3. ส้ม:ส้มเป็นแหล่งใยอาหารที่ดี โดยเฉพาะเส้นใยที่ละลายน้ำได้ที่เรียกว่าเพคติน เส้นใยนี้สามารถช่วยในการย่อยอาหารโดยส่งเสริมการเคลื่อนไหวของลำไส้เป็นประจำและป้องกันอาการท้องผูก นอกจากนี้ ส้มยังให้วิตามินซีซึ่งสามารถช่วยสนับสนุนสุขภาพของระบบทางเดินอาหารและเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กจากอาหารจากพืช น้ำตาลธรรมชาติในส้มยังเป็นแหล่งพลังงานที่รวดเร็วซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการย่อยอาหาร โดยรวมแล้ว ส้มสามารถเป็นอาหารเสริมที่มีคุณค่าทางโภชนาการจากการรับประทานอาหารที่สมดุลซึ่งสนับสนุนสุขภาพทางเดินอาหาร
4. มะม่วง:มะม่วงเป็นแหล่งอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นหลายชนิด ได้แก่:
- ใยอาหาร: มะม่วงมีทั้งเส้นใยที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ ซึ่งสามารถช่วยในการย่อยอาหารโดยส่งเสริมการเคลื่อนไหวของลำไส้เป็นประจำและป้องกันอาการท้องผูก
- วิตามิน: มะม่วงมีวิตามินสูง เช่น วิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินอี วิตามินเอช่วยบำรุงสุขภาพของเยื่อบุทางเดินอาหาร ในขณะที่วิตามินซีช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันและช่วยในการดูดซึมสารอาหาร
- แร่ธาตุ: ให้แร่ธาตุเช่นโพแทสเซียมและแมกนีเซียม ซึ่งมีความสำคัญต่อการรักษาการทำงานของกล้ามเนื้ออย่างเหมาะสม รวมถึงกล้ามเนื้อของระบบย่อยอาหาร
- เอนไซม์: มะม่วงมีเอนไซม์เช่นอะไมเลส ซึ่งช่วยในการสลายคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนให้เป็นน้ำตาลเชิงเดี่ยวเพื่อการย่อยอาหารได้ง่ายขึ้น
- สารต้านอนุมูลอิสระ: มะม่วงอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น เบต้าแคโรทีนและเควอซิติน ซึ่งอาจช่วยลดการอักเสบในระบบย่อยอาหารและป้องกันความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่น
- น้ำ: มะม่วงมีปริมาณน้ำสูงช่วยป้องกันการขาดน้ำและช่วยให้ระบบย่อยอาหารมีน้ำเพียงพอ ช่วยให้อาหารผ่านลำไส้ได้อย่างราบรื่น
การรวมมะม่วงไว้ในอาหารของคุณสามารถส่งเสริมสุขภาพทางเดินอาหารได้โดยการให้สารอาหารเหล่านี้และส่งเสริมการเคลื่อนไหวของลำไส้เป็นประจำ อย่างไรก็ตาม การบริโภคมะม่วงในปริมาณที่พอเหมาะเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากการบริโภคมะม่วงมากเกินไปอาจทำให้ระบบย่อยอาหารไม่สบายเนื่องจากมีน้ำตาลและเส้นใยตามธรรมชาติ
5. กีวี:กีวีอุดมไปด้วยใยอาหารซึ่งเป็นประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหาร นอกจากนี้ยังมีเอนไซม์เช่นแอคตินิดินซึ่งสามารถช่วยในการย่อยโปรตีนได้ นอกจากนี้กีวียังเป็นแหล่งวิตามินซีที่ดีซึ่งสามารถช่วยเสริมสุขภาพทางเดินอาหารโดยรวมได้ การรับประทานกีวีเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่สมดุลสามารถช่วยให้ระบบย่อยอาหารแข็งแรงได้
6. สับปะรด: สับปะรดมีเอนไซม์ที่เรียกว่าโบรมีเลน ซึ่งสามารถช่วยย่อยอาหารได้ โบรมีเลนช่วยสลายโปรตีนในอาหาร ทำให้ย่อยง่ายขึ้น นอกจากนี้ สับปะรดยังเป็นแหล่งใยอาหารที่ดี ซึ่งส่งเสริมการเคลื่อนไหวของลำไส้เป็นประจำและสุขภาพทางเดินอาหารโดยรวม อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสารอาหารเหล่านี้สามารถย่อยอาหารของบางคนได้ แต่การบริโภคสับปะรดในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้คนอื่นๆ รู้สึกไม่สบายทางเดินอาหารได้เนื่องจากมีความเป็นกรดสูง เป็นสิ่งสำคัญ
ก็ได้จบกันไปแล้วกับ 6 ผลไม้ช่วยย่อยอาหาร เห็นไหมคะว่าผลไม้แต่ละชนิดมีประโยชน์มากมายและสามารถช่วยย่อยอาหารได้ดี ผู้เขียนเองเมื่อมีอาการอาหารไม่ย่อยทุกเสียดแน่นท้องผู้เขียนจะใช้ สับปะรดในการช่วยย่อยอาหาร ผู้เขียนจะซื้อสับปะรดมาทาน หลังทานอาหารทันที หรือเมื่อมีอาการอาหารไม่ย่อย การทานสับปะรดนั้นช่วยย่อยอาหารได้ดี ลดกรดในกระเพาะอาหาร และที่สำคัญคือช่วยลดการอักเสบในกระเพาะอาหาร ได้ดีทำให้อาการเหล่านั้น ไม่มีอีกเลย แนะนำว่าให้ทานในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ควรทานในปริมาณที่เยอะๆใน เวลาเดียว
ภาพประกอบหน้าปกโดย OleksandrPidvalnyi/pixapay
ออกแบบจาก canva
ถ้าประกอบเนื้อหาโดย
ภาพที่ 1 ,2 กาลครั้งหนึ่งไม่นาน
ภาพที่ 3 MOHANN/pixapay
ภาพที่ 4 senjakelabu29/pixapay
บทความที่น่าสนใจ
https://intrend.trueid.net/post/391842
https://intrend.trueid.net/post/393999
https://intrend.trueid.net/post/391847
อยากผอมหุ่นดี อยากมีซิกแพค หาอินสปายลดน้ำหนัก เข้าร่วมด่วนที่ฟิตแอนด์เฟิร์มคอมมูนิตี้