ตำรวจตะครุบหนุ่มไฮโซ สวมแบรนด์เนม ขับเก๋งบีเอ็มฯ เปิดโรงแรมหรูย่านพัทยาเหนือ เช่า จยย.ตระเวนทุบรถนักท่องเที่ยวจีน ลักทรัพย์สินมีค่ากว่า 1 ล้านบาทได้แล้ว ที่แท้เป็นลูกชายหมอมีพฤติกรรมโจร ประวัติฉาวยาวเป็นหางว่าว เคยถูกกองปราบฯจับกุมเข้าคุก 2 ครั้งไม่เข็ด พ้นโทษออกมายังก่อเหตุซ้ำอีก เจ้าตัวรับสารภาพหาเงินไปจัดปาร์ตี้กับกลุ่มเพื่อน

กอบกู้ภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยวระดับโลกได้ทันควัน กรณีคนร้ายใช้อิฐตัวหนอน ทุบกระจกประตูข้างขวาของรถตู้โฟล์ค สวาเก้น สีน้ำตาล ทะเบียน ฮภ 8956 กรุงเทพมหานคร แล้วเอื้อมมือเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในรถ หยิบกระเป๋าแบรนด์เนม ภายในมีเครื่องเพชร เงินสดสกุลต่างๆ รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาทหลบหนีไปทรัพย์สินทั้งหมดเป็นของ 2 นักธุรกิจชาวจีน ที่เพิ่งลงจากเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ แล้วเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองพัทยา ก่อนจอดแวะกินข้าวภายในศูนย์การค้า เอาท์เล็ต มอลล์ ย่านถนนเทพประสิทธิ์ หมู่ 11 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เหตุเกิดค่ำวันที่ 13 ก.ย. ต่อมาตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ใช้เวลาไม่นาน ติดตามรวบตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว

ความคืบหน้าของคดี เมื่อเช้าวันที่ 15 ก.ย. พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา และชุดสืบสวนตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ร่วมกันลงพื้นที่หาข่าวไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาเบาะแส และเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี จนสืบทราบว่า หลังคนร้ายลงมือก่อเหตุได้เข้าพักที่โรงแรมหรู ระดับ 5 ดาว ย่านพัทยาเหนือ หมู่ 6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตำรวจแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวไปเฝ้าประกบตัวคนร้าย

กระทั่งช่วงค่ำวันที่ 14 ก.ย. มีชายต้องสงสัยมีตำหนิรูปพรรณตรงกับภาพในกล้องวงจรปิด สวมเสื้อผ้าแบรนด์เนมราคาแพง เดินไปขึ้นรถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยู สีดำ ทะเบียน ฆห 401 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในอาคารจอดรถของโรงแรมดังกล่าว ชุดสืบสวนได้เข้าควบคุมตัวทันที ทราบชื่อนายก้องภพ หรือปูม เอื้อนจิตร อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 ซอยลาดปลาเค้า 57 แขวงและเขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ ตอนแรกที่ตำรวจควบคุมตัวได้ นายก้องภพให้การปฏิเสธตลอดเวลา สุดท้ายต้องยอมจำนนต่อหลักฐาน เมื่อตำรวจไปพบเงินสกุลต่างๆ ต่างหูเพชร นาฬิกาและทรัพย์สินบางส่วนของผู้เสียหายนักธุรกิจชาวจีน ซุกซ่อนอยู่ในกระโปรงท้ายรถเก๋ง คุมตัวนายก้องภพไปสอบสวนที่โรงพัก

นายก้องภพให้การรับสารภาพว่า เดินทางมาเปิดโรงแรมหรูย่านจอมเทียน ก่อนเช่ารถ จยย.ขี่ตระเวนหาเหยื่อตามจุดต่างๆ ในเมืองพัทยา จนไปพบรถตู้คันดังกล่าวจอดอยู่ในศูนย์การค้าชะโงกส่องดูจากกระจกหน้าต่าง พบกระเป๋าแบรนด์เนมวางอยู่บนเบาะ คาดว่าภายในกระเป๋าต้องมีทรัพย์สินมีค่า ได้ลงมือก่อเหตุทันที พอได้เงินมานำไปเปิดห้องพักในโรงแรมย่านพัทยาเหนือ เพื่อเตรียมปาร์ตี้กับกลุ่มเพื่อนๆ แต่สุดท้ายไม่รอดถูกตำรวจตามจับกุมได้

เบื้องต้นตำรวจได้ขออนุมัติศาลจังหวัดพัทยา ออกหมายจับนายก้องภพในข้อหา ลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์สิน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป เพื่อให้พ้นการจับกุมและทำให้เสียทรัพย์ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมพบว่า นายก้องภพเคยถูกกองปราบปรามจับกุมเมื่อปี 2562 ในข้อหาลักทรัพย์ ตั้งแก๊งขี่รถ จยย.ตระเวนทุบกระจกรถยนต์ที่จอดอยู่ริมถนนตามเส้นทางเปลี่ยวมืดลักทรัพย์สินมีค่าไปขายต่อตามร้านรับซื้อของมือสอง ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งในหลายพื้นที่ ทั้ง กทม. นนทบุรี และชลบุรี และก่อนหน้านี้เมื่อปี 2552 นายก้องภพเคยถูกตำรวจกองปราบฯจับกุมในคดีร่วมกับพวกทุบรถในพื้นที่ สน.วังทองหลาง หลังพ้นโทษออกมาได้กลับมาก่อเหตุอีก สำหรับนายก้องภพ ครอบครัวมีฐานะและมีการศึกษาดี พ่อเป็นถึงอดีตรอง ผอ.โรงพยาบาลเกี่ยวกับสุขภาพจิต ใน กทม. ส่วนแม่เป็นแพทย์หญิง รพ.แห่งหนึ่งใน กทม.เช่นกัน แต่ตัวนายก้องภพนิสัยเกเรติดเพื่อน พ่อแม่ได้ลงทุนเปิดอู่ซ่อมรถให้ เพื่อหวังจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แต่กลับมารวมแก๊งตระเวนก่อเหตุทุบรถลักทรัพย์ดังกล่าว