ริดสีดวงทวาร เป็นโรคที่เกิดจากหลอดเลือดดำบริเวณทวารหนักและลำไส้ตรงส่วนล่างเกิดการบวมพองหรือยืดตัว มีอาการยื่นนูนเป็นติ่งออกมาจากทวารหนัก สาเหตุของริดสีดวงทวารยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าเกิดจากปัจจัยหลายประการร่วมกัน แต่เราสามารถป้องกันโรคริดสีดวง หรือหากใครที่เป็นริดสีดวงแล้วควรรับประทานอาหารเหล่านี้ เนื่องจากเป็นอาหารสำหรับผู้ป่วยริดสีดวง
7 อาหารสำหรับผู้ป่วยริดสีดวงทวาร
1.กล้วย กล้วยเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการริดสีดวงทวาร เพราะกล้วยมีทั้งเพกตินและแป้งทนทานต่อการย่อย เพกตินจะสร้างเป็นเจลในระบบย่อยอาหาร ช่วยให้อุจจาระนิ่มลง ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น ส่วนแป้งทนทานต่อการย่อยจะเป็นอาหารให้แบคทีเรียดีในลำไส้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากสำหรับผู้ที่มีอาการริดสีดวงทวาร กล้วยขนาดกลาง 1 ลูก (ประมาณ 18-20 ซม.) ให้ไฟเบอร์ 3 กรัม ผู้ที่มีอาการริดสีดวงทวารควรรับประทานกล้วยเป็นประจำ เพื่อช่วยบรรเทาอาการและป้องกันไม่ให้โรครุนแรงขึ้น
2.พลัมอบแห้ง (Prunes) ถือเป็นยาระบายตามธรรมชาติ โดยมีงานวิจัยพบว่า การรับประทานพลัมอบแห้งในปริมาณที่พอเหมาะ (ไม่เกิน 10 ลูกต่อวัน) สามารถช่วยปรับปรุงความสม่ำเสมอของอุจจาระและการเคลื่อนไหวของระบบย่อยอาหารในผู้ที่มีอาการท้องผูกได้ประโยชน์นี้มาจากทั้งไฟเบอร์และซอร์บิทอล (Sorbitol) ซึ่งเป็นน้ำตาลแอลกอฮอล์ที่ลำไส้ไม่สามารถย่อยได้ดี ซอร์บิทอลจะดึงน้ำเข้าสู่ระบบย่อยอาหาร ทำให้อุจจาระนิ่มลงและกระตุ้นให้เกิดความต้องการเข้าห้องน้ำ พลัมอบแห้งที่ต้มจนนิ่ม (Stewed prunes) จะมีน้ำมากกว่าพลัมอบแห้งแบบธรรมดาเล็กน้อย วิธีทำเพียงนำพลัมอบแห้งไปต้มในน้ำที่กรองแล้วประมาณ 10 นาที หรือจนสุกนิ่มผู้ที่รับประทานพลัมอบแห้งเป็นประจำจะช่วยบรรเทาอาการริดสีดวงทวารได้ เนื่องจากพลัมอบแห้งช่วยให้อุจจาระนิ่มลงและขับถ่ายได้ง่ายขึ้น
3.แอปเปิ้ล แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง เช่นเดียวกับลูกแพร์ แอปเปิ้ลขนาดกลาง 1 ลูกมีไฟเบอร์เกือบ 5 กรัม และไฟเบอร์ส่วนหนึ่งเป็นเพกติน ซึ่งเป็นไฟเบอร์ละลายน้ำที่สร้างความสม่ำเสมอคล้ายเจลในระบบย่อยอาหารเพกตินช่วยทำให้อุจจาระนิ่มลงและมีปริมาณมากขึ้น ลดการเบ่งอุจจาระและช่วยบรรเทาอาการไม่สบายตัวที่เกี่ยวข้องกับริดสีดวงทวาร
4.แตงกวาและแตงโม เป็นผักผลไม้ในตระกูล Cucurbitaceae แตงกวาและแตงโมเป็นวิธีที่อร่อยในการนำไฟเบอร์และน้ำเข้าสู่ระบบย่อยอาหารเมื่อรับประทานแตงกวา ควรปล่อยเปลือกไว้ เพราะจะทำให้ได้ไฟเบอร์มากที่สุด ผู้ที่มีอาการริดสีดวงทวารควรรับประทานแตงกวาและแตงโมเป็นประจำ เพื่อช่วยบรรเทาอาการและป้องกันไม่ให้โรครุนแรงขึ้น
5.ขึ้นฉ่าย เป็นผักที่มีน้ำและไฟเบอร์สูงเช่นเดียวกับพริกหยวก ช่วยทำให้อุจจาระนิ่มและลดความจำเป็นในการเบ่งอุจจาระ ขึ้นฉ่ายขนาดใหญ่ 1 ก้าน (ประมาณ 28-31 ซม.) ให้ไฟเบอร์ 1 กรัมและประกอบด้วยน้ำ 95% สามารถรับประทานขึ้นฉ่ายได้ทั้งแบบสด ปล่อยเป็นผักสลัด ใส่ในซุปหรือสตูว์ หรือจิ้มก้านขึ้นฉัยกับเนยถั่วชนิดโปรด
6.ฟักทอง เป็นผักที่มีสีสันและไฟเบอร์สูง มีหลายสายพันธุ์ ฟักทองยังสามารถนำไปทำได้หลากหลายเมนูเช่น ฟักทองอบ ผัด หรือต้ม จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีและป้องกันริดสีดวงทวาร
7.ผักตระกูลกะหล่ำ ได้แก่ บรอกโคลี กะหล่ำปลี กะหล่ำดาว หน่อไม้ฝรั่ง บรอกโคลีจีน ผักคะน้า หัวไชเท้า และผักกาดแม้ว่าผักตระกูลกะหล่ำจะรู้จักกันดีในเรื่องคุณสมบัติต้านมะเร็ง แต่ผักเหล่านี้ก็มีไฟเบอร์ไม่ละลายน้ำในปริมาณที่มากด้วยเช่นกัน ไฟเบอร์นี้ช่วยเพิ่มปริมาณอุจจาระและทำให้ขับถ่ายเป็นประจำ นอกจากนี้ผักตระกูลกะหล่ำยังมีสารกลูโคซิโนเลต ซึ่งเป็นสารเคมีในพืชที่สามารถย่อยสลายได้โดยแบคทีเรียในลำไส้