อาการปวดข้อเป็น ๆ หาย ๆ โดยที่ยังไม่ได้ทำอะไร หรือโดนอะไรมา เป็นหนึ่งในสัญญาณของโรคยอดฮิต นั่นคือ “เกาต์” (Gout) โรคที่เคยทำให้อดีตกองหน้าทีมชาติไทย ตำนานนักเตะไทยเจ้าของฉายา “เพชฌฆาตหน้าหยก” ตุ๊ก-ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อาการกำเริบถึงขั้นวิกฤตจนอดลงสนาม

โดยเขาได้เปิดใจผ่านรายการ “Rise & Shine ชีวิตดีเริ่มที่ตัวเรา ซีซัน 3” ว่า

เช็กข้อแตกต่าง โรคเกาต์และข้อเข่าเสื่อม “โรคข้ออักเสบ” ที่พบได้บ่อย

ปวดข้อ-เท้าบวม สัญญาณเสี่ยงโรคเกาต์ ไม่กินไก่ช่วยได้หรือไม่?

ตอนแรกตัวเองไม่รู้ตัวมาก่อนว่าเป็นโรคเกาต์ มาเกิดขึ้นที่สิงคโปร์ ตอนที่ตัวเองต้องลงเตะในวันรุ่งขึ้น แต่อยู่ดี ๆ ตื่นเช้าขึ้นมาก็ปวดขาจนเดินไม่ได้ ก็งงตัวเอง ทั้งๆ ที่เราก็ไม่ได้เตะอะไรมา จนสุดท้ายเพื่อนต้องแบกกลับเมืองไทย กลับมาเราก็มาทานยาแก้ปวด สักพักนึงก็หายไป ตอนนั้นก็ยังไม่รู้ตัวว่าเป็นโรคเกานต์  แต่อาการปวดขาก็กลับมาอีก อันนี้เริ่มสงสัยแล้ว ทั้งที่ไม่ได้เตะฟุตบอลและไม่ได้โดนใครเตะ แต่ทำไมเจ็บที่ข้อเท้า ก็เลยไปหาหมอ หมอให้ไปตรวจยูริกดู ก็เรียบร้อย

เห็นแข็งแรงแบบนี้ แต่ ตุ๊ก-ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน บอกอีกว่า เขาเคยเจ็บขาจากอาการอักเสบของโรคเกาต์มาไม่ต่ำกว่า 10 ครั้งแล้ว ที่ผ่านมาโรคนี้กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันมาก เพราะอาการจะเกิดขึ้นแบบฉับพลัน โดยไม่รู้สาเหตุ ทำให้เจ้าตัวยอมรับว่าเกิดอาการวิกลจริตไปไม่น้อย จนไม่กล้ารับงาน เพราะถ้าอยู่ดี ๆ ตื่นเช้าขึ้นมา แต่กลับเดินไม่ได้จะทำอย่างไร และถ้าจะฝืนกินยาแก้อักเสบเยอะ ๆ จะส่งผลต่อไตและตับอีก นอกจากนี้เจ้าตัวยังเคยเจ็บ จนถึงขั้นต้องเจาะเข่าหลายต่อหลายครั้ง

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ ตุ๊ก-ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน สามารถคุมอาการได้แล้ว นอกเหนือจากการควบคุมการกิน การออกกำลังกาย ก็กินยาควบคุมเอาไว้ด้วย จะได้ไม่เกิดปัญหาอะไรอีก

ดังนั้นแล้วโรคเกาต์คืออะไร ถ้าเป็นแล้วจะรักษาอย่างไรได้บ้าง และสามารถรักษาให้หายขาดได้หรือไม่ ล่าสุด นพ.สิทธิ์ หงษ์ทรงเกียรติ อายุรแพทย์โรคข้อและรูมาติสซั่ม โรงพยาบาลบีเอ็นเอช (BNH) ได้ออกมาคลายความสงสัย ดังนี้

โรคเกาต์ เกิดจากอะไร

“โรคเกาต์” คือโรคที่เกิดจากการสะสมของกรดยูริกในร่างกายเป็นเวลานาน โดยอาจจะเกิดจากปัจจัยทางด้านพันธุกรรม ปัจจัยด้านพฤติกรรม เช่น การดื่มสุรา น้ำหนักเกิน และโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น โรคไต รวมถึงการกินยาเป็นประจำบางอย่าง

อาการของโรคเกาต์

“โรคเกาต์” จะทำให้เกิดอาการปวดและอักเสบเป็นๆ หายๆ บริเวณข้อต่าง ๆ เช่น ข้อโคนหัวแม่เท้า เป็นต้น ซึ่งเราสามารถสังเกตง่ายๆ ว่าอาการจะไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน คือไม่ได้กระทบหรือกระแทกอะไร แต่บางทีก็เกิดการอักเสบขึ้นมา โดยที่มักจะปวดถึงจุดสูงสุดนาน 24 ชั่วโมง ถ้าหากมีอาการแบบนี้ให้รีบสงสัยเลยว่าเป็น “โรคเกานต์”

อย่างไรก็ตามหากเป็นแล้ว ไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง การอักเสบจะลุกลามไปยังข้ออื่น ๆ ของร่างกายได้ เช่น ข้อเข่า ข้อมือ และ ข้อศอก

“เกาต์” โรคที่มักพบในเพศชาย อายุ 40 ปีขึ้นไป

นอกจากปัจจัยด้านพันธุกรรมและพฤติกรรม โรคเกาต์จะพบมากในเพศชาย ที่อายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป แต่ในช่วงหลังด้วยวิถีชีวิตของคนเราที่เปลี่ยนไปในทางที่ไม่ค่อยดีต่อสุขภาพเท่าไร โรคเกาต์เลยเริ่มพบในคนที่อายุน้อยกว่านี้มากขึ้น

การรักษาโรคเกาต์

การรักษาขั้นตอนแรก ต้องรักษาอาการปวดแบบเฉียบพลันให้หายเร็วที่สุด โดยแพทย์จะเลือกใช้ยาที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคน เนื่องจากยาแต่ละตัวมีข้อดีข้อเสียไม่เหมือนกัน และถ้ามีน้ำในเข่าเยอะ ซึ่งส่งผลให้ปวดเข่าและอึดอัดมาก การรักษาด้วยการเจาะเข่าจะช่วยให้สบายขึ้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อพ้นระยะอาการแบบเฉียบพลันไปแล้ว อาการปวดบวมหายแล้ว จะนิ่งนอนใจไม่ได้ ยังจำเป็นต้องดูแลอย่างต่อเนื่อง เพราะโรคเกาต์จัดเป็นโรคที่มีอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง ต้องงดแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นทั้งสาเหตุและตัวกระตุ้นที่ทำให้อวัยวะบริเวณข้อต่อเกิดอาการอักเสบเพิ่มขึ้น รวมถึงหลีกเลี่ยงกินอาหารบางชนิดด้วย เพราะถ้าทานเยอะไป อาจทำให้กรดยูริกสูงได่ เช่น เครื่องในสัตว์ เนื้อแดง และ อาหารทะเล

ยังไม่มีวิธีใด วิธีหนึ่งที่รักษาครั้งเดียว ให้ยูริกหายอย่างถาวร วิธีที่ดีที่สุดคือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ช่วยหยุดแอลกอฮอล์ ลดน้ำหนัก ดื่มน้ำเยอะๆ และหลังจากนั้นต้องใช้ยาประจำ

ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลบีเอ็นเอช (BNH)

ภาพจาก : รายการ Rise & Shine ชีวิตดีเริ่มที่ตัวเรา ซีซัน 3

“โรครูมาตอยด์” ปวดคล้ายเกาต์แต่แตกต่าง รีบเช็กปวดข้อแบบไหนเสี่ยง

“ผ่าตัดบายพาสหัวใจ” แก้ปัญหาหลอดเลือดตีบตัน ใครบ้างควรทำ?