แม่ครัวร่ำไห้เสียใจ กำไรไม่ได้มากมาย ซ้ำโดนจับผิด อาหารกลางวันเด็กน้อย ยันตั้งใจทำให้เด็กเต็มที่ ฝากถึงหน่วยงานอย่าตัดสินเพียงครั้งเดียว ให้เข้ามาดูเรื่อยๆ
กรณี สำนักงาน ป.ป.ช.ลำปาง พร้อมด้วยตัวแทน ชมรม Strong จิตพอเพียงต้านทุจริต ลงพื้นที่สุ่มตรวจโครงการอาหารกลางวันนักเรียน เพื่อเป็นแนวทางในการป้องกันการทุจริต และพบว่าที่โรงเรียนไหลหินราษฎร์บำรุง ต.ไหล่หิน อ.เกาะคา โรงเรียนดำเนินโครงการอาหารกลางวันไม่เรียบร้อย และปริมาณอาหารไม่เพียงพอต่อจำนวนนักเรียน ไม่สามารถเติมได้ เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา
และมีการแชร์ภาพอาหารดังกล่าวซึ่งเป็น เมนูไข่พะโล้ และ กล้วยบวชชี ลงในกลุ่ม Lampang City กลุ่มใหญ่ของ จ.ลำปาง ทำให้เกิดกระแสการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก
ล่าสุด วันที่ 20 ก.พ.2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังโรงเรียนไหลหินราษฎร์บำรุง ต.ไหล่หิน อ.เกาะคา เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาอาหารกลางวันดังกล่าว พบ นางทัศนีย์ แก้วบุญเรือง อายุ 55 ปี ชาวบ้านมะกอกนาบัว ต.ไหล่หิน ซึ่งเป็นผู้รับเหมาจัดทำอาหารให้กับโรงเรียน กำลังจัดเตรียมอาหารให้กับเด็กๆ
นางทัศนีย์ แก้วบุญเรือง อายุ 55 ปี ผู้รับเหมาจัดทำอาหารให้กับโรงเรียน
ในวันนี้ได้จัดทำเมนูแกงเผ็ดหมู และขนมหวานลอดช่อง โดยปริมาณที่ตักให้เด็กอนุบาล จะน้อยกว่าเด็กชั้นประถมเล็กน้อย ซึ่งจะเป็นเด็กชั้นอนุบาลลงมาทานอาหารก่อน มีเด็กหลายคนที่ขอเติมอาหารสามารถเติมได้ตามปกติ
นางทัศนีย์ แก้วบุญเรือง เปิดเผยว่า ตนมารับเหมาทำอาหารให้กับโรงเรียนเกือบ 2 ปีแล้ว ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาฯ เข้าตรวจสอบมาตลอด ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาใดๆ ถ้าวันไหนเป็นเมนูที่เด็กชื่นชอบอาหารก็จะหมด ส่วนถ้าวันไหนอาหารไม่ค่อยถูกปาก ก็จะมีเหลือเป็นธรรมดา
สำหรับวันที่ ป.ป.ช.เข้ามาตรวจสอบนั้น ทำเมนูไข่พะโล้ และกล้วยบวชชี เด็กส่วนใหญ่ชอบทานเมนูนี้ จึงใส่ข้าวให้เยอะไม่ได้เผื่อเติมไว้ แต่กับข้าวเป็นไข่พะโล้มีเหลืออยู่ ส่วนกล้วยบวชชีที่ว่าได้น้อยเพียง 3 ชิ้นนั้น เด็กไม่ค่อยทานจึงตักให้ไม่เยอะ
วันนั้นมีของหวานเหลืออยู่ และไม่มีใครมาขอเติมเพิ่ม ส่วนภาพที่ปรากฏไข่พะโล้ครึ่งฟองเป็นของเด็กอนุบาล วันนั้นป้าก็เป็นคนตักอาหารเอง เด็กอนุบาลจะได้น้อยกว่าเด็กประถม บางคนชอบก็ทานหมด เด็กที่ไม่ชอบไข่ก็จะไม่กิน
ระหว่างพูดคุยอยู่ นางทัศนีย์ มีน้ำเสียงสั่นเครือและน้ำตาไหล พร้อมกล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่มีเรื่องราวออกไปแบบนั้น เพราะตนไม่ได้ตั้งใจให้เด็กได้กินน้อย อาหาร 22 บาทต่อหัว หรือประมาณวันละ 4,000 บาท พูดกันตามตรงว่าไม่ได้กำไรมากมาย เพราะสินค้าต่างขึ้นราคาหาก และต้องจ้างคนงานมาช่วยด้วย
แต่จากนี้ไปตนจะทำให้ดีที่สุด มีอาหารเติมให้เพียงพอกับเด็ก ให้เด็กได้กินอิ่ม และอยากจะฝากถึงหน่วยงานว่าอย่ามาดูเพียงครั้งเดียวแล้วตัดสินตน ขอให้มาดูเรื่อยๆ จะได้รู้ว่าตนไม่ได้แกล้งทำ ตนตั้งใจทำให้เด็กจริงๆ