.css-nh9sg4 #forum2022-logoSponsor{text-align:center;}.css-nh9sg4 .forum2022-logoSponsor-text{font-family:”KaLaTeXa Display”;font-size:10px;position:relative;z-index:3;}.css-nh9sg4 .forum2022-logoSponsor-text span{background-color:#ffffff;padding:0 10px;position:relative;z-index:3;}.css-nh9sg4 .forum2022-logoSponsor-text::after{content:””;height:1px;width:100%;background-color:rgb(216,216,216);position:absolute;top:50%;left:0;-webkit-transform:translateY(-50%);-ms-transform:translateY(-50%);transform:translateY(-50%);z-index:2;}.css-nh9sg4 ul.forum2022-logoSponsor{padding:0;margin:0;list-style:none;display:-webkit-box;display:-webkit-flex;display:-ms-flexbox;display:flex;-webkit-flex-wrap:wrap;-ms-flex-wrap:wrap;flex-wrap:wrap;gap:15px;-webkit-box-pack:center;-webkit-justify-content:center;-ms-flex-pack:center;justify-content:center;}.css-nh9sg4 ul.forum2022-logoSponsor li.forum2022-item-sponsor{height:80px;}.css-nh9sg4 ul.forum2022-logoSponsor li.forum2022-item-sponsor img{height:80px;}
จากการที่ บริษัทสยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้จัดให้การแข่งขัน “คูโบต้าพันธุ์แกร่ง 2023” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐา ธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นการจัดแข่งขันชิงแชมป์การขับขี่แทรกเตอร์ครั้งแรกของประเทศไทย เมื่อ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา
หลังจากก่อนหน้านี้เคยจัดแข่งขันคูโบต้าพันธุ์แกร่งมาแล้ว 2 ครั้งในระดับภูมิภาค โดยมีผู้ร่วมเข้าแข่งขันกว่า 1,500 คน จาก 48 สนามทั่วประเทศ จนเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ 60 คนสุดท้าย
สำหรับแทรกเตอร์คูโบต้าที่นำมาใช้ในการแข่งขันครั้งนี้แบ่งเป็น 2 รุ่น แทรกเตอร์คูโบต้ารุ่น M6240 ขนาด 62 แรงม้า และแทรกเตอร์คูโบต้ารุ่น L5018SP ขนาด 50 แรงม้า
โดยผู้เข้าแข่งขันจะต้องขับฝ่าด่านสถานีทดสอบทักษะของผู้ขับขี่และสมรรถนะของเครื่องยนต์ 6 สถานี ตลอดทั้งวันผู้เข้าแข่งขันทั้ง 2 รุ่น จะต้องขับ เคี่ยวมาจนถึงรอบ 4 คนสุดท้าย ซึ่งเป็นการแข่งขันในรูปแบบแบตเทิล โดยผู้ชนะจะต้องทำเวลาดีที่สุด 2 ใน 3 ถึงจะผ่านเข้าสู่รอบคัดเลือกต่อไป

ผลการแข่งขัน แทรกเตอร์คูโบต้ารุ่น L-Series ขนาด 50 แรงม้า ในรอบชิงชนะเลิศเป็นการแข่งขันระหว่าง ชูศักดิ์ ศรีสุข หมายเลข 26 สังกัดคูโบต้าเมืองตรัง จ.ตรัง และ ณัฐวุฒิ ผึ้งเถื่อน หมายเลข 18 สังกัดคูโบต้าลิ้มเจี๊ยบฮง จ.ชัยนาท ปรากฏว่า ชูศักดิ์ เจ้าของแชมป์คูโบต้าพันธุ์แกร่ง 3 สมัยในสนามภาคใต้ ยังคงทำเวลาได้เหนือคู่แข่งตลอดทั้ง 2 รอบ สามารถคว้าแชมป์ประเทศไทยไปครองได้สำเร็จ รับเงินรางวัลพร้อมถ้วยพระราชทานฯ ไปครอง
โดยมี ณัฐวุฒิ ผึ้งเถื่อน หมายเลข 18 ทำเวลามาเป็นอันดับ 2 รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เป็นของพงศธร วรราช หมายเลข 1 สังกัดคูโบต้าปิติแทรกเตอร์ จ.สกลนคร และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 3 เป็นของ ปรวิทย์ ทวีบท หมายเลข 11 สังกัดคูโบต้าจักรเกษตรยนต์ จ.หนองบัวลำภู
ส่วนแทรกเตอร์คูโบต้ารุ่น M-Series ขนาด 62 แรงม้า รอบชิง ชนะเลิศเป็นการพบกันระหว่าง อธิคม ตองเต หมายเลข 3 สังกัด วี.ที.เอส.แทรกเตอร์ จ.ตาก กับ วัชรินทร์ ไชยรักษ์ หมายเลข 15 สังกัดคูโบต้า ยโสธร เลาเจริญ จ.ยโสธร ทั้งคู่ต่างขับเคี่ยวผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะไปด้วยสกอร์ 1:1 จนถึงรอบชิงชนะเลิศ วัชรินทร์ ถูกทดเวลาเพิ่ม 5 วินาที จากการขับไปชนไพล่อน จึงทำให้ อธิคม เจ้าของแชมป์คูโบต้าพันธุ์แกร่งของสนามจังหวัดตาก 3 ปีซ้อน เฉือนเอาชนะไปได้ในที่สุด คว้ารางวัลชนะเลิศถ้วยพระราชทานฯไปครอง

มี วัชรินทร์ ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ขณะที่รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ จตุชัย ชาโท หมายเลข 6 สังกัดคูโบต้าแสงทอง จ.อุดรธานี และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 3 ศุภกร โพธิ์ศรีทอง หมายเลข 4 สังกัดคูโบต้า ก.แสงยนต์ ลูกแก-กาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี
“ผมเริ่มขับแทรกเตอร์มาตั้งแต่เรียนมัธยมต้น ตอนอายุได้ 14 ปี นอกจากทำเกษตรของครอบครัวยังรับจ้างไถไร่ด้วย จึงมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดี อีกทั้งในการแข่งขันบางด่านมีความคล้ายกับการทำงานจริง นอกจากนี้ผมเคยมีประสบการณ์จากการคว้าแชมป์คูโบต้าพันธุ์แกร่ง ปีที่ 2 ประจำจังหวัดตาก สำหรับการคว้าแชมป์ประเทศไทยในปีนี้ผมรู้สึกดีใจมาก ถือเป็นความภาคภูมิใจของผมและครอบครัว ขอขอบคุณที่สยามคูโบต้าจัดงานครั้งนี้ขึ้น ทำให้ผู้เข้าแข่งขันทุกคนได้มาพบปะกัน ได้ลองอะไรใหม่ๆ และยังได้นำประสบการณ์มาปรับใช้ในชีวิตการทำงานด้วยครับ” อธิคม แชมป์ขับรถแทรกเตอร์คูโบต้ารุ่น M-Series ขนาด 62 แรงม้า บอกเล่าถึงเบื้องหลังความสำเร็จในครั้งนี้
ด้าน ชูศักดิ์ แชมป์แทรกเตอร์คูโบต้ารุ่น L-Series หนุ่มใต้อายุ 33 ปี เล่าว่า เดิมคลุกคลีอยู่กับกีฬาความเร็วไม่ว่าจะเป็นออฟโรด มอเตอร์ไซค์ วิบาก จนคว้าแชมป์ระดับประเทศมากมาย ที่สามารถ เอาชนะในครั้งนี้ได้ เป็นเพราะมีประสบการณ์ในการแข่งรถ จึงไม่ตื่นสนามและทำสมาธิได้ดี และตัวเองมีความตั้งใจมาจากบ้านที่จะมาเอาแชมป์ให้ได้ นอกจากนี้ทุกครั้งที่ลงสนามแต่ละรอบ จะกลับมาศึกษารูปแบบของสถานีและหาเทคนิคที่จะทำความไวได้เร็วที่สุด แม่นที่สุด และเมื่อได้รางวัลถ้วยพระราชทานฯมาครองผมรู้สึกภูมิใจและดีใจมากครับ ต้องขอขอบคุณสยามคูโบต้าที่จัดกิจกรรมดีๆแบบนี้ ขอขอบคุณคูโบต้าเมืองตรังที่มอบโอกาสและสนับสนุนมาโดยตลอด รวมถึงขอบคุณครอบครัวและกองเชียร์ที่มาเชียร์ด้วย.


ชาติชาย ศิริพัฒน์