ผลิตเชฟอาหารไทยป้อนตลาดแรงงานภาคการท่องเที่ยว เน้นมีคุณภาพ ได้มาตรฐาน …


ผลิตเชฟอาหารไทยป้อนตลาดแรงงานภาคการท่องเที่ยว เน้นมีคุณภาพ ได้มาตรฐาน

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมติดตามการสาธิตการทำอาหารไทยในเมนู “ต้มข่าไก่” ซึ่งจัดโดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โอกาสนี้ได้สั่งการให้เร่งดำเนินการพัฒนาทักษะให้แก่แรงงาน โดยเฉพาะการผลิตแรงงานป้อนภาคการท่องเที่ยว ซึ่งมีหลายตำแหน่งและหลายอัตรา ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวมีความต้องการปีละกว่า 400,000 คน ซึ่งทักษะด้านอาหารไทยในตำแหน่งเชฟอาหารไทย หรือกุ๊กตามร้านอาหาร เป็นตำแหน่งงานที่ผู้ประกอบการร้านอาหาร ภัตตาคาร หรือโรงแรมที่พักตามแหล่งท่องเที่ยวมีความต้องการ ผู้ที่มีทักษะการทำอาหารเพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นตัว และปัจจุบันเริ่มมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น อีกทั้งผู้ที่มีทักษะในการทำอาหารไทย มีโอกาสในการประกอบอาชีพทั้งส่วนตัว หรือเข้าทำงานในสถานประกอบกิจการ

ส่วนเรื่องรายได้ของเชฟมีหลายระดับ เชฟในประเทศไทยจะมีรายได้เริ่มต้นตั้งแต่ 18,000 – 32,000 บาท/เดือน เชฟที่ทำงานในโรงแรมระดับ 3-4 ดาว มีรายได้ประมาณ 70,000 – 90,000 บาทต่อเดือน หากเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวจะมีรายได้ถึงหลักแสนบาทขึ้นไป

กรมพัฒนาฝีมืแรงงาน ต้องให้ความสำคัญและเร่งผลิตแรงงานในด้านดังกล่าวป้อนภาคการท่องเที่ยวให้มากขึ้น ย้ำว่าแรงงานต้องมีคุณภาพได้มาตรฐาน มีใบรับรองด้านฝีมือ เพื่อยืนยันความสามารถเพื่อรับค่าจ้างอย่างเหมาะสมตามฝีมือด้วย

ด้านนางสาวบุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวว่า การพัฒนาทักษะแรงงานด้านการท่องเที่ยว ในปี 2567 กรมพัฒนาฝีมือแรงงานมีเป้าหมายในการพัฒนาบุคลากรภาคการท่องเที่ยวปีละกว่า 30,000 คน กระจายเป้าหมายไปยังหน่วยฝึกทั่วประเทศทั้ง 76 จังหวัดและในกรุงเทพมหานคร หลักสูตรการฝึกด้านอาหาร เช่น การประกอบอาหารไทยประยุกต์ การประกอบอาหารไทยฮาลาล การประกอบอาหารว่างเพื่อส่งเสริมสุขภาพและการบริการ อาหารไทยสำหรับร้านคาเฟ่ เป็นต้น

สำหรับเมนูต้มข่าไก่ เป็นหนึ่งในเมนูที่ได้จัดฝึกอบรมและทดสอบด้านอาหารไทย นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้สถานประกอบกิจการและสถาบันการศึกษาที่มีความพร้อม ร่วมดำเนินการจัดอบรม หรือขออนุญาตเป็นศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติด้วย ปัจจุบันมีศูนย์ทดสอบฯ สาขาผู้ประกอบอาหารไทย ทั่วประเทศรวม 71 แห่ง อยู่ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล 27 แห่ง ส่วนภูมิภาคอีก 44 แห่ง




ข้อมูลข่าวและที่มา

ผู้สื่อข่าว : นิตยา คุณสิม

ผู้เรียบเรียง : ธนพิชฌน์ แก้วกา

แหล่งที่มา : Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *