เผยแพร่: 6 ต.ค. 2566 1.87k
ผู้บริหารโตโยต้า ย้ำไตรมาสสุดท้ายใช้แคมเปญทางการตลาดแรงมากขึ้นเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค ยืนยัน ไฮบริด คือ ทางสู้แบรนด์ญี่ปุ่นในตลาดอีวี
.ads-billboard-wrapper{display:flex;min-height:250px;align-items:center;justify-content:center}
นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายรถยนต์ Toyota Yaris Cross ใหม่ ไว้ที่ 2,000 คัน/เดือน และตั้งเป้าให้รถยนต์รุ่นดังกล่าวเข้าถึงได้ง่ายมากยิ่งขึ้นด้วยข้อเสนอทางการเงิน อาทิ
- ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 1.75% (ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน) เฉพาะโตโยต้าลิสซิ่ง, ธนาคารทหารไทยธนชาต
- ผ่อนเริ่มต้น 7,841 บาท (ดาวน์ 25% ผ่อน 96 เดือน) คำนวณจากรุ่น HEV Smart ราคา 789,000 บาท เฉพาะโตโยต้า ลิสซิ่ง
Toyota YARIS CROSS เปิดตัว 3 รุ่นย่อย ราคาเริ่ม 7.89-8.99 แสนบาท
พาชม Toyota Yaris Hatchback 2023 โมหน้าใหม่ เติมออปชั่น เสริมความสด
สำหรับ All-New Yaris Cross เป็นรถยนต์ไฮบริด ที่ประกอบในโรงงานโตโยต้า เกตเวย์ 1 ที่จังหวัด ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการประกอบเพื่อจำหน่ายในประเทศเท่านั้น ไม่มีแผนการส่งออกแต่อย่างใด ซึ่งรถยนต์รุ่นดังกล่าวพร้อมส่งมอบให้กับลูกค้าทันทีตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ตลาดรถยนต์ในช่วงสุดท้ายยังประเมินตลาดได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากปัจจัยหลักเกิดจากสถาบันการเงินเข้มงวดการอนุมัติสินเชื่อ โดยเฉพาะในกลุ่มรถกระบะ ซึ่งปัจจุบันอัตราปฏิเสธสินเชื่อสูงถึงระดับ 25% จากปกติ อยู่ที่ราว 10% ขณะที่ รถยนต์นั่งและอื่น ๆ มีอัตราปฏิเสธสินเชื่ออยู่ที่ราว 8% ซึ่งยังอยู่ในระดับปกติอยู่
ดังนั้นเราได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจสถาบันการเงิน (ไฟแนนซ์) ในการช่วยเหลือลูกค้าให้สามารถออกรถได้ง่ายที่สุด ภายใต้เงื่อนไขข้อกำหนดของสถาบันการเงิน
ขณะที่ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายมีการใช้แคมเปญทางการตลาดรุนแรงมากยิ่งขึ้นเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงฤดูการขายทั้งในกลุ่มกระบะและรถยนต์นั่ง รวมถึงการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ของเราที่จะช่วยสร้างความคึกคักให้กับตลาด
นายศุภกร กล่าวว่า ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยมีอัตราเติบโตค่อนข้างเร็วจาก 2% ในปีที่ผ่านมา เป็น 8% ในปีนี้ ซึ่งมีผลกระทบเกิดขึ้นต่อตลาดรถยนต์นั่งบางส่วนโดยเฉพาะตลาดรถยนต์นั่งขนาดใหญ่ (D-Segment) รวมถึงการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ลงสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องของรถยนต์ไฟฟ้า ยังส่งผลทางด้านการแข่งขันในการแย่งชิงตลาดกันเองระหว่างแบรนด์สัญชาติจีน สังเกตุได้จากเมื่อไรที่มีการเปิดตัวแบรนด์ใหม่จะมีอีกแบรนด์หนึ่งที่ยอดขายลดลง
อย่างไรก็ตาม มองว่าการแข่งขันของแบรนด์สัญชาติญี่ปุ่นในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าคือ ‘เทคโนโลยีไฮบริด’ ซึ่งเป็นพลังงานทางเลือกอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งให้ความคุ้มค่าและสมรรถนะที่ดี จึงยังคงเป็นโอกาสของแบรนด์ญี่ปุ่นอยู่ แต่ลูกค้าไฮบริดก็มีความแตกต่างกับลูกค้ารถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) อยู่บ้าง ซึ่งเราก็ยังคงติดตามและจับตามองตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างใกล้ชิด โดยเมื่อถึงเวลา เราจะมีโปรดักส์ที่สามารถอยู่ในใจคนไทยได้อย่างแน่นอน