เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ให้กับร่างกาย ด้วย “โปรไบโอติก”


ปัจจุบัน การป้องกันเพื่อดูแลสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะลดโอกาสเจ็บป่วย ไม่สบาย หรือเกิดโรค ขณะที่อาหารก็เป็นส่วนสำคัญโดยตรงต่อสุขภาพ การดูแลสุขภาพด้วยการรับประทานอาหารที่ดี และเสริมภูมิคุ้มกันด้วยโปรไบโอติก จึงเป็นอีกทางเลือกที่ที่อยากแนะนำ 

โปรไบโอติก เป็นจุลินทรีย์ที่ดีมีชีวิต ซึ่งอยู่ในลำไส้ของมนุษย์และจะสร้างสารต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย อาทิ ช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้น ควบคุมภูมิแพ้ได้ดีขึ้น โดยมีงานวิจัยหลายชิ้นรับรองว่าโปรไบโอติก ช่วยเสริมในเรื่องการป้องกัน และช่วยให้ผู้ป่วยที่มีอาการภูมิแพ้ดีขึ้น 

นอกจากนี้ ยังพบว่าโปรไบโอติกช่วยในเรื่องของระบบ

ทางเดินอาหาร ระบบย่อย ระบบขับถ่ายต่างๆ หากระบบขับถ่ายดี ของเสียไม่สะสมในร่างกาย ไม่เกิดการอักเสบ สุขภาพก็ดีด้วย รวมถึงในช่วงหลังมีการนำมาวิเคราะห์ในโรคต่างๆ เพิ่มขึ้น เช่น โรคกลุ่มมะเร็งหรือกลุ่มอื่นๆ ด้วย เพื่อในอนาคตจะขยายผลไปสู่นวัตกรรมทางการแพทย์ต่อไป

“ทุกคนมีจุลินทรีย์ที่มีชีวิตอยู่ในลำไส้ มีทั้งตัวที่ดีและตัวที่ไม่ดี กรณีร่างกายติดเชื้อไม่สบายและไปกินยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อ ยาจะฆ่าจุลินทรีย์ทั้งที่ดีและไม่ดีไปด้วย รวมไปถึงพฤติกรรมต่างๆ เช่น ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ไม่ออกกำลังกาย ไม่ดูแลตัวเอง โดยมีการวิเคราะห์จุลินทรีย์ที่อยู่ในลำไส้ในคนแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน โดยลักษณะของคนที่เป็นโรคจุลินทรีย์ที่ดีจะถูกเปลี่ยนแปลงไป” 

ส่วน พรีไบโอติก คือ อาหารที่ไว้หล่อเลี้ยง โปรไบโอติก ช่วยให้โปรไบโอติกทำงานได้ดียิ่งขึ้น หากกินโปรไบโอติกเข้าไปอย่างเดียวโดยไม่ได้รับพรีไบโอติกซึ่งเป็นอาหารของจุลินทรีย์เข้าไปด้วย สุดท้าย

โปรไบโอติกในลำไส้จะเจริญไม่ดี หรือแบ่งตัวได้ไม่ดี ซึ่งอาหารที่มีพรีไบโอติก ได้แก่ อาหารที่มีไฟเบอร์ อาหารที่มีกากใย พวกธัญญพืชต่างๆ อาทิ ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เล่ย์ ลูกเดือย ส่วนในผลไม้ อาทิ กล้วย มะเขือเทศ

ดังนั้นจึงควรเลือกรับประทานอาหารที่มีโปรไบโอติกควบคู่กับอาหารที่มีพรีไบโอติก เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานของจุลินทรีย์ที่ดี

สำหรับการรับประทานพรีไบโอติก และโปรไบโอติก ในผู้ที่มีสุขภาพดี ไม่ได้มีโรคประจำตัว ให้รับประทานในปริมาณที่พอเหมาะและสมดุลกัน ไม่ได้บังคับต้องรับประทานทุกวัน โดยปกติแล้วอาหาร

ที่มีพรีไบโอติกจะเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพอยู่แล้ว ให้เพิ่มอาหารที่มีโปรไบโอติกเข้าไปด้วย โดยส่วนใหญ่พบใน นม หรือโยเกิร์ต

ล่าสุด มีการนำโปรไบโอติกไปผสมกับอาหารสัตว์ให้สัตว์รับประทาน เพื่อช่วยปรับสมดุลลำไส้ของสัตว์ ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียก่อโรคที่ทำให้สัตว์ป่วย ลดปัญหาสุขภาพสัตว์ ทำให้สัตว์แข็งแรง ไม่เจ็บป่วย ไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ ไม่ต้องใช้สารเร่ง ซึ่งเนื้อสัตว์ที่ได้จากสัตว์ที่มีสุขภาพดี ปลอดโรคต่างๆ อาจส่งผลให้คนที่รับประทานเนื้อสัตว์มีสุขภาพที่ดีปลอดจากยาและสารต่างๆ 

นอกจากจะรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์แล้ว ผู้บริโภคควรปฏิบัติตามหลักสุขอนามัยที่ดีด้วย เช่น การพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรค เกิดอาการไม่สบายหรือเกิดการติดเชื้อขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การใช้ยาปฏิิชีวนะหรือการใช้ยาฆ่าเชื้อโดยไม่จำเป็น และการใช้ยาฆ่าเชื้อจะไปทำลายโปรไบโอติกซึ่งเป็นจุลินทรีย์ดีและแบคทีเรียที่ดีในร่างกายด้วย สุดท้ายจะเหลือเพียงแบคทีเรียร้ายๆ ในลำไส้เรา

นายแพทย์จิรวัฒน์ เชี่ยวเฉลิมศรี
อาจารย์แพทย์อนุสาขาโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันทางคลินิก
สาขาวิชาอายุรกรรม ศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *