“ไรฝุ่น” สารก่อภูมิแพ้ที่พบมากที่สุด ปัจจัยใหญ่ควบคุมหอบหืดได้ยาก


ดูแลกาย

ูรู้หรือไม่ ? ที่นอน 1 หลังอาจมีไรฝุ่นมากกว่า 2 ล้านตัว ตัวการภูมิแพ้และสาเหตุใหญ่ที่ทำให้ผู้ป่วยควบคุมโรคได้ยากมากขึ้น แนะวิธีกำจัดไรฝุ่นให้เกลี้ยง!

.ads-billboard-wrapper{display:flex;min-height:250px;align-items:center;justify-content:center}

เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักเจ้าไรฝุ่นเป็นอย่างดีถึงแม้จะไม่เคยเห็นตัวแต่เป็นศัตรูของชาวภูมิแพ้ที่รบกันไม่เคยชนะสักที ซึ่งไรฝุ่นเป็นแมลงขนาดเล็ก ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ขนาดแค่ 0.3 มม. เท่านั้นสามารถปะปนอยู่กับฝุ่นตามพื้นบ้าน ห้องนอน ที่นอน หมอน พรม และเครื่องเรือนต่างๆ โดยเฉพาะบ้านหรือห้องนอนที่มีความอับชื้นอากาศไม่ถ่ายเท ซึ่งไรฝุ่นกินจุเหล่านี้ มักกินเศษผิวหนังและรังแคเป็นอาหาร จากนั้นจะถ่ายมูลไว้ในสถานที่ที่อาศัยอยู่ โดยเฉพาะบนเตียง หรือที่นอน ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของตัวไรฝุ่นและมูลของไรฝุ่น 

“ภูมิแพ้” ทำไมรุนแรงมากขึ้นช่วงหน้าหนาว? เสี่ยงโรคหอบหืด-ไซนัสอักเสบ

“ภูมิแพ้ผิวหนัง” ทำไมมักคันผิวตอนกลางคืน วิธีดูแลก่อนเรื้อรัง

สารก่อภูมิแพ้ที่พบมากที่สุดในผู้ป่วยภูมิแพ้มากที่สุด คือ “ไรฝุ่น”

ไรฝุ่นตัวเล็กมีมากกว่าที่คิด!

  • ในฝุ่นบ้าน 1กรัม สามารถพบไรฝุ่นได้ถึง 500ตัว
  • น้ำหนัก 1ใน 10ของหมอนเก่าอายุ 6ปี มาจากไรฝุ่นและมูลของไรฝุ่น
  • ในที่นอน 1หลัง มีไรฝุ่นอาศัยอยู่ประมาณ 2ล้านตัว
  • มูลของไรฝุ่นสามารถฟุ้งกระจายได้ง่ายและลอยเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจของเราในขณะนอนหลับ
  • เติบโตได้ดีที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียสและชอบความชื้น โดยเฉพาะบนร่างกายของมนุษย์
  • มูลไรฝุ่นเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้อาการภูมิแพ้และโรคหอบหืดกำเริบจนควบคุมอาการได้ยาก

อาการแพ้ไรฝุ่น

  • ภูมิแพ้ขึ้นตา
  • ภูมิแพ้จมูกหรือแพ้อากาศ
  • อาการคันตา คันจมูก คัดจมูก น้ำมูกไหล น้ำตาไหล

กำจัดไรฝุ่นอย่างไร ?

ไรฝุ่นสามารถแพร่พันธุ์ในที่อับชื้น การกำจัดไรฝุ่นคือทำความสะอาดพื้นห้อง เตียง หมอน ผ้าปูที่นอน เครื่องเรือน พรม ให้มีฝุ่นน้อยที่สุด โดยผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม ควรนำไปซักด้วยน้ำร้อนอุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส นาน 30 นาที

ไรฝุ่นเจริญเติบโตได้ดีในพรมที่มีขนพรมหนา รวมทั้งที่นอนและหมอน เนื่องจากมีแหล่งอาหารอุดมสมบูรณ์ในที่นอน คือ เศษหนังกำพร้าของคน โดยมีข้อมูลที่น่าสนใจคือ เศษหนังกำพร้าของคน 1กรัม เป็นอาหารให้ไรฝุ่นหนึ่งล้านตัวมีชีวิตได้นาน 1สัปดาห์ ตามปกติคนเราจะมีผิวหนังหลุดลอกออกมาถึง 1.5กรัมต่อวัน ดังนั้น การตัดทอนอาหารของไรฝุ่นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยวิธีที่ดีที่สุดคือ การหุ้มที่นอนและหมอนด้วยพลาสติก ไวนิลหรือผ้าคลุมที่ป้องกันไรฝุ่น ซึ่งผ้าคุณสมบัติพิเศษ คือ ผ้าที่ทอด้วยเส้นด้ายละเอียดและสานกันแน่นมากจนไรฝุ่นและมูลของไรฝุ่นไม่สามารถเล็ดลอดเข้าไป ทำให้ตัวไรฝุ่นขาดอาหารและลดจำนวนลง

“ภูมิแพ้อากาศ”หรือ“โควิด19”อาการคล้ายกันแยกให้ออกก่อนปอดอักเสบ!

วิธีการลดจำนวนไรฝุ่นในบ้าน

  • ซักปลอกหมอน และผ้าปูที่นอน 1-2สัปดาห์ ด้วยน้ำร้อน 55-60องศาเซลเซียส เพื่อฆ่าไรฝุ่น และใช้ผ้าคลุมที่นอนและหมอนเพื่อกันไรฝุ่น
  • ใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีคุณภาพดี ถ้าเป็นไปได้ควรใช้เครื่องที่มี HEPA filter ด้วย- มีการระบายอากาศในห้องนอนเพื่อลดความชื้น อย่างน้อยควรเปิดประตูหน้าต่างห้องนอนวันละ 1ชั่วโมง ดีกว่าปิดห้องไว้ตลอดเวลา
  • ทำความสะอาดบ้านและห้องนอนด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ
  • ไม่ควรปูพรม ไม่ควรใช้เฟอร์นิเจอร์ที่หุ้มด้วยผ้าและผ้าม่านในห้องนอน
  • ไม่ควรเก็บของเล่นจำพวกตุ๊กตาขนนิ่มๆ ในห้องนอน ถ้ามีควรทำความสะอาดด้วยน้ำร้อน 55-60องศาเซลเซียส หรือแช่แข็งเพื่อฆ่าไรฝุ่น
  • ไม่ควรนำสัตว์เลี้ยงเข้าไปในห้องนอน เพราะรังแคจากสัตว์เลี้ยงเป็นอาหารที่ดีของไรฝุ่น
  • นำที่นอน หมอน และพรม ตากแดดจัดๆ ประมาณ 3ชั่วโมงขึ้นไป จะช่วยฆ่าตัวไรฝุ่นได้

วิธีการข้างต้นเป็นวิธีการที่ไม่ยุ่งยากหรือสลับซับซ้อน และเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการป้องกันการเกิดโรคภูมิแพ้จากไรฝุ่น อย่างไรก็ตาม หากเกิดอาการผิดปกติใดๆ ก็อย่านิ่งนอนใจ ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้ เพื่อหาทางรักษาได้อย่างทันท่วงที

ขอบคุณข้อมูลจาก สสส.

ภาพจาก Freepik

สาเหตุ-สารก่อโรคภูมิแพ้ กระทบ 4 ระบบร่างกายที่ต้องรีบรักษาก่อนรุนแรง

ฝุ่นจากหนังสือ เสี่ยง “เชื้อราในปอด” อันตรายถึงชีวิต!

วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ

PPSHOP

.trc_rbox_container{text-align:left!important}.trc_rbox_header_span{font-size:30px;line-height:1.5}


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *