เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยกับ BYD Seal รถยนต์ไฟฟ้าสไตล์ซีดานระดับพรีเมี่ยม กับราคาเริ่มต้น 1.325 ล้านบาท และรุ่นท็อปสุดที่ 1.69 ล้านบาท ซึ่งราคาจำหน่ายเทียบเท่ากับ Tesla Model 3 RWD มาดูกันว่าหากต้องเลือกสักคัน เอาคันไหนดี?
BYD Seal
BYD Seal ยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าในรูปแบบรถยนต์ซีดานสุดพรีเมี่ยมจาก BYD ผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 1 จากประเทศจีน โดยรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ถูกสร้างขึ้นมาแบบท้าชนกับแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลกอย่าง Tesla รุ่น Model 3 แบบตรงๆ ด้วยขนาดตัวรถที่ใหญ่กว่า ออปชั่นที่เหนือกว่า ในราคาที่อยู่บนทางแยกระหว่างจะเอา BYD หรือ Tesla ?
BYD Seal ถูกสร้างบนพื้นฐาน e-Platform 3.0 เฉกเช่นเดียวกับ BYD Dolphin และ BYD ATTO 3 รุ่นที่จัดจำหน่ายอยู่ในประเทศไทย ณ ขณะนี้ โดยชุดแบตเตอรี่ของรถติดตั้งด้วยเทคโนโลยี CTB หรือ Cell To Body หรือจะว่ากันแบบภาษาเข้าใจง่ายๆ ก็คือการใช้แพ็กแบตเตอรี่เป็นส่วนหนึ่งของตัวถังรถยนต์
Tesla Model 3
Tesla Model 3 2022 รถยนต์นั่งแบบซีดาน รุ่นรองลงมาจากรุ่นพี่อย่าง Tesla Model S โดยเจ้า Model 3 โดดเด่นด้วยความเป็นรถยนต์นั่งตัวถังแบบซีดาน 4 ประตู ที่มีขนาดกระทัดรัดมากกว่ารุ่นพี่ แม้ว่าตัวรถจะมีขนาดกระทัดรัด แต่ออปชั่นต่างๆ นั้นจัดมาให้แบบครบครัน
โครงสร้างตัวถังของ Tesla Model 3 เน้นหนักไปที่ความปลอดภัยเป็นหลัก มันถูกออกแบบให้ชิ้นส่วนต่างๆ สามารถกระจายแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม การันตีความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จากสถาบันทดสอบความปลอดภัยอันเกิดจากการชนแทบทุกสำนัก ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานยุโรป หรือมาตรฐานสหรัฐอเมริกา ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความเคี่ยว Tesla Model 3 ก็สอบผ่านระดับ 5 ดาวทั้งหมด
ภายในห้องโดยสารของ Tesla Model 3
ภายในห้องโดยสารของ BYD Seal Performance
เปรียบเทียบสเปค Seal vs Model 3
BYD Seal Performance | Tesla Model 3 Standard Range | |
มอเตอร์ไฟฟ้า | 2 มอเตอร์ 390 kW | 1 มอเตอร์ 208 kW |
ระบบขับเคลื่อน | 4 ล้อ | ล้อหลัง |
พละกำลังสูงสุด (แรงม้า) | 523 | 283 |
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร) |
640 |
420 |
ความเร็วสูงสุด (กม./ชม.) | 190 | 225 |
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. | 3.8 วินาที | 6.1 วินาที |
ประเภทแบตเตอรี่ | ลิเธียมไอออน Blade Battery LFP | ลิเธียมไอออน LFP |
พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด (kWh) | 82.56 | 57.5 |
แรงดันไฟฟ้า (V) | 400 | 400 |
รองรับการชาร์จ AC (kW) | 7 | 7 |
รองรับการชาร์จ DC (kW) | 150 | 170 |
ระยะทางวิ่งสูงสุด NEDC | 580 | 559 |
ราคา (บาท) | 1,599,900 | 1,659,000 (โฉมเก่า) |
เริ่มต้นจากเรื่องสเปคระบบขับเคลื่อนของตัวรถ ฝั่ง BYD Seal Performance ให้สเปคมาได้น่าสนใจกว่าอย่างชัดเจน ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ มอบพละกำลังสูงสุดถึง 523 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 640 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายในระยะเวลาเพียง 3.8 วินาทีเท่านั้น
ขนาดแบตเตอรี่ ให้มาใหญ่กว่า Tesla Model 3 Standard Range เป็นอย่างมาก โดยให้มามากกว่าถึง 25.06 kWh เลยทีเดียว เรียกได้ว่าส่วนต่างขนาดแบตเตอรี่ พอๆ กับขนาดแบตที่ใส่ในรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กๆ คันนึงเลยทีเดียว ซึ่งส่งผลต่อระยะทางขับขี่ต่อ 1 การชาร์จด้วย โดยฝั่ง Seal จะทำระยะทางขับขี่ได้ไกลกว่าราวๆ 20 กิโลเมตร ต่อ 1 ชาร์จ
ส่วนฝั่ง Tesla Model 3 Standard Range แม้ว่าจะเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง มีขนาดแบตเตอรี่ที่เล็กกว่าค่อนข้างมาก ทว่าระยะทางขับขี่ทำได้น้อยกว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อันเนื่องมาจากอัตราสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าที่ Tesla ทำได้ต่ำกว่านั่นเอง
ส่วนด้านพละกำลัง แม้ว่า 0-100 กม./ชม. ของ BYD Seal จะแรงกว่ามหาศาล แต่ถ้าเอาความเร็วสูงสุดแล้ว Tesla Model 3 ทำได้เร็วกว่าค่อนข้างมากเลยทีเดียว
ตัวรถ
BYD Seal Performance | Tesla Model 3 Standard Range | |
ขนาดตัวรถภายนอก ยาว x กว้าง x สูง (มม.) | 4,800×1,875×1,460 | 4,694 x 1,849 x 1,443 |
พวงมาลัย | พวงมาลัยไฟฟ้า | พวงมาลัยไฟฟ้า |
ระบบเบรก | ดิสก์เบรก | ดิสก์เบรก |
ช่วงล่าง หน้า/หลัง | แม็กเพอร์สัน, มัลติลิ้งค์ | แม็กเพอร์สัน, มัลติลิ้งค์ |
ระยะฐานล้อ (มม.) | 2,920 | 2,875 |
ระยะห่างจากพื้น (มม.) | 120 | 140 |
ล้อและยาง | 235/45 R19 | 235/45 R18 |
น้ำหนักรถเปล่า (กก.) | 2,185 | 1,752 |
มาดูกันต่อที่พิกัดตัวรถกันบ้าง ฝั่ง BYD Seal มีขนาดตัวรถใหญ่กว่า Tesla Model 3 ในทุกมิติ ทั้งขนาดตัวถังและระยะฐานล้อ โดยจุดเด่นที่สุดของ BYD Seal นั่นคือเรื่องของช่วงล่างที่ทำมาได้ดีกว่า Tesla Model 3 ในทุกย่านความเร็ว
ในความเร็วต่ำให้ความนุ่มนวลมากกว่า Tesla และในความเร็วให้ความมั่นคงที่ดีกว่า มอบความมั่นใจที่มากกว่า Tesla Model 3 ในทุกมิติ แม้จะใช้ความเร็วสูงสุดที่ 190 กม./ชม. ก็ยังให้ความรู้สึกมั่นใจมากกว่า Tesla Model 3 ในความเร็วเท่ากัน
แต่ถ้าพูดในเชิงใช้งานแล้ว BYD Seal ถือว่าทำช่วงล่าง และการควบคุมมาได้เหนือกว่า Tesla ในทุกมิติ
ทว่า จุดที่ Tesla ทำได้ดีมากกว่า BYD Seal นั่นคือเรื่องระบบช่วยเหลือการขับขี่อย่าง Autopilot ที่ยอมรับว่ามัน “ดีที่สุดแล้วในเวลานี้” เมื่อเปรียบเทียบกับระบบช่วยเหลือการขับขี่ของ BYD Seal ต้องเรียนตามตรงว่า “ยังมีเรื่องต้องปรับปรุงอีกเยอะมาก” ทั้งเรื่องความนุ่มนวลในการควบคุมพวงมาลัยในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น รถตัดหน้า, สิ่งแปลกปลอมตัดหน้า, การแจ้งเตือนต่างๆ, การแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ที่ระบบคอมพิวเตอร์ต้องทำ ยังห่างชั้นจาก Tesla ค่อนข้างมาก
พื้นที่เก็บสัมภาระ
BYD Seal Performance | Tesla Model 3 Standard Range | |
ช่องเก็บของด้านหน้า (Frunk) | 50 | 88 |
พื้นที่เก็บสัมภาระ (ลิตร) | 400 | 649 |
ด้านพื้นที่เก็บสัมภาระ ต้องยกความดีความชอบให้กับ Tesla เป็นพิเศษ ด้วยขนาดตัวรถที่เล็กกว่า แต่กลับออกแบบพื้นที่เก็บสัมภาระได้มากกว่า BYD Seal ทั้งที่เก็บของใต้ฝากระโปรงหน้า และที่เก็บของในฝากระโปรงท้ายรถ
เลือกคันไหนดี? ระหว่าง Seal vs Model 3
ในเมื่อราคาเท่ากัน แต่ต้องเลือกสักคันหนึ่ง จะเอาคันไหนดี? เมื่อเราเปรียบเทียบดูแล้วพบว่ารถทั้ง 2 คันนี้มีจุดเด่น จุดด้อยที่แตกต่างกันออกไป หากชอบรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความสดใหม่ มีขนาดใหญ่ เน้นการขับขี่แบบนุ่มนวล และมั่นคง ฝั่ง BYD Seal จะทำได้ดีกว่าเป็นอย่างยิ่ง
แต่ถ้าชอบรถยนต์ที่เน้นด้านนวัตกรรม เพียงแค่เอ่ยชื่อก็ร้องอ๋อว่าคืออะไร และชอบรถที่ระบบ Software ดี, ระบบช่วยขับดี Tesla คือคำตอบสำหรับท่าน แต่ต้องแลกกับโฉมหน้าที่เก่ากว่า ซึ่งใช้งานมาอย่างยาวนานมากแล้ว
สำหรับ Tesla Model 3 Refresh ยังไม่ได้เปิดจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ หากมีการเปิดจำหน่ายพร้อมการทดสอบแล้ว เราจะมาบอกเล่ากันอีกครั้งครับ
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn
ค้นหารถมือสองทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถมือสอง One2car