เจ้าของรถขนพืชผลการเกษตร ยันไม่ได้ขับฝ่ามวลน้ำ แต่รถเกิดตกข้างทางขณะขับผ่าน


.fb-comments,.fb-comments span,.fb-comments span iframe[style]{min-width:100%!important;width:100%!important}

เจ้าของรถขนพืชผลการเกษตร ออกแจงกรณีรถถูกน้ำท่วม ถนนฮอด-แม่สะเรียง ยันไม่ได้พยายามขับฝ่ามวลน้ำ แต่รถเกิดตกข้างทางขณะขับผ่านก่อนน้ำจะขึ้นสูง ล่าสุดเอารถออกมาได้แล้ว วอนสังคมอย่าเข้าใจผิด ขณะที่เจ้าตัวเสียหาย ต้องซ่อมรถเองทั้งคัน

จากกรณีเหตุการณ์น้ำป่าหลากท่วมฉับพลัน ที่เกิดขึ้นบริเวณถนนสาย กม.9 ถนนฮอด-แม่สะเรียง เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (29 ก.ย.66) ที่มีรายงานว่ามวลน้ำขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว จนทำให้ยานพาหนะทั้งรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ไม่สามารถขับผ่านได้ และมีรายงานว่ารถยนต์บรรทุกพืชผลทางการเกษตรคันหนึ่ง เกิดติดอยู่กลางเส้นทาง และถูกน้ำท่วมสูงเกือบมิดคัน เจ้าหน้าที่และเจ้าของรถไม่สามารถนำรถออกมาได้ในขณะนั้นเนื่องจากน้ำท่วมสูงและไหลเชี่ยว พร้อมทั้งได้มีการประกาศสั่งห้ามไม่ให้มีการใช้ถนนสายดังกล่าวชั่วคราว ตามที่มีการประกาศแจ้งออกไปแล้วนั้น

ขณะที่กรณีที่เกิดขึ้น รถยนต์คันดังกล่าวที่ติดอยู่กลางทางขณะน้ำท่วมสูง ได้เกิดมีกรณีเข้าใจผิดซึ่งคาดว่าทางเจ้าของรถได้พยายามขับฝ่ามวลน้ำที่ไหลเชี่ยว และขึ้นสูงนั้น เจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้เป็นความจริงแต่อย่างใด พร้อมทั้งออกมาชี้แจ้งเกี่ยวกับกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

โดยทางเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าว อายุ 25 ปี เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถเพื่อจะนำพืชผลทางการเกษตร เดินทางจากพื้นที่เขต อ.แม่สะเรียง ไปส่งที่ปลายทางอรัญประเทศ ซึ่งได้ขับมาตามเส้นทางจนถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ เวลาประมาณ 18.00 น. โดยในขณะนั้นบริเวณถนนสายดังกล่าว มีน้ำขึ้นมาแค่ปริ่มถนน และรถยังสามารถสัญจรได้ตามปกติ โดยตนได้ขับตามรถยนต์เก๋งคันหนึ่ง แล้วระหว่างนั้นรถได้เกิดขับตกขอบทาง ทำให้ไม่สามารถไปต่อได้ ซึ่งในตอนนั้นก็ได้พยายามใช้เชือกดึงรถขึ้นมา แต่เนื่องจากเชือกมีขนาดเส้นเล็กเกินไปทำให้ไม่สามารถดึงขึ้นได้

ขณะที่ต่อมามีเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติออบหลวง ขับมาเห็นเหตุการณ์และได้ไปเอาเชือกที่มีขนาดใหญ่ เพื่อจะเอาช่วยดึงรถขึ้น แต่ก็ไม่ทันการเพราะในตอนนั้น มีฝนตกหนักและน้ำเริ่มเพิ่มปริมาณขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้รถถูกน้ำท่วมสูงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งไม่สามารถทำอะไรได้ และมีสภาพอย่างที่เห็นในภาพที่เผยแพร่ออกไป

อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ดังกล่าว ล่าสุด ช่วงเช้าที่ผ่านมา เวลาประมาณ 08.00 น. ตนก็ได้ดึงรถขึ้นมาได้และนำออกจากบริเวณจุดดังกล่าว แต่ก็ทำให้รถและพืชผลทางการเกษตรเสียหาย โดยในส่วนของรถยนต์นั้นมีน้ำท่วมเครื่อง ส่วนพืชผลการเกษตรที่บรรทุกมาก็เสียหาย รวมน้ำหนักประมาณ 4.2 ตัน โดยจากเรื่องราวที่เกิดขึ้น ตนยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาจะขับฝ่ามวลน้ำแต่อย่างใด และเหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนที่มวลน้ำจะไหลมาท่วมรถด้วย แต่มีผู้พบเห็นข่าวและเรื่องราวบางคนเข้าใจผิดกลับมาซ้ำเติม ตนจึงอยากออกมาชี้แจงและอยากให้ช่วยเห็นใจกับกรณีที่เกิดขึ้นด้วย


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *