ร้านอาหารเบตง เตรียมเมนูซิกเนเจอร์ ‘ปลานิลสายน้ำไหล’ เสิร์ฟนายกฯ ระหว่างตรวจราชการพื้นที่จังหวัดชายแดน 27-29 ก.พ.
เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่ร้านอาหารปลานิลสายน้ำไหลโกหงิ่ว จ.ยะลา ยังคงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวมาเลเซียเดินทางมาลิ้มรสอาหารจานเด็ดที่มีปลานิลสายน้ำไหลเป็นวัตถุดิบหลักผ่านการรังสรรค์จนเป็นเมนูที่ขึ้นชื่อของอำเภอเบตง โดยบริเวณด้านข้างของร้าน มีบ่อเลี้ยงปลานิลสายน้ำไหล เปิดเป็นแหล่งเรียนรู้ในการทำประมง นอกจากนี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เคยกล่าวในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เกี่ยวกับปลานิลสายน้ำไหลที่มีมูลค่าสูงถึงตัวละ 3,000 บาท หากมีการโปรโมท จะนำเงินเข้าประเทศได้อีกเยอะ โดยล่าสุดนายกฯ มีกำหนดเดินทางมาตรวจราชการด้านการท่องเที่ยวชายแดนภาคใต้ ระหว่างวันที่ 27-29 กุมภาพันธ์ 2567 และจะเดินทางมาลิ้มรสเมนูปลานิลสายน้ำไหลที่ร้าน ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้อีกด้วย
นายสามารถ จงเกียรติขจร ทายาทร้านอาหารบ่อปลานิลสายน้ำไหล เล่าว่า หลังจากทราบว่านายกรัฐมนตรีและคณะ จะเข้ามารับประทานอาหารกลางวันที่ร้าน จึงได้เตรียมเมนูซิกเนเจอร์ไว้เสิร์ฟต้อนรับ ได้แก่ ขลุ่ยปลานิล, ซาชิมิปลานิลสายน้ำไหล, ปลานิลทอดน้ำปลา, ปลานิลสามรส, แกงส้มปลานิลและผัดผักน้ำมันหอย สำหรับจุดเด่นของปลานิลสายน้ำไหล คือ เนื้อจะไม่มีกลิ่นดินโคลนและกลิ่นคาว เนื้อเด้งและมีรสหวาน ทำเมนูอะไรก็อร่อย นอกจากนี้ยังมีเชฟชื่อดังระดับประเทศที่จะมารังสรรค์เมนูปลานิลสายน้ำไหล เพื่อเสิร์ฟให้นายกฯ และคณะได้รับประทานอีกด้วย
นายสามารถ กล่าวอีกว่า ขณะนี้กลุ่มผู้เลี้ยงปลานิลสายน้ำไหลในพื้นที่ร่วมกับจังหวัดยะลา เตรียมจะขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI เพื่อยกระดับปลานิลสายน้ำไหลสู่การสร้างรายได้สร้างมูลค่าเพิ่มให้ชุมชนอย่างยั่งยืน สามารถส่งออกต่างประเทศได้อย่างมีคุณภาพ และผลักดันปลานิลสายน้ำไหล เป็น Soft Power ของอำเภอเบตง และให้มีการส่งเสริมการเลี้ยงปลานิลเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด โดยเฉพาะที่อำเภอเบตงก็ยังไม่เพียงพอต่อการบริโภค หากทำ GI ได้อย่างมีคุณภาพ ก็สามารถส่งออกไปต่างประเทศได้และยังสร้างชื่อให้กับประเทศอีกด้วย รวมทั้งทำให้คนในพื้นที่มีรายได้เพิ่มมากขึ้น
สำหรับปลานิลสายน้ำไหล กลายเป็นปลาเศรษฐกิจของอำเภอเบตง ที่สร้างชื่อเสียง สร้างรายได้และอาชีพให้กับชาวประมงได้เป็นอย่างดี อีกทั้งตลาดยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง ราคาขายกิโลกรัมละ 90-100 บาท หากมีขนาดใหญ่ ราคาตัวละประมาณ 3,000 บาท มีลักษณะเด่นคือส่วนหัวเล็ก ริมฝีปากบนและล่างเสมอกัน ลำตัวสีเทานวลจนถึงดำ เนื้อปลาแน่น สีขาวละมุน รสชาติหวาน ไม่มีกลิ่นโคลน เนื่องจากเลี้ยงแบบระบบสายน้ำไหลตลอดเวลา ทำให้ปริมาณออกซิเจนในน้ำสูงกว่าบ่อปลาทั่วไป ทำให้ปลานิลมีน้ำหนักที่ดี ตัวใหญ่ เนื้อแน่น และที่สำคัญไม่มีกลิ่นโคลนและไม่เหม็นคาว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่