ประเทศไทยโดดเด่นและมีเอกลักษณ์รอบด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของอาหาร ที่ในปัจจุบันถูกจัดให้เป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และแสดงออกถึงความเป็นไทยสู่สายตาชาวโลกด้วยรสชาติเฉพาะตัว

แต่แม้ว่าอาหารไทยจะถูกปากคนไทยมากเท่าไหร่ ย่อมมีคนไม่ชอบหรือไม่เข้าใจในรสชาติอาหารบ้านเราด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะ ‘แกงไตปลา’ ที่ถูกจัดให้อยู่อันดับ 1 ของอาหารยอดแย่ที่สุดในโลกจาก TasteAtlas เมื่อเดือนเมษายน 2024 ที่ผ่านมา ทั้งยังมีเมนูอื่น ๆ ถึง 5 เมนูติดอยู่ในโผประจำปีนั้นด้วย

TasteAtlas

แต่ล่าสุดในเดือนมกราคม 2025 นี้ เว็บไซต์จัดอันดับอาหารทั่วโลกอย่าง TasteAtlas ได้ทำการเปิดเผย 100 อันดับในหมวดอาหารยอดแย่อีกครั้ง พบว่าในครั้งนี้อาหารไทยติดอันดับทั้งหมด 4 เมนู แต่รายละเอียดของอันดับมีการเปลี่ยนแปลง และอาหารไทยที่ติดบางเมนูก็ไม่เหมือนเดิมอีกด้วย

ในปีนี้ อาหารไทยยอดแย่อันดับสูงสุดคือ ‘ดักแด้หนอนไหมทอด’ อยู่ในอันดับที่ 5 ส่วนแชมป์เก่าอย่าง ‘แกงไตปลา’ ปีนี้ลงมาอยู่ที่ 9 ตามมาด้วย ‘ไข่ลูกเขย’ อันดับที่ 36 และสุดท้าย ‘ต้มจืด’ อันดับที่ 69

ดักแด้ หนอนไหมทอด (อันดับ 5)

มาแรงแซงทางโค้ง สำหรับเมนู ‘ดักแด้ หนอนไหมทอด’ ที่ในปีนี้ติดอันดับ 2 เมนูทอดยอดแย่ของโลก ทั้งนี้ ดักแด้ หนอนไหมทอด เป็นเมนูที่มักจะขายบนรถเข็นข้างทาง เมื่อทอดแล้ว ตัวไหมจะกรุบกรอบและเป็นมันเยิ้ม ในขณะที่รสชาติบางตัวจะขมเล็กน้อย มักปรุงรสด้วยเกลือ ผงชูรส หรือเครื่องปรุงอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความอร่อย นอกจากนี้ดักแด้ หนอนไหมทอด มีคุณค่าทางโปรตีนสูง และบางคนเชื่อว่ามีคุณสมบัติเป็นยาด้วย

Shutterstock/Charoen Krung Photography

แกงไตปลา (อันดับ 9)

แชมป์เก่าในปีที่แล้วอย่าง ‘แกงไตปลา’ ปีนี้หล่นลงมาที่อันดับ 9 จากข้อมูลเพิ่มเติม แกงไตปลา หรือในภาษาใต้เรียกว่า “แกงพุงปลา” เป็นการถนอมอาหารแบบหมักดองรูปแบบหนึ่งที่แสดงออกถึงเอกลักษณ์ ด้วยถิ่นกำเนิดทางภาคใต้ของไทย เป็นเมนูที่ใช้กระเพาะของปลา เช่น ปลาทู ปลาคัง ปลาดุก ปลาช่อน หรือ ปลาอื่น ๆ มาหมักกับเกลือ 10-30 วัน จากนั้นไตปลาที่หมักได้ที่จะเหลวและมีมันไหลออกมา เมื่อนำมาทำแกง ใส่เนื้อปลา และผักที่มีรสชาติเค็ม ๆ รสร้อนแรง จะยิ่งทำให้รสชาติมีความเข้มข้น

อย่างไรก็ตามแกงไตปลามีทั้งชนิดใส่กะทิและไม่ใส่กะทิ แต่แบบไม่ใส่กะทิจะได้รับความนิยมมากกว่า ผู้คนส่วนใหญ่มักกินแกงไตปลาคู่กับข้าว หรือขนมจีน เพราะอร่อยทั้งสองแบบ

Shutterstock/Kanitnon Keemkhunthod

ไข่ลูกเขย (อันดับ 36)

‘ไข่ลูกเขย’ เมนูน้องใหม่ที่ร่วมอันดับกับเขาในปีนี้ด้วย โดยไข่ลูกเขยทำจากไข่ที่ต้มแล้วทอด ส่วนน้ำราดจะประกอบด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และน้ำเปล่า มีรสชาติเปรี้ยวหวาน เมื่อกินคู่กับไข่รสมัน และหอมเจียวกรอบ ๆ กลิ่นหอม จึงถือเป็นการผสมผสานของวัตถุดิบและรสชาติที่ลงตัว

Shutterstock/somdul

ต้มจืด (อันดับ 69)

‘ต้มจืด’ หนึ่งในเมนูซดน้ำคล่องคอ เข้ามาติดอาหารยอดแย่ในปีนี้ โดยต้มจืดจะมีลักษณะเป็นซุป รสชาติอ่อน ไม่จัดจ้าน มักทำจากวัตถุดิบหลักเช่น เนื้อสัตว์ และผัก เหมาะสำหรับเป็นเมนูเคียงในมื้ออาหาร และด้วยความหอมของเครื่องเทศ การใช้เครื่องปรุง ความร้อน และความหวานธรรมชาติที่ได้จากวัตถุดิบ ทำให้ต้มจืดเป็นอาหารที่ถูกปากคนไทย

ทั้งหมดเป็นอาหารยอดนิยมของคนไทยที่ไม่น่าเชื่อว่าจะติดโผไปกับเขาด้วย ถึงผลโพลจะชี้ให้เห็นแบบนั้น แต่คนไทยก็สัมผัสความอร่อยที่แท้จริงได้ และอาจเป็นอาหารจานโปรดของใครหลายคนเลยด้วย

ภาพรวมในปีนี้สามารถบอกได้ว่าอาหารไทยถูกใจชาวโลกมากขึ้น จากที่ครั้งก่อนมีอาหารไทยติดอันดับถึง 6 เมนู มาในปีนี้ติดอันเพียง 4 เมนู โดยเมนูที่ติดอันดับในปีก่อน แต่ไม่ติดอันดับในปีนี้ได้แก่ ‘ข้าวคลุกกะปิ หอยทอด จิ้มจุ่ม น้ำตกหมู และผัดวุ้นเส้น’ ส่วนเมนูอาหารที่เพิ่มเข้ามาจากปีก่อนได้แก่ ‘ดักแด้หนอนไหมทอด ไข่ลูกเขย และต้มจืด’ สรุปได้ว่า ‘แกงไตปลา’ ยังคงเป็นอาหารไทยยอดแย่ที่ติดอันดับ 2 ปีซ้อนในสายตาชาวต่างชาติ