โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ชูความพร้อมด้านทีมแพทย์และเทคโนโลยี


โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ชูความพร้อมด้านทีมแพทย์และเทคโนโลยี

ศูนย์ โรคระบบประสาท’ (Neuroscience Center) โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ชูความพร้อมด้านทีมแพทย์และเทคโนโลยี ตรวจวินิจฉัยรักษา ครอบคลุมทุกปัญหาโรคระบบประสาทและสมอง

ปัจจุบันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า โรคระบบประสาทและสมองเป็นโรคที่พบบ่อยและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัว เนื่องจากระบบประสาทของมนุษย์เรามีความซับซ้อนอย่างมาก จึงอาจเป็นสาเหตุให้เกิดโรคได้หลายโรคที่คุกคามต่อชีวิตของเราได้

และ ‘โรคหลอดเลือดสมอง’ ก็เป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ของการเสียชีวิตและทุพพลภาพของประชากรทั่วโลก จากสถิติของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในปี 2566 พบผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองในประเทศไทยถึง 349,126 ราย โดยพบอัตราการเสียชีวิตในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองแตกกว่า 30% ในขณะที่อัตราการเสีย ชีวิตในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบอยู่ที่ 2.5% นอกจากนี้ ยังมีโรคทางระบบประสาทอื่นๆ ที่เป็นอันตราย เช่น ภาวะเลือดออกในเยื่อหุ้มสมอง โรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง เนื้องอกในสมอง ภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ โรคสมองเสื่อม โรคพาร์กินสัน เป็นต้น ซึ่งโรคเหล่านี้จำเป็นต้องใช้บุคลากรทางการแพทย์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญสูงในการดูแลรักษา เพราะทุกวินาทีคือ ‘วินาทีชีวิต’ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องก็อาจส่งผลต่อชีวิตได้

       
       

นพ.ฤกษ์ชัย ตุลยาภรณ์โชติ หัวหน้าศูนย์โรคระบบประสาท, แพทย์ชำนาญการเฉพาะทางด้านประสาทวิทยา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า ศูนย์โรคระบบประสาท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดจากโรคระบบประสาท และมุ่งมั่นพัฒนาการรักษาอย่างต่อเนื่องโดยทีมแพทย์เฉพาะทางที่มากประสบ การณ์ โดย ‘ศูนย์โรคระบบประสาท’ (Neuroscience Center) โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ มีทีมแพทย์เฉพาะทางด้านระบบประสาทครบทุกสาขา และทีมสหสาขาวิชาชีพที่มีประสบการณ์และความชำนาญในการดูแลผู้ป่วยโรคทางระบบประสาทที่ร้ายแรงและซับซ้อน สามารถให้การดูแลผู้ป่วยแบบเฉพาะบุคคลด้วยวิธีการรักษาที่ดีและเหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย ตั้งแต่การบำบัดทางความคิดและพฤติกรรม การใช้ยา ไปจนถึงการผ่าตัด หรือการรักษาด้วยวิธีรังสีร่วมรักษา โดยอิงจากความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาว นาน (Evidence Based Best Practice) พร้อมด้วยเทคโนโลยีและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย ซึ่งช่วยในการวินิจฉัยและรักษาโรคอย่างแม่นยำ รวมถึงการรับมือกับผู้ป่วยในภาวะฉุกเฉินที่มีความซับซ้อนได้อย่างทันท่วงที

“ความเสี่ยงของผู้ที่มีโอกาสป่วยเป็นโรคระบบประสาทและสมองแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ 1.เพศ / อายุที่เพิ่มขึ้น / พันธุกรรม / และ 2.ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง / เบาหวาน / หยุดหายใจขณะหลับ / โรค NCDs ซึ่งหากพูดถึงสัญญาณเตือนของโรคนี้จะมีค่อนข้างน้อย แต่จะยกตัวอย่างให้เห็นภาพด้วย ‘โรคหลอดเลือดสมองตีบ’ โดยอาการแรกที่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าผู้ป่วยมีอาการเส้นเลือดสมองตีบที่พบได้ก็คือ ผู้ป่วยมีอาการลิ้นแข็ง พูดไม่เป็นคำ มือและเท้าอ่อนแรง ตาพล่ามัว เวียนหัว ซึ่งหลายกรณีเรามักจะละเลย เพราะอาการเหล่านี้มักจะมาแป๊บๆ แล้วหายไป ทำให้บางคนนิ่งนอนใจ แต่เมื่อใดที่พบอาการเหล่านี้ ก็จะพบว่าตัวเองได้ป่วยด้วยโรคนี้แล้ว ดังนั้น เมื่อไหร่ที่พบอาการเหล่านี้ ให้รีบพาผู้ป่วยไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด แพทย์จะได้รีบตรวจวินิจฉัยและรักษาก่อนอาการจะหนักขึ้น”

นพ.ฤกษ์ชัย กล่าวเสริมว่า สำหรับการเตรียมความพร้อมทางด้านทีมแพทย์และเทคโนโลยีเพื่อการรักษา รวมถึงการรองรับสังคมผู้สูงอายุ ปัจจุบันโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ได้เตรียมการอบรมให้ความรู้กับทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ให้พร้อมอยู่เสมอ รวมทั้งพัฒนาและเลือกใช้เครื่องมือแพทย์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ในการวินิจฉัยรักษา ที่สำคัญยังมีการเทรนบุคลากรทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจได้ว่าโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์จะสามารถรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้ทุกแง่มุม และมีความพร้อมในการรองรับผู้ป่วยสูงอายุในอนาคตอีกด้วย

ด้าน นพ.ภวิศ เหลืองเวชการ แพทย์ชำนาญการเฉพาะทางด้านประสาทวิทยา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวเสริมว่า ในระหว่างการผ่าตัดและหลังการรักษาผู้ป่วยโรคทางระบบประสาทและสมอง อาจมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ตลอดเวลา เช่น ภาวะเลือดออกซ้ำและทำให้สมองเสียหายเพิ่มขึ้น หรืออาจเกิดภาวะสูญเสียความรู้สึก ดังนั้น โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จึงมี ‘แผนกผู้ป่วยวิกฤตระบบประสาทและไขสันหลัง’ (Neurocritical Care Unit) เพื่อติดตามดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง โดยแพทย์ผู้ชำนาญด้านระบบประสาทวิกฤตที่ผ่านหลักสูตรและสำเร็จเป็นผู้ชำนาญเวชบำบัดวิกฤตด้านระบบประสาทจากสหรัฐอเมริกา พยาบาลที่ได้รับการฝึกอบรมในการดูแลผู้ป่วยภาวะวิกฤตด้านระบบประสาทและสมอง พร้อมทีมสหสาขาวิชาชีพ ซึ่งโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เป็นโรงพยาบาลแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย และเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกๆ ในเอเชียที่พยาบาลในแผนกผู้ป่วยวิกฤตผ่านการอบรมหลักสูตร ‘การช่วยชีวิตผู้ป่วยวิกฤตระบบประสาทขั้นสูง’ (Emergency Neurological Life Support : ENLS Course) เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะสามารถดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัย ส่วนระยะเวลาในการรักษานั้นขึ้นอยู่กับลักษณะของโรคที่เป็นด้วย เช่น เส้นเลือดที่ตีบนั้นใหญ่มากน้อยแค่ไหน หรือเส้นเลือดที่โป่งพองนั้นมีการโป่งพองมากน้อยแค่ไหน เป็นต้น

สำหรับข้อควรระวัง หรือการป้องกันเบื้องต้นให้ห่างไกลจากโรคระบบประสาทและสมอง นอกเหนือจากเรื่องอายุ เพศ และพันธุกรรมแล้ว เราต้องพยายามลดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคเหล่านี้ขึ้นควบคู่กันไปด้วย เช่น อย่าปล่อยให้น้ำหนักตัวสูงเกินมาตรฐาน งดสูบบุหรี่หรืองดดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนอาหารให้เน้นการทานแบบเมดิเตอร์เรเนียนฟู้ด พยายามลดแป้งลดน้ำตาลลง ซึ่งเหล่านี้ล้วนมีส่วนที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคได้เช่นกัน

ทั้งนี้ ศูนย์โรคระบบประสาท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จะทำงานประสานกับแผนกผู้ป่วยฉุกเฉินและแผนกผู้ป่วยนอกอย่างใกล้ชิด โดยมีแพทย์เฉพาะทางด้านประสาทศัลยศาสตร์และแพทย์เฉพาะทางด้านรังสีร่วมรักษาและให้ความเห็นร่วมกันในการวินิจฉัยเพื่อเลือกแนวทางการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดให้กับผู้ป่วยต่อไป

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์โรคระบบประสาท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ชั้น 19 อาคาร A หรือ โทร. 02 011 3994-5


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *