รถเมล์ไฟฟ้าสาย 558 ชนกวาด 14 คันบนถนนพระราม 2 บาดเจ็บ 18
ราย คนขับอ้างเบรกแตก ด้าน TSB แจงเช็กแล้วรถปกติ สรุป พนง. พลาดเอง
เมื่อเวลา 08.11 น. เกิดอุบัติเหตุรถเมล์เบรกแตก
พุ่งชนกับรถยนต์และจักรยานยนต์หลายคัน เหตุเกิดบนถนนพระราม 2 ขาเข้า
ช่องคู่ขนาน ก่อนถึงแยกพระราม 2 ช่วงปากซอยพระราม 2 ซอย 4
ส่งผลให้มีบาดเจ็บ 18 ราย มีรถเสียหาย 14 คัน แบ่งเป็นจักรยานยนต์ 4 คัน
กระบะ 3 คัน รถเก๋ง 3 คัน รถสองแถว 1 คัน รถแท็กซี่ 1 คัน รถประจำทาง 2 คัน
ด้าน นายบุญมี อายุ 59 ปี ผู้ขับขี่รถประจำทางสาย 558
กล่าวว่า ตนขับออกมาจากป้ายรถประจำทางบริเวณใกล้เคียงกับจุดดังกล่าว
เมื่อขับตรงมาเรื่อย ๆ พอถึงจุดเกิดเหตุก็พยายามเบรกแล้ว
แต่เบรกมันหายไปเลย ตนจึงพยายามที่จะหยุดรถ
แต่ก็ไม่สามารถที่จะหยุดรถได้ก็จึงเกิดการชนดังกล่าว
ขณะที่ นายวิจักษณ์ อายุ 37 ปี เจ้าของรถกระบะที่ได้รับความเสียหาย
กล่าวว่า รถของตนถูกชนท้ายเป็นคันแรกแล้วก็ต่อ ๆ กันไปอีกหลายคัน
ตอนนั้นรถเมล์คันดังกล่าวพุ่งมาชนท้ายอย่างไม่ทราบสาเหตุ
แล้วรถของตนก็ถูกดันขึ้นไปอยู่ข้างบน จึงไม่เข้าใจว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร
จากการตรวจสอบจากภาพกล้องวงจรปิดจะเห็นว่า รถประจำทางสาย 558
วิ่งตรงมาตามถนนพระรามที่ 2 มุ่งหน้าไปทางแยกบางประแก้ว
พุ่งชนรถกระบะคันสีส้มก่อนที่จะดันไปชนรถคันอื่น ๆ
อีกหลายคันรวมทั้งรถจักรยานยนต์ด้วย จึงส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บถึง 18
ราย อาสาสมัครนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงโดยกระจายกันออกไป 4 แห่ง
หลังเกิดเหตุตำรวจให้อาสาสมัครช่วยกันนำรถที่เสียหายทั้งหมดเข้าไปตรวจสอบที่
สน.บางมด พร้อมเชิญคนขับรถประจำทางคันต้นเหตุไปสอบถามเพิ่มเติมที่
สน.บางมด แล้วจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ต้นสังกัดรถเมล์ยัน ไม่เกี่ยวระบบไฟฟ้าหรือเบรก ชี้ พนง. เหม่อลอย เผลอเหยียบคันเร่ง
ขณะที่ บริษัท ไทยสมายล์ บัส ออกหนังสือชี้แจงว่า จากกรณีรถโดยสารไฟฟ้าประจำทาง หรือรถเมล์ไฟฟ้า เกิดอุบัติเหตุ บริษัทฯ ขออภัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางบริษัทจะรับผิดชอบค่าเสียหายและดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บทุกรายอย่างเต็มที่
เบื้องต้นทางบริษัทได้ส่งทีมตรวจสอบที่เกิดเหตุตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ พบว่า ตัวรถเมล์ไฟฟ้า สาย S7 เคหะธนบุรี-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทางด่วน) เบอร์ 11 ของอู่เคหะธนบุรี ระบบของรถเมล์ไฟฟ้าไม่มีความผิดปกติใด ๆ ทั้งเรื่องของระบบไฟฟ้าและระบบควบคุมการเบรก ยืนยันว่าสาเหตุของการชนครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากความผิดปกติของระบบตัวรถเมล์ไฟฟ้า ซึ่งตามขั้นตอนปกติก่อนเดินรถในทุกวัน ทุกอู่จะทำการตรวจสอบความพร้อมของรถอย่างสม่ำเสมอ
ขณะเดียวกันยังได้ทำการสอบสวนพนักงานขับรถเป็นที่เรียบร้อย ตัวพนักงานขับรถยอมรับว่า ตนเองพักผ่อนน้อย และเผลอเหม่อลอยชั่วขณะ เมื่อรถเคลื่อนตัวไปจึงเกิดอาการตกใจ เมื่อตั้งใจจะเหยียบเบรกรถ กลับไปเหยียบคันเร่งแทน ทำให้ความเร็วของรถพุ่งตัวไปจนตัวเองเสียการควบคุมไปชั่วขณะ
ส่วนมาตรการทางบริษัท จะดำเนินการลงโทษพนักงานขับรถตามมาตรการขั้นสูงสุดคือไล่ออก พร้อมกำชับแนวทางป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีกในอนาคต ทางบริษัทขออภัยกับผู้บาดเจ็บและครอบครัวทุกท่านมา ณ โอกาสนี้
