
.css-nh9sg4 #forum2022-logoSponsor{text-align:center;}.css-nh9sg4 .forum2022-logoSponsor-text{font-family:”KaLaTeXa Display”;font-size:10px;position:relative;z-index:3;}.css-nh9sg4 .forum2022-logoSponsor-text span{background-color:#ffffff;padding:0 10px;position:relative;z-index:3;}.css-nh9sg4 .forum2022-logoSponsor-text::after{content:””;height:1px;width:100%;background-color:rgb(216,216,216);position:absolute;top:50%;left:0;-webkit-transform:translateY(-50%);-ms-transform:translateY(-50%);transform:translateY(-50%);z-index:2;}.css-nh9sg4 ul.forum2022-logoSponsor{padding:0;margin:0;list-style:none;display:-webkit-box;display:-webkit-flex;display:-ms-flexbox;display:flex;-webkit-flex-wrap:wrap;-ms-flex-wrap:wrap;flex-wrap:wrap;gap:15px;-webkit-box-pack:center;-webkit-justify-content:center;-ms-flex-pack:center;justify-content:center;}.css-nh9sg4 ul.forum2022-logoSponsor li.forum2022-item-sponsor{height:80px;}.css-nh9sg4 ul.forum2022-logoSponsor li.forum2022-item-sponsor img{height:80px;}
เจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลกเผย ชาวเอเชียอาคเนย์ราว 1 ใน 7 มีปัญหาสุขภาพจิต และส่วนใหญ่ไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม
เมื่อวันอังคารที่ 10 ต.ค. 2566 ดร. อันเดรีย บรูนี ที่ปรึกษาด้านสุขภาพจิตขององค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บอกกับสำนักข่าวแชนเนลนิวส์เอเชียว่า ประชาชนราว 260 ล้านคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือราว 1 ใน 7 มีชีวิตอยู่ร่วมกับปัญหาสุขภาพจิต และหลายคนไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีหรือเหมาะสม
ตามการเปิดเผยของ ดร.บรูนี ปัญหาสุขภาพจิตเป็นสิ่งที่พบได้แพร่หลายมากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ช่องว่างการรักษากลับมีสูงมาก “ในบางประเทศ ช่องว่างการรักษาสูงถึง 90% หมายความว่า มีคนถึง 90% ที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาอาการทางจิต กลับไม่ได้รับการรักษาหรือดูแลอย่างทันท่วงทีหรือเหมาะสม หรือไม่ได้รับทั้งสองอย่างเลย”
นอกจากนั้น การตีตราทางสังคงต่อผู้มีปัญหาสุขภาพจิต ก็ยังคองแพร่กระจายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “บ่อยครั้งมาก ที่การตีตรานำไปสู่การเลือกปฏิบัติต่อผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตรุนแรง” ดร.บรูนีเสริมด้วยว่า ในภูมิภาคแห่งนี้มีความเชื่อเหมือนๆ กันว่า ผู้ป่วยอาการเหล่านั้นจะต้องรับการรักษาในสถาบันด้านสุขภาพจิต, โรงพยาบาลจิตเวช หรือโรงพยาบาลบ้า
“ข้อเท็จจริงมันต่างกันออกไป ข้อเท็จจริงคือผู้มีปัญหาสุขภาพจิตจำเป็นต้องเข้าถึงบริการที่มีอยู่ในแต่ละชุมชน ที่เข้าถึงได้มากกว่าและมีความเคารพในสิทธิมนุษยชนของคนมากกว่า”
อย่างไรก็ตาม ดร.บรูนีระบุด้วยว่า ตอนนี้สิ่งต่างๆ เริ่มเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ “หลายสิ่งหลายอย่างกำลังเปลี่ยนไปผ่านการต่อสู้และการสร้างแรงจูงใจของเหล่าผู้ที่มีประสบการณ์ตรงและผู้ที่คยอดูแลผู้ป่วย ซึ่งควรเป็นตัวละครหลักและสำคัญในการออกแบบนโยบายและบริการต่างๆ สำหรับผู้มีปัญหาสุขภาพจิต”
“สุขภาพจิตที่ดีสำคัญต่อสุขภาพและสุขภาวะทางกายของเราในภาพรวม และทุกคนมีสิทธิ์ที่จะได้รับการดูแลด้านสุขภาพจิตภายใต้มาตรฐานสูงสุด” ดร.บรูนีกล่าว “แต่ทว่าทั่วโลก รวมถึงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ น่าเสียดายที่คนที่มีปัญหาสุขภาพจิต ยังต้องเผชิญการละเมิดสิทธิมนุษยชนหลากหลายระดับ และหลายคนถูกแยกออกจากชุมชนและสังคม”
“การมีปัญหาสุขภาพจติไม่ควรเป็นสาเหตุในการลิดรอนสิทธิ์ความเป็นมนุษย์ของใคร รวมถึงการตัดขาดคนเหล่านั้นจากการมีส่วนร่วมในสังคม”
ทั้งนี้ ตามข้อมูลของสำนักงานสุขภาพแห่งสหประชาชาติ การสำรวจจนถึงปี 2562 พบว่า ประชาชนเกือบ 1 พันล้านคน หรือราว 1 ใน 8 ของโลก กำลังใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับปัญหาสุขภาพจิต โดยผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า ตอนนี้ตัวเลขดังกล่าวสูงขึ้นมาก ท่ามกลางความตึงเครียดต่างๆ ในโลก ทั้งโควิด-19, สงครามรัสเซียยูเครน และวิกฤติโลกร้อน
ที่มา : cna