เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 26 ก.พ.67 ศูนย์วิทยุ สภ.ท่าเรือ จ.กาญจนบุรี ได้รับการประสานจากศูนย์วิทยุขุนรัตนาวุธสาขาย่อยตลาดท่าเรือว่า ได้รับแจ้งจากประชาชนที่ขับขี่ยวดยานพาหนะบนเส้นทางถนนแสงชูโตสายใหม่หน้าสวนหลวง ร.9 และลูกข่ายอาสาสมัครของมูลนิธิฯ ประจำจุดรอรับเหตุท่าเรือ-พระแท่นฯ ว่าเกิดเหตุเพลิงลุกไหม้รถบรรทุก 10 ล้อ ที่ บรรทุกลังกระดาษมาเต็มคัน ขอให้ช่วยประสานรถดับเพลิงของเทศบาลเมืองท่าเรือ-พระแท่นมาทำการฉีดน้ำดับไฟด้วย
มีรายงานข่าวว่า ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่อาสาสมัครของมูลนิธิฯร่วมกับรถดับเพลิงของเทศบาลฯ ก็เดินทางมาช่วยกันฉีดน้ำเพื่อดับไฟที่โหมลุกไหม้ลังกระดาษเปล่าซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี อีกทั้งยังมีกระแสลมเป็นตัวช่วยให้เพลิงไหม้ครั้งนี้ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น แต่ในที่สุดเจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงก็สามารถฉีดน้ำดับไฟได้จนเป็นผลสำเร็จ โดยใช้เวลานานประมาณ 1 ชม.
หลังเพลิงสงบพบว่า ตัวถังกระบะรถบรรทุก 10 ล้อ บางส่วนถูกเปลวเพลิงลุกไหม้จนได้รับความเสียหาย เดชะบุญที่ขณะเกิดเหตุมีประชาชนโทรแจ้งประสานเหตุไปยังมูลนิธิขุนรัตนาวุธ ประสานไปยัง ศูนย์วิทยุ 191 และ 199 รถดังเพลิงของเทศบาลท่าเรือ-พระแท่นฯ จึงเดินทางมาระงับเหตุได้ทันท่วงที หาไม่รถบรรทุก 10 ล้อคันดังกล่าว คงกลายเป็นเถ้าถ่านไปทั้งค้นอย่างแน่นอน
เบื้องต้นจากการสอบสวนปากคำคนขับรถ 10 ล้อ ทราบว่าภายหลังเดินทางเข้าไปในห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เพื่อบรรทุกลังกระดาษมุ่งหน้ากลับบ้าน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ มองกระจกส่องหลังก็เห็นควันไฟพุ่งออกมาจากกระบะบรรทุกด้านหลัง ประกอบกับได้มีกล่มวัยรุ่นขับรถมาบอกว่า มีควันไฟพัดโชยออกมาจากกระบะด้านหลัง จึงจอดรถเข้าข้างทางและลงไปดู
จากนั้น จึงช่วยกันตักน้ำในคลองชลประทานมาช่วยดับไฟ แต่เพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง เพราะมีลมเป็นตัวช่วย อีกทั้งลังกระดาษก็เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เดชะบุญที่มีคนมาช่วย และรถดับเพลิงมาทันเวลา ส่วนสาเหตุเชื่อว่า ต้องมีคนสูบบุหรี่แล้วดีดก้นบุหรี่ใส่ พอรถวิ่งก็มีกระแสลมพัดให้เกิดเพลิงไหม้ดังกล่าว เหตุการณ์ครั้งนี้ ถือเป็นอุทาหรณ์เตือนคนขับรถได้ดีว่า ขับรถช่วงหน้าร้อน ต้องตรวจสอบอุปกรณ์ส่วนควบของรถทุกครั้งที่จะขับรถ หาไม่อาจจะสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินก็เป็นได้