เพื่อนบ้านหวั่นไม่ปลอดภัย หนุ่มป่วยจิตเวชบ้านตรงข้าม โยนกระถางต้นไม้ใส่ประตูกระจกเสียหาย พ่อต่อว่า กลับถูกทำร้าย วอนนำตัวลูกไปบำบัด
วันนี้ (20 ก.พ.67) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองศรีสะเกษ รับแจ้งมีจิตเวชทุบกระจกประตูเพื่อนบ้านจนพังเสียหาย จึงรีบไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบกระจกประตูบ้านแตกเป็นรูขนาดใหญ่ ข้างในบ้านมีกระถ่างต้นไม้แตกอยู่ คาดว่าผู้ก่อเหตุโยนกระถ่างต้นไม้เข้าใส่กระจกประตูบ้านหลังดังกล่าว
จากการสอบถาม นางสุมิตตา อายุ 63 ปี เจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุ เล่าให้ฟังว่า ตอนเกิดเหตุตนกำลังทำงานบ้านอยู่ภายในบ้าน อยู่ๆ ก็เห็นมีคนโยนกระถ่างต้นไม้เข้ามาทางกระจกประตูบ้านจนแตกเป็นรูขนาดใหญ่ หันไปดูเห็นเป็นลูกชายบ้านตรงข้าม ซึ่งป่วยจิตเวช โดยเมื่อวาน (วันที่ 19 ก.พ. 67) รถยนต์ตนก็ถูกชายคนดังกล่าวทุบกระจกหน้ารถยนต์พังเสียหายไปถึง 2 คัน ถ้าปล่อยให้อยู่ตรงนี้อีกตนก็รู้สึกกลัว เพราะที่บ้านมีผู้หญิง 2 คน และสามีตนที่ป่วยโรคไต ไม่รู้ว่าวันดีคืนดีจะทำอะไรที่ไม่คาดคิดขึ้นมาอีก โดยชาวบ้านแถวนี้มีแต่คนหวาดหลัวไม่กล้าเอาลูกหลานออกมาวิ่งเล่นแถวนี้ จึงอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำตัวไปบำบัดให้หาย
ด้าน พ่อของผู้ก่อเหตุ เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ลูกชายตน อายุ 51 ปี ป่วยจิตเวชมานานหลายปีแล้ว เดิมทีลูกชายเคยรักษาโรคจิตเวชที่โรงพยาบาลถึง 2 ครั้ง ครั้งละ 2-3 เดือน พออาการหายดี หมอก็ให้ออกมา แต่เวลาเอายาให้ลูกกินลูกก็ไม่กิน โยนยาทิ้ง จึงไม่ได้กินยามานานประมาณปีกว่า และที่ไปก่อเหตุดังกล่าวก็อาจเป็นเพราะขาดยามานานก็ว่าได้ โดยหลังลูกชายตนไปก่อเหตุโยนกระถางต้นไม้ใส่ประตูกระจกเพื่อนบ้าน ตนก็ต่อว่าลูกชาย “ว่าไปทำแบบนั้นทำไหม” แต่ลูกชายก็ไม่ฟัง แถมเข้ามาทำร้ายร่างกายตนอีก ส่วนตัวอยากจะให้เอาตัวลูกชายของตนไปบำบัดมาก เพราะเวลาตนนำตัวลูกไปบำบัด ลูกก็สู้ ไม่ยอมไปบำบัด ตนก็ไม่รู้จะทำยังไง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมกับได้คุมตัวผู้ก่อเหตุชายจิตเวชไปบำบัด และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป