เยือนอาณาจักร “บีวายดี” เมืองเซินเจิ้น จากผู้ผลิตแบตเตอรี่สู่ผู้นำรถไฟฟ้า



เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์ บีวายดี ในประเทศไทย พาสื่อมวลชนไทยเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ของ บีวายดี (BYD) ที่ตั้งอยู่ในเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน โดยสำนักงานแห่งนี้มีพื้นที่กว่า 230,000 ตารางเมตร มีพนักงานเกือบแสนคน ภายในจะประกอบไปด้วยโชว์รูม อาคารสำนักงาน พื้นที่แสดงนวัตกรรม ศูนย์วิจัย-พัฒนา ศูนย์การทดสอบความปลอดภัยของรถ รวมถึงเป็นพื้นที่พักอาศัยด้วย


ภาพที่เห็นจากการก้าวย่างเข้าตัวอาคาร มีรถจอดโชว์อยู่ 4 คัน เมื่อเดินเข้าไปเจอกับจอขนาดใหญ่แสดงคลิปวิดีโอกล่าวถึงวิสัยทัศน์ของบริษัทและเดินลึกเข้าไปจะเป็นห้องนิทรรศการที่โชว์ประวัติความเป็นมาในการก่อตั้งบริษัทตั้งแต่ พ.ศ.2538 ซึ่งเริ่มจากธุรกิจผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้าแบบชาร์จได้จนกระทั้งเข้าสู่ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน รวมถึงโมเดลเครื่องยนต์รถไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด นวัตกรรมของบีวายดี

ถือเป็นผนังลิขสิทธิที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีมากกว่า 4,000  รายการ
เหตุผลที่ทำให้บีวายดีก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านรถไฟฟ้าของโลก เพราะที่นี้เขาไม่ได้สนใจแต่ด้านการผลิตรถ แต่เขาจริงจังในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อนำเสนอไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆให้กับผู้บริโภคและจากการวิจัยดังกล่าวสามารถนำไปจดสิทธิบัตรมากกว่า 4,000 รายการ และยังมีรอจ่อคิวอยู่อย่างน้อย 30,000 ฉบับ ที่ยังไม่ได้จดทะเบียน ถือเป็นผนังลิขสิทธิที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็กว่าได้ ปัจจุบันบีวายดีมีสถาบันการวิจัย 11 แห่ง มีวิศวกรวิจัยกว่า 90,000 คน

ทดสอบความปลอดภัยของแบตเตอรี่ไฟฟ้า
ไฮไลท์พิเศษของห้องนิทรรศการแห่งนี้คือห้องกระจกนิรภัยทดสอบความปลอดภัยของแบตเตอรี่ไฟฟ้า โดยทางเจ้าหน้าที่บีวายดีได้สาธิตการโชว์ทดสอบนำเข็มเหล็กขนาดใหญ่ทิ่มแทงลงบนแบตเตอรี่ NMC Battery ที่นิยมใช้กันทั่วไป ปรากฏว่าเกิดระเบิดและมีควันพวยพุ่งออกมา ส่วน Blade Battery แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าชนิดใหม่ของ BYD เมื่อถูกเข็มเหล็กทิ่มลงไปตรง ๆ กลับไม่เกิดระเบิดขึ้น

ในระหว่างการทดสอบการเจาะนั้น Blade Battery ไม่มีการปล่อยควันหรือไฟออกมาหลังจากเจาะเข้าไปและมีอุณหภูมิพื้นผิวอยู่ที่ 30 องศา ถึง 60 องศา C เท่านั้น ด้วยความร้อนพื้นผิวที่น้อยบ่งบอกได้ว่ารถอีวีที่ติดตั้ง Blade Battery จะมีโอกาสในการเกิดไฟไหม้น้อยกว่ามาก แม้ว่าตัวรถหรือแบตเตอรี่จะได้รับความเสียหายอย่างรุุนแรงก็ตาม 


ปัจจุบันบีวายดี เป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่รถยนต์อยู่ในระดับแถวหน้าของโลก ซึ่งในปี 2566 ที่ผ่านมาผลิตรถยนต์ออกจำหน่ายทั่วโลกแล้วกว่า 1.8 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ถึง 3 เท่าตัว สำหรับประเทศไทยบีวายดีได้เริ่มตั้งโรงงานผลิตรถยนต์แห่งแรกในไทยที่ จ.ระยอง และยังเป็นโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งแรกของภูมิภาคอาเซียน คาดจะเริ่มผลิตได้ในปี 2567 ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 150,000 คันต่อปี 

ขณะเดียวกันบีวายดีเริ่มบุกไปยังตลาดต่างประเทศบางตลาดสัดส่วนการตลาดค่อนข้างดีอย่างประเทศอังกฤษ รถเชิงพาณิชย์ มีสัดส่วนอยู่ที่ 60 % ออสเตรเลีย 85 % เป็นต้น

BYD E SEED GT CONCEPT CAR  มีแนวคิดดีไซน์มาจาก มังกร
สำหรับคันสีแดงมีชื่อว่า บีวายดี E SEED GT Concept Car เป็นรถต้นแบบที่กำลังอยู่ในช่วงของการพัฒนา โดยมีคอนเซ็ปต์ของการออกแบบ เขาใช้ “มังกร” เป็นหลัก ทำให้ไฟหน้าจะเหมือหนวดของมังกร ตรงสีเงินยาว ๆ เป็นปากของมังกร ส่วนภายในรถก็ออกแบบเหมือนมังกร อย่างไรก็ตามรุ่นนี้ยังไม่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

ที่สำคัญนักแข่งที่ทำการทดสอบให้บีวายดี เขาได้ทดสอบรถทุกคันเป็นระยะทาง 1,300,000 กิโลเมตร ใน 20 ปีที่ผ่านมา


มีอย่างหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ภูมิใจเล่าให้เราฟัง คือในช่วงโควิดระบาดหน้ากากในเมืองจีนขาดแคลนมากทางบีวายดีอยากสนับสนุนหน้ากาก ผู้บริหารของเราเลยตัดสินใจว่าถ้าเราหาซื้อไม่ได้เราก็ผลิตเอง ตอนนั้น 3 วันแรกเราออกแบบตัวเครื่อง วันที่ 7 เครื่องผลิตเสร็จ วันที่ 10 หน้ากากล็อกแรกเราก็ผลิตเสร็จ และภายใน 14 วัน เรากลายเป็นผู้ผลิตหน้ากากอนามัยอันดับหนึ่งของโลก


ย้อนกลับไปเมื่อปี 2538 “หวาง ฉวนฝู” (Wang Chuanfu) ผู้ก่อตั้งเริ่มต้นธุรกิจจากการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และแบตเตอรี่มือถือเป็นซัพพลายเออร์ป้อนให้กับค่ายมือถือต่าง ๆ ต่อมาปี 2546 ขยายไปสู่ธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ บวกกับความพยายามหาทางออกด้วยการลดการพึ่งพาพลังงานน้ำมันเลยอยากผลิตรถยนต์ โดยเฉพาะการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า


บีวายดีเข้าสู่ธุรกิจรถยนต์ในปี 2545 จากการซื้อบริษัทรถยนต์ Tsinchuan Automobile Co.Ltd เข้ามาเป็นบริษัทลูกและเปลี่ยนชื่อเป็น BYD Auto Co.,Ltd ในช่วงแรกบีวายดียังผลิตและจำหน่ายรถยนต์ใช้น้ำมันอยู่ รถยนต์บีวายดี F3 รุ่นแรกเกิดขึ้นเมื่อปี 2548 เป็นรถเครื่องยนต์ใช้น้ำมันและได้รับความนิยมในตลาดจีนอย่างรวดเร็วทำให้บีวายดีมั่นใจในก้าวแรกที่เข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์


จนปี 2551 รัฐบาลจีนออกนโยบายผลักดันรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้ BYD ตัดสินใจผลิตรถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริดตัวแรกในรุ่น บีวายดี F3DM และได้รับความสนใจค่อนข้างมาก ต่อมาบีวายดีได้พัฒนารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกชื่อว่า F3E เป็นรถที่ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมฟอสเฟต


นอกจากนี้บีวายดียังมีรถบัสไฟฟ้าและรถบรรทุกไฟฟ้าที่อยู่ในไลน์สินค้า โดยรถบัสไฟฟ้าเริ่มผลิตครั้งแรกปี 2553  เป็นรถบัสไฟฟ้า  ก่อนจะแตกรุ่นตามขนาดของรถบัสในเวลาต่อมา

ปัจจุบันค่าย บีวายดี ยังออกรถยนต์ไฟฟ้าโมเดลใหม่ พร้อมนวัตกรรมใหม่ออกมาเรื่อย ๆ และอนาคตจะโฟกัสกับการผลิตรถยนต์พลังงานทางเลือกเท่านั้น

ถือเป็นผนังลิขสิทธิที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ถือเป็นผนังลิขสิทธิที่ใหญ่ที่สุดในโลก

BYD E SEED GT CONCEPT CAR


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *