
เผยแพร่: 2 ก.ย. 2566 1
“เห็บ” จัดอยู่ในประเภทสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง อยู่ในไฟลัมอาร์โธรพอด ซึ่งสร้างความรำคาญใจให้คนเลี้ยงสัตว์ และรู้หรือไม่? หากถูกเห็บกัดและเอาออกไม่ถูกวิธีอันตรายได้ถึงชีวิต แนะวิธีดึงเห็บออกอย่างถูกต้อง
.ads-billboard-wrapper{display:flex;min-height:250px;align-items:center;justify-content:center}
“เห็บ” มีหลายชนิด และเป็นพาหะนำโรคติดเชื้อ มักอาศัยอยู่บริเวณต้นหญ้าสูงๆ หรือเกาะอยู่กับสัตว์เลี้ยง เช่น หมา หรือ แมว ซึ่งถ้าถูกเห็บกัดจะไม่มีอาการเจ็บ เพราะในน้ำลายของเห็บมีสารที่ทำให้เกิดอาการชาเฉพาะที่
อาการหลังจากถูกเห็บกัด
- มีตุ่มนูนบวมแดง ในบางรายที่มีอาการแพ้อาจมีไข้
- ผื่นลมพิษกำเริบได้
- อาการอัมพาตชั่วคราวได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งภาวะนี้อาจนำไปสู่ภาวะระบบหัวใจล้มเหลวที่อันตรายถึงชีวิต
เตือน! พิษกิ้งกือ สัตว์ชุกชุมช่วงหน้าฝนไม่กัดแต่มีพิษทำผิวหนังไหม้ได้!
“แมลงก้นกระดก” ตัวจิ๋วพิษร้ายหน้าฝนไม่ระวัง เสี่ยงผิวไหม้-ร้ายแรงขั้นตาบอด

วิธีดึงเห็บออกอย่างถูกวิธี
- ถูกเห็บกัดเบื้องต้นให้คีบหัวของเห็บแล้วค่อยดึงออกขึ้นตรง ๆ
- อย่าคีบบริเวณลำตัว หรือท้องของเห็บ
- ไม่บิดคีมขณะที่กำลังคีบเพราะจะทำให้ส่วนปากของเห็บยังคงค้างอยู่ในผิวหนัง อาจทำให้อาการเรื้อรังตามมาได้
- หลังจากเอาตัวเห็บออกใช้ยาทาลดการอักเสบ บวมแดง
กรณีที่อาการบวมแดงรุนแรงจำเป็นต้องฉีดยาใต้ผิวหนังแต่ต้องให้แพทย์พิจารณาการรักษาเฉพาะราย โดยทั่วไปอาการที่เกิดจากเห็บกัดมีเพียงอาการเฉพาะที่ พบน้อยมากในรายที่เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น เกิดอัมพาตหลังจากถูกเห็บกัด ที่จะมีอาการอยู่ประมาณ 4-6 วัน อย่างไรก็ตามเมื่อถูกเห็บกัดควรรีบคีบเห็บออกจากผิวหนังทันทีอาการอัมพาตก็จะหายไปอย่างรวดเร็วง
เตือน!แค่แผลแมวกัดอาจติดเชื้อ “แบคทีเรียกินเนื้อคน” อันตรายถึงชีวิต!
วิธีป้องกันเห็บกัด
- ทำความสะอาด อาบน้ำน้องหมาน้องแมวสัตว์เลี้ยงเป็นประจำ หยอดยาป้องกันเห็บหมัดตามวงรอบ
- ทำความสะอาดกรงหรือที่อยู่อาศัยของสัตว์เลี้ยงเป็นประจำ
- สวมใส่รองเท้าหรือหลีกเลี่ยงเข้าป่าหรือพื้นที่รกร้างโดยไม่ป้องกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก : สถาบันโรคผิวหนัง
ภาพจาก : Shutterstock
อากาศชื้น เหล่าทาสระวัง “เชื้อราแมว” วิธีรักษา-ป้องกัน
ทริคเอาชนะ“ภูมิแพ้ขนสัตว์” เรื่องเล็กๆที่เป็นปัญหาใหญ่ของคนเลี้ยงสัตว์
ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ
PPSHOP

