ส.อ.ท.เผยยอดผลิตรถยนต์เดือนม.ค.67 ลดลง 12.46% สวนทางรถ EV ยอดผลิตพุ่งกว่า 9,200%


 

ส.อ.ท.เผยยอดรถยนต์ ม.ค. 67 ผลิตรวม 142,102 คัน ลด 12.46% ยอดขายลดลง 16.42% ขณะที่ส่งออกอยู่ที่ 86,716 คัน ลดลง 0.08% ด้านรถ EV ยอดผลิตอยู่ที่ 652 คัน เพิ่มขึ้น 9,214% ส่วนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า BEV เฉียดหมื่นคัน เพิ่มขึ้น 205.48%

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนมกราคม 2567 ดังต่อไปนี้

จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม 2567 มีทั้งสิ้น 142,102 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2566 สัดส่วน 12.46% เพราะผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศลดลง 33.62% จากการผลิตรถกระบะเพื่อจำหน่ายในประเทศลดลงถึง 50.89% ตามยอดขายที่ลดลง และผลิตรถยนต์นั่งเพื่อจำหน่ายในประเทศลดลง 14.68% จากรถยนต์ไฟฟ้านำเข้าที่มียอดจดทะเบียน เดือนมกราคม 2567 จำนวน 13,314 คัน ในขณะที่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยมีเพียง 652 คัน แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2566 สัดส่วน 11.96%

โดยรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตเพิ่มมากที่สุดเมื่อคิดเป็นร้อยละ คือรถนั่ง Battery Electric Vehicle (BEV) มีจำนวน 652 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2566 สัดส่วน 9,214.29%

ผลิตเพื่อส่งออก

เดือนมกราคม 2567 ผลิตได้ 95,110 คัน เท่ากับ 66.93% ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2566 สัดส่วน 3.91% รถยนต์นั่ง เดือนมกราคม 2567 ผลิตเพื่อการส่งออก 27,589 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2566 สัดส่วน 0.63% รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมกราคม 2567 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 67,521 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2566 สัดส่วน 5.31%

ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ

เดือนมกราคม 2567 ผลิตได้ 46,992 คัน เท่ากับ 33.07% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม 2566 สัดส่วน 33.62% รถยนต์นั่ง เดือนมกราคม 2567 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 24,920 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2566 สัดส่วน 14.68% รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมกราคม 2567 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 19,267 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2566 สัดส่วน 50.89%

ยอดขาย

ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนมกราคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 54,814 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม 2566 สัดส่วน 16.42% เพราะรถกระบะมียอดขายแค่ 14,864 คัน ลดลงถึง 43.47% จากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินเพราะหนี้ครัวเรือนสูงมาก รถ PPV มียอดขายลดลง 43.86% เพราะยังไม่มีรุ่นใหม่ออกมา ประกอบกับมีรถ SUV แบบ Hybrid ออกใหม่ในราคาจับต้องได้มาเอาส่วนแบ่งตลาดไป และรถบรรทุกขายลดลง 32.01% จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ล่าช้าออกไปหลายเดือน ทำให้การลงทุน การใช้จ่าย และการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลล่าช้าไปไปด้วย เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวในระดับต่ำตั้งแต่ไตรมาสสี่ปี 2566

โดยยอดขาย รถยนต์ไฟฟ้า BEV อยู่ที่ 9,763 คัน เท่ากับ 17.81% ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ 205.48%

การส่งออก

รถยนต์สำเร็จรูป เดือนมกราคม 2567 ส่งออกได้ 86,716 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2566 สัดส่วน 3.97% และลดลงจากเดือนมกราคม 2566 สัดส่วน 0.08% เพราะส่งออกได้เพียง 91.17% ของยอดผลิตเพื่อส่งออก เพราะเรือมีพื้นที่ไม่เพียงพอจึงส่งออกลดลงในตลาดเอเชีย แอฟริกาและอเมริกาเหนือ แยกเป็นรถยนต์สันดาปภายใน ICE 81,763 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 สัดส่วน 4.85% ส่งออกรถยนต์ HEV 4,953 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 สัดส่วน 478.62% มูลค่าการส่งออก 60,567.43 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม 2566 สัดส่วน 14.99%

ยานยนต์ไฟฟ้า

ประเภท BEV เดือนมกราคม 2567 จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 15,943 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมปีที่แล้ว 238.71%

ประเภท HEV เดือนมกราคม 2567 จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 14,143 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคมปีที่แล้ว 83.99%

ประเภท PHEV เดือนมกราคม 2567 จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 940 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคมปีที่แล้ว 2.19%


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *