ล่ามาราธอนกว่า 10 ชั่วโมง โจรขโมยรถปิ๊กอัพจากตรัง แหกด่านชนระนาว ตร.ไล่ล่า 3 จังหวัด ก่อนพลิกคว่ำจนมุม ลูกสาวเจ้าของรถได้สติกระโดดหนีทัน
เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเหตุคนร้ายเป็นชายก่อเหตุขโมยรถกระบะที่จอดติดเครื่องไว้บริเวณตลาดท่ากลาง ภายในเขตเทศบาลนครตรัง ทราบชื่อคนร้ายภายหลังคือนายชาติ พงศ์ภิรมย์พันธุ์ อายุ 41 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้าน ต.ป่าแก่บ่อหิน อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล ได้ก่อเหตุขโมยรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็คซ์ สีทอง ป้ายทะเบียน กจ 7254 ตรัง ซึ่งเป็นรถของนายนาวี (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ผู้เสียหายซึ่งจอดรถติดเครื่องไว้ที่ตลาดท่ากลาง จ.ตรัง โดยนายนาวี เจ้าของรถลงจากรถไปซื้อของบริเวณตลาดท่ากลางโดยไม่ดับเครื่อง และมีลูกสาววัย 15 ปี นั่งคอยอยู่ในรถด้วย ระหว่างนั้นนายชาติที่มีอาการคล้ายคนเมา ได้เปิดประตูขึ้นมาในรถทำให้ลูกสาวเจ้าของรถเห็นว่าไม่ใช่พ่อ เลยเปิดประตูกระโดดหนีลงจากรถโดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา
ซึ่งหลังเกิดเหตุนายชาติขับรถยนต์ดังกล่าวหลบหนีไปยังจังหวัดสตูล และวกกลับเข้ามาในพื้นที่จังหวัดตรังอีกครั้ง ก่อนจะหลบหนีต่อไปยังจังหวัดพัทลุง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ได้จัดกำลังติดตามไล่ล่าตัวผู้ก่อเหตุ และติดตามภาพกล้องวงจรปิดจากกล้องบ้านประชาชน และกล้องจากศูนย์ Real Time Crime Center สภ.เมืองตรัง และกล้อง License Plate Recognition (LPR) ตรวจจับแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์คันที่ถูกคนร้ายขโมยไป เพื่อตรวจสอบเส้นทางหลบหนี จนสามารถทราบเส้นทางคนร้ายขับรถไปตามเส้นทางถนนเพชรเกษม (ตรัง-พัทลุง) จึงประสานไปตำรวจภูธรพัทลุงให้ทำการสกัดจับ กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 24.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทลุง ได้ตั้งด่านสกัดบนถนนเพชรเกษม ตรัง-พัทลุง หมู่ 1 ต.เขาเจียก อ.เมืองพัทลุง เมื่อนายชาติเห็นด่านสกัด จึงขับฝ่าด่านเพื่อหลบหนี และรถคันดังกล่าวได้ชนกับรถยนต์ของชาวบ้านที่จอดอยู่ริมถนน รวมทั้งรถของตำรวจระเนระนาด จนรถยนต์ที่นายชาติขโมยมาจากจังหวัดตรัง เสียหลักพลิกคว่ำไปเช่นเดียวกัน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พัทลุง สามารถควบคุมตัวนายชาติไว้ได้ รวมปฏิบัติการไล่ล่ายาวนานกว่า 10 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ร.ต.อ.ศุภชัย หมื่นอักษร ร้อยเวร สภ.เมืองพัทลุง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุง ได้เข้าตรวจสอบเหตุรถชนบนถนนเพชรเกษมตรัง-พัทลุง ฝั่งขาเข้าเมืองพัทลุง หมู่ 1 ต.เขาเจียก อ.เมืองพัทลุง ที่เกิดเหตุพบรถกระบะอีซูซุ ดีแม็คซ์ 4 ประตู สีทอง สภาพพังยับเยินทั้งคัน จอดบริเวณบนฟุตปาธ ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร เจ้าหน้าที่พบรถกระบะของ สภ.เมืองพัทลุง ถูกชนบริเวณกระโปรงด้านหน้าได้รับความเสียหาย ห่างออกไปประมาณ 5 เมตร พบรถเก๋งโตโยต้าวีออส สีเงิน ถูกชนเข้าบริเวณตัวถังรถด้านขวาฝั่งคนขับ ทำให้ล้อหลังหลุด และยังพบรถกระบะโตโยต้าแคปสีเงิน ถูกเฉี่ยวชนตัวถังด้านซ้าย กระจกพังตัวถังยุบ รวมมีรถได้รับความเสียหาย 4 คัน บนถนนยังมีเศษกระจกแตกกระจายทั่วบริเวณ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พัทลุง ควบคุมตัวนายชาติ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.พัทลุง และส่งตัวดำเนินคดีที่ สภ.เมืองตรัง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรังได้แจ้งข้อกล่าวหาวิ่งราวทรัพย์หรือรับของโจร
พ.ต.ท.ภูริทัศน์ ชัยศร รอง ผกก.ป.สภ.เมืองตรัง เปิดเผยว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ได้ภาพจากกล้องบ้านประชาชนและกล้องจากศูนย์ Real Time Crime Center สภ.เมืองตรัง ตรงจุดเกิดเหตุและจุดที่ผู้ต้องหาเดินไปก่อเหตุ ส่วนเส้นทางหลบหนีของผู้ต้องหา กล้อง License Plate Recognition (LPR) ซึ่งมีคุณสมบัติวิเคราะห์ป้ายทะเบียน ยี่ห้อรถ สีรถ ลักษณะรถ และสามารถ Alert รถที่มีลักษณะดังกล่าวได้แบบ Real Time ซึ่งกล้องLPR มีการ Alert มาในระบบ ทำให้ จนท.สามารถวางแผนตั้งจุดสกัดได้ ถูกที่ ถูกเวลา และเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้ภายใน 12 ชั่วโมง โดยใช้ข้อมูลเส้นทางจากกล้อง LPR หากเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่กล้องธรรมดาจะมีความล่าช้าไม่ทันการ หากมีจำนวนกล้อง LPR เต็มพื้นที่ จะทำให้สามารถจำลองแผนที่เส้นทางผู้ต้องหาได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
พ.ต.ท.ภูริทัศน์กล่าวว่า จากคดีนี้การวางแผนตั้งจุดสกัดถูกที่ถูกเวลาทุกสถานีตำรวจ เกิดจากการทราบเส้นทางหลบหนีจากกล้อง LPR จึงเห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนการติดตั้งกล้อง LPR ให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด และอยากฝากพี่น้องประชาชน ไม่ควรติดเครื่องรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์หรือเสียบกุญแจทิ้งไว้ เนื่องจากเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับคนร้ายและลดเวลาในการก่อเหตุ
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่