เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 7 ต.ค.66 พ.ต.ต.ธราดล วงศ์เจริญยศ สว.(สอบสวน) สภ.เมือง ระยอง ได้รับแจ้งความจาก นายชุมพล (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.วิราภรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี เจ้าของร้านขายน้ำดื่ม ถ.สุขุมวิท ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง ที่ได้นำตะปูมาวางที่ลัอรถยนต์ที่จอดอยู่ริมถนนหน้าร้านของผู้ก่อเหตุ พร้อมนำตะปูที่ใช้ก่อเหตุ และภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพขณะก่อเหตุวางตะปูมาเป็นหลักฐาน ซึ่งภาพในกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพ น.ส.วราภรณ์ ได้นำตะปูมาวางใต้ล้อหลังซ้าย ของรถยนต์เก๋ง สีขาว ยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียนกรุงเทพมหานคร โดยมีสามียืนดูลาดเลาให้ จนกระทั่ง เจ้าของรถมาเห็น แล้วดึงตะปูออก ก่อนจะมีการโต้เถียงกัน
นายชุมพล ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนเอง ขับรถมารับประทานก๋วยเตี๋ยว ได้จอดรถตรงเลยหน้าร้านขายน้ำดื่มของผู้ก่อเหตุ โดยตรวจสอบแล้วว่าเป็นพื้นที่จอดรถได้ หลังจอดเสร็จลงรถพบผู้ก่อเหตุมองด้วยความไม่พอใจ ไม่คิดอะไรเพราะจอดไม่นาน พอกลับมาที่รถ จึงเดินตรวจรอบรถก็พบกับตะปูวางอยู่ที่ล้อหลังด้านซ้าย พยายามสอบถามผู้ก่อเหตุ แต่ปฏิเสธ จึงไปขอดูกล้องวงจรปิดจึงยอมจำนนด้วยหลักฐาน จึงเข้าแจ้งความ โดยให้ผู้ก่อเหตุมาคุยกัน ไม่เช่นนั้นดำเนินคดีเด็ดขาด จึงยอมตามด้วย
ด้าน น.ส.วราภรณ์ ผู้ก่อเหตุ ที่เดินทางมาที่ สภ.เมือง ระยอง ได้ให้การทั้งน้ำตา ยอมรับว่า ก่อเหตุเอาะปูไปวางใต้ล้อรถจริง ที่ทำลงไปเพราะเครียดที่รถจอดหน้าร้าน เพราะเวลาน้ำดื่มมาส่งต้องยกน้ำไกลทำให้เหนื่อย ประกอบกับความเครียดจึงก่อเหตุ ขอโทษเจ้าของรถจะไม่ทำอีกแล้ว
ด้านนายชุมพล ได้กล่าวต่อหน้า ผู้ก่อเหตุ พร้อมเตือนว่าอย่าทำแบบนี้อีก เพราะการทำแบบนี้อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ หรือ อาจมีการสูญเสียชีวิตขึ้นได้ จึงขออย่าทำอีกเลย เพราะะป็นการกระทำที่ไม่ควรจะทำ คุณเองก็มีลูกอยู่ในบ้าน เห็นการกระทำของพ่อแม่ ซึ่งเด็กอาจจะคิดว่าถูกต้อง โตไปอาจะทำตาม สำหรับครั้งนี้ ไม่ขอเอาเรื่องเอาความ และ เรียกร้องค่าเสียหาย เพียงแต่ต้องการให้ผู้ก่อเหตุสัญญาว่าจะไม่ก่อเหตุอีก
ต่อมา น.ส.วราภรณ์ ได้ไหว้ขอโทษ นายชุมพล เจ้าของรถที่ถูกวางตะปูล้อรถพร้อมให้สัญญาว่าจะไม่ทำอีก ก่อนที่นายชุมพลจะยกโทษให้ พร้อมแ้งตีอเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไม่ประสงค์เอาเรื่อง
เบืัองต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พค้อมเตือนผู้ก่อเหตุ ว่าทำอีก เพราะมีโทษอาญา ส่วนผู้ใดที่มีบ้านริ มถนนหลวง หากไม่ใช่พื้นที่ห้ามจอด ไม่สามารถขัดขวางได้ หรือ หากมีการนำสิ่งของมาขวางกั้นห้ามจอดถือว่าผิดกฎหมาย