หนุ่มเมากลับจากดูหมอลำ อ้างหนีวัยรุ่นทำร้าย ขับรถชนชาวบ้านดับ 3 ศพ เป่าเมา 65 มิลกรัมเปอร์เซ็น ผัวแค้นจัด เมียถูกชนตาย บอกอำมหิตมาก
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 22 ก.พ.67 ที่ถนนบ้านไทยบวกเตย-บ้านป่าใต้ ต.บุสูง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย พ.ต.อ.พงศ์กรณ์ ศรีสุวรรณ ผกก.สภ.วังหิน นายอานนท์ หนุนชู นายอำเภอวังหิน นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมฝ่ายปกครอง ควบคุมตัว นายปรีชา หรือเก็ท อายุ 23 ปี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังขับรถชนชาวบ้านเสียชีวิต 3 ราย เหตุเกิดเมื่อเวลา 01.30 น. ที่ผ่านมา
สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเกิดเหตุ มีคนร้ายขับรถยนต์ไล่ชนรถจยย. ที่ถนนในหมู่บ้านดังกล่าว โดยผู้ก่อเหตุคือ นายปรีชา ซึ่งขับรถโตโยต้า ทะเบียน บษ 9784 ศรีสะเกษ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 3 ราย ประกอบด้วย นางบัวสอน วิลัย อายุ 53 ปี นางวาสนา จันมณี อายุ 48 ปี และ น.ส.ศิริลักษณ์ ศรบุญทอง อายุ 51 ปี
พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้มาดูหมอลำกับน้าชายอยู่ที่หมู่บ้านข้างเคียงกัน แต่ในขณะที่กำลังจะเดินทางกลับ ปรากฏว่า ถูกกลุ่มวัยรุ่นไม่รู้ว่าเป็นใครเข้ามาทำร้าย ซึ่งตัวผู้ต้องหา อ้างว่า พยายามขับรถยนต์หลบหนีกลุ่มวัยรุ่นที่เข้ามาทำร้าย ทำให้พุ่งชนชาวบ้าน แต่หลังจากชนชาวบ้านรายแรกแล้ว ก็ยังไม่หยุดรถยนต์ และขับชนชาวบ้านต่อไปทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 3 ราย
โดย นางบัวสอน เสียชีวิตที่เกิดเหตุ ส่วน นางวาสนา และ น.ส.ศิริลักษณ์ เสียชีวิตที่โรงพยาบาล หลังจากก่อเหตุเสร็จ ผู้ต้องหาก็หลบหนีไปยังพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยฝ่ายปกครองช่วยกันไล่ล่า จนสามารถจับกุมตัวได้ ซึ่งจากการดูการกระทำภาพรวมของผู้ต้องหา ทั้งในลักษณะของการขับรถด้วยความเร็ว เพราะหลังจากชนชาวบ้าน รายแรกแล้ว แทนที่จะหยุดรถ แต่กลับพยายามขับรถยนต์ไปชนชาวบ้านคนอื่นอีก แม้จะมีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงพยายามห้ามปรามแต่ไม่เป็นผล
ในชั้นสอบสวน ผู้ต้องหา ยอมรับในข้อเท็จจริง แต่ปฏิเสธในข้อกฎหมาย โดยอ้างว่าขับรถโดยประมาทเฉี่ยวชนคน ซึ่งจากการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ปรากฏว่า มีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ 65 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และไม่พบสารเสพติด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงที่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ได้มีญาติของผู้เสียชีวิต เข้ามารุมด่าทอสาปแช่ง และพยายามจะเข้ามาทำร้าย บางรายถึงขนาดร้องไห้ฟูมฟาย ขณะที่ผู้สื่อข่าวถามถึงสาเหตุในการที่ขับรถยนต์ไปชนชาวบ้าน หรืออยากขอโทษครอบครัวของผู้เสียชีวิตหรือไม่ ผู้ต้องหากลับแน่นิ่ง และไม่ให้คำตอบในเรื่องนี้แต่อย่างใด
ต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 11 ต.บุสูง อ.วังหิน ซึ่งเป็นบ้านของ นางบัวสอน วิไล หนึ่งในผู้เสียชีวิต พบว่าญาติพี่น้องกำลังช่วยกันเตรียมจัดงานศพ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดย นายวันชัย วิไล อายุ 52 ปี สามีของ นางบัวสอน กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนและภรรยาได้ไปดูหมอลำภายในหมู่บ้าน แต่เนื่องจากดึกแล้ว ตนจึงขอกลับก่อน ส่วนภรรยาดูหมอลำต่อ
อยากถามว่าทำไมต้องมาทำแบบนี้กับภรรยาของตน ทำให้ตนเสียใจเป็นอย่างมาก ผู้ก่อเหตุมีจิตใจที่โหดเหี้ยมอำมหิตเป็นอย่างมาก คนแบบนี้ ไม่ควรอยู่ในแผ่นดิน ควรประหารทิ้ง อยากให้ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุอย่างเต็มที่ในเรื่องนี้