คนดูเว็บไซต์หนังเถื่อนเพิ่มขึ้น จ่ายค่าสตรีมมิ่งไม่ไหว


ยอดคนเข้าชมเว็บไซต์ภาพยนตร์ละเมิดลิขสิทธิ์เพิ่มขึ้นในปี 2023 สวนทางกับยอดสมาชิกแบบจ่ายเงินของ Disney+ และ Hulu ที่ลดลง

MUSO บริษัทด้านข้อมูลเผยรายงานใหม่ระบุว่า ยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ชมภาพยนตร์แบบละเมิดลิขสิทธิ์หรือเว็บไซต์ดูหนังเถื่อนเพิ่มขึ้นในปี 2023 จนแตะ 2.29 แสนล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 6.7% จากปีก่อนหน้า โดยมียอดผู้ชมรายการทีวีมากที่สุดที่ 103.9 แสนล้านครั้ง 

ตัวเลขผู้เข้าชมเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์กระทบต่อบริการสตรีมมิ่งที่ถูกลิขสิทธิ์ที่ผู้ใช้จะต้องสมัครเป็นสมาชิกและจ่ายเงินเพื่อชมภาพยนตร์ ซีรีส์ รายการทีวีและเพลง บริการอย่าง Disney+ และ Hulu ก็มียอดสมาชิกลดลงในปี 2023 ที่ผ่านมา 

การดูภาพยนตร์ละเมิดลิขสิทธิ์ที่มากขึ้นและยอดสมาชิกที่ลดลงของบริการถูกกฎหมายสร้างความเสียหายให้อุตสาหกรรมบันเทิงของสหรัฐอเมริการาว 2.9-7.1 หมื่นล้านเหรียญหรือราว 1-2.5 ล้านล้านบาทต่อปี

สาเหตุหลักที่ทำให้ยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ภาพยนตร์ละเมิดลิขสิทธิ์มากขึ้น MUSO วิเคราะห์ว่ามาจากการที่บริการสตรีมมิ่งต่าง ๆ มีคอนเทนต์เฉพาะบนแพลตฟอร์มนั้นมากขึ้น ผลการสำรวจก่อนหน้านี้พบว่า ผู้บริโภคมีความเป็นไปได้ที่จะดูสื่อละเมิดลิขสิทธิ์เมื่อสิ่งที่ต้องการจะดูยากที่จะเข้าถึงหรือต้องเสียเงินมาก เพราะรู้สึกเบื่อหน่ายกับการถูกบังคับให้สมัครสมาชิกบริการสตรีมมิ่งเพื่อให้สามารถดูภาพยนตร์หรือรายการแค่เรื่องเดียว

MUSO คาดว่า การดูภาพยนตร์ละเมิดลิขสิทธิ์จะเพิ่มขึ้นอีก เพราะเว็บไซต์พยายามเพิ่มการใช้งานให้หลากหลายและใช้งานง่าย ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนว่า หากเว็บไซต์เหล่านี้แพร่หลายขึ้นก็จะยิ่งทำให้สตรีมมิ่งรักษายอดสมาชิกไว้ยากมากขึ้น

นอกจากนี้ สาเหตุที่บริการสตรีมมิ่งอย่างถูกกฎหมายมียอดสมาชิกลดลงก็มาจากการขึ้นราคารายเดือนด้วยทั้ง Netflix, Disney+ และ Hulu ที่ขึ้นราคาในปีที่แล้ว รวมทั้ง Netflix และ Disney+ ได้เพิ่มโฆษณาในแพ็คเกจที่ไม่มีโฆษณามาก่อน

ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2023 Disney+ มียอดสมาชิกลดลง 7% มาอยู่ที่ 150 ล้านคนจาก 160 ล้านคน ขณะที่ตัวเลขสมาชิกของ Hulu ในช่วงไตรมาส 4 ลดลง 3% มาอยู่ที่ 48 ล้านคน อย่างไรก็ตาม Netflix และ Spotify มีสมาชิกเพิ่มขึ้น 13% ในไตรมาส 4 

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การลดราคาของบริการสตรีมมิ่งลงอาจไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ดีสำหรับธุรกิจ และแนะนำให้ทำให้การเข้าถึงเว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์เป็นเรื่องยากจะดีกว่า โดยเน้นไปดูตัวอย่างที่สหราชอาณาจักรที่นโยบายการแบนเว็บไซต์เถื่อนช่วยกระตุ้นการเติบโตของแพลตฟอร์มถูกกฎหมายได้ 7-12%

ที่มา – Quartz

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *