม เพราะขึ้นอยู่กับรหัสพันธุกรรมของน้องนั่นเอง 

2. แมวส้มทุกตัวมีสัญลักษณ์ “M” บนหน้าผาก 

เป็นอีกหนึ่งลักษณะเด่นของลายสลิดนั่นเอง เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่า แมวส้มคือแมวลายสลิดที่มีสีส้ม หากสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าแมวส้มของคุณก็มีตัว M บนหน้าผากนะ 

3. แมวส้มเป็นลูกหลานของ African wildcat 

มีการวิเคราะห์รหัสพันธุกรรมของแมวในยุคต่าง ๆ ตั้งแต่ 9,000 ปีก่อน สมัยที่มนุษย์ยังต้องล่าสัตว์และย้ายถิ่นฐานไปเรื่อย ๆ จนถึงยุคศตวรรษที่ 20 พบว่าแมวอียิปต์แพร่กระจายไปทั่วยุโรปในยุคโรมัน และมีชาวไวกิ้งที่พาแมวอียิปต์ออกไปท่องโลกได้ไกลขึ้นกว่าเดิม หลังจากนั้นในยุคออตโตมัน แมวก็เริ่มกลายพันธุ์เป็นลายสลิด ในศตวรรษที่ 18 แมวลายสลิดกลายเป็นแมวบ้านในแถบเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ แอฟริกา ยุโรป หรือที่จริงแล้ว เราอาจจะไม่ใช่ทาสแมว แต่คือลูกหลานของมันต่างหาก! 

4. แมวส้มส่วนใหญ่เป็นตัวผู้ 

หากใครชอบเล่นกับแมวนอกบ้านอยู่เสมอ อาจจะต้องสงสัยกันว่า ทำไมแมวส้มถึงมีแต่ตัวผู้ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เพราะมาจากยีนที่กำหนดขนสีส้มอยู่บนโครโมโซม X กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ โครโมโซมที่อยู่บนขนของแมวส้มจะมีโอกาสเกิดเป็นแมวตัวผู้มากกว่า 

5. แมวส้มมักมีกระบนใบหน้า 

ยีนสีส้มนี้ มาพร้อมกับกระบนใบหน้าของน้องแมว ไม่ว่าจะเป็น จมูก ริมฝีปาก และเหงือก ซึ่งไม่เป็นอันตรายกับน้องแต่อย่างใด

และในวันยกย่องแมวส้มนี้ เราก็ขอยกให้แมวส้มเป็นแมวที่น่าค้นหา น่ารัก น่ากอดที่สุดไปเลย วันนี้เป็นวันของน้อง อย่าลืมให้ขนมและกอดน้องแรง ๆ สักสองสามทีนะ

ขอบคุณข้อมูลจาก: National Geographic, gatoro