เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 29 ก.ย.2566 ที่งานสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.ท.เมธี ศรีวันนา รอง ผกก.(ป.)สภ.เมืองขอนแก่น และ พ.ต.ท.วิโรจน์ นาหนองขาม รอง ผกก.(สส.)สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมนายวิทูรย์ (สงวนนามสกุล)อายุ 41 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด พร้อมของกลางเงินสด 19,000 บาท รถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิกสีขาวแดง หมายเลขทะเบียน ร้อยเอ็ด,รถจักรยานยนต์ ฮอยด้าสกุ๊ปปี้ไอ สีดำ หมายเลขทะเบียนชลบุรี ,ปืนปลอม 1 กระบอก และชุดที่สวมใส่ก่อเหตุ หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น จับกุมตัวได้ ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักม.4 บ.กุดกว้าง ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งอยู่ห่างจากจุดก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อไม่ถึง 2 กม.
พ.ต.อ.ปรีชา กล่าวว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อภายในสถานีบริการน้ำมัน ปตท.สาขา บ.กุดกว้าง ริม ถ.มิตรภาพ ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่นโดยคนร้ายได้เงินสดขณะที่พนักงานในร้านเตรียมจะนำไปฝากธนาคารเหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมาหลังเกิดเหตุคนร้ายขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ซึ่งชุดสืบสวนสอบสวน สนธิกำลังร่วมฝ่ายป้องกันและปราบปราม ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและนำภาพคนร้ายไปให้กับชาวบ้านในชุมชนใกล้เคียงกับปั้มน้ำมันดู ก็พบว่าส่วนใหญ่เคยเห็นชายตามภาพดังกล่าว ซึ่งมาเช่าบ้านอยู่ภายใน บ.กุดกว้าง ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กม.กำลังเจ้าหน้าที่จึงเฝ้าดูและสืบสวนจนพบว่าคนร้ายมีบ้านอีก 1 หลังและมีครอบครัวอยู่ที่ ต.ท่าพระ จ.ขอนแก่น
“เมื่อพยานยืนยันชัดเจน จึงเฝ้าติดตามพฤติกรรมจนกระทั่งผู้ต้องหาขับรถจักรยานยนต์มาที่บ้านพักที่ บ.กุดกว้าง จึงแสดงตัวเข้าขอตรวจค้น ก่อนที่จะให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ที่ลงมือก่อเหตุจริง จึงตรวจยึดของกลางทั้งหมดมาทำการสอบสวน ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุเป็นครั้งแรกเนื่องจากมีอาชีพรับจ้างร้านเหล็ก รายได้ไม่พอรายจ่ายและมีครอบครัวต้องดูแล จึงไปนำปืนปลอมของลูกชายและขับรถจักรยานยนต์มาก่อเหตุที่ร้านสะดวกซื้อดังกล่าว เนื่องจากใกล้บ้านเช่า และรู้จังหวะที่ช่วงใดคนน้อย หรือไม่มีลูกค้า และที่สำคัญพนักงานส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง”
พ.ต.อ.ปรีชา กล่าวต่ออีกว่า ก่อนก่อเหตุคนร้ายทำทีมาซื้อสินค้าปกติ ก่อนสบจังหวะคนเงียบนำปืนปลอมที่เตรียมมาข่มขู่พนักงานร้านที่กำลังเตรียมนำเงินสดไปฝากธนาคาร โดยให้พนักงานส่งเงินทั้งหมดให้กับตนเองและหลบหนีไป ก่อนนำเงินบางส่วนไปไถ่ถอนรถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิกที่ไปจำนำไว้กับเพื่อน 2,000 บาท กลับคืนมาและขับกลับมาที่บ้านเช่า ส่วนรถที่ใช้ในการก่อเหตุเป็นรถของเพื่อนที่ยืมมา โดยลงมือก่อเหตุเพียงลำพังคนเดียวและหลังนำเงินไปไถ่ถอนรถมาแล้วยังไม่ได้ทำอะไร ก็ถูกตำรวจจับกุมตังได้ดังกล่าว อย่างไรก็ตามภายหลังการสอบปากคำแล้วเสร็จผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา จึงตั้วข้อกล่าวหาว่าชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนและเสพสารติด ก่อนทำการควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป