มาย ภาคภูมิ ร่มไทรทอง พูดถึงการพัฒนาตัวละครฉัตร และความยากในหนัง “แมนสรวง”


image via Be on Cloud

ใน “แมนสรวง” นอกจากบทเขมของ อาโป ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์ แล้ว บทเด่นอีกคนของหนังคือฉัตร ที่รับบทโดย มาย ภาคภูมิ ร่มไทรทอง ครับ โดยฉัตรนั้นเป็นมือตะโพนประจำสถานบันเทิงที่เป็นชื่อเดียวกับชื่อหนัง แต่ผู้ที่ได้ดูหนังแล้วคงได้เห็นว่าฉัตรก็มีอะไรแอบซ่อนเอาไว้อยู่ภายใต้โฉมหน้าที่ดูหล่อเหลา เป็นบทบาทที่นักแสดงต้องหาแนวทางการรับบทให้เหมาะสมเพื่อไม่ให้ความลับนั้นถูกเปิดเผยก่อนเวลาอันควร ในข้อมูลเบื้องหลังหนังหรือโปรดักชั่นโน้ต มายได้เล่าถึงความน่าสนใจของตัวละคร การพัฒนาตัวละครนี้ และการหาแนวทางที่เหมาะสมในการรับบทครับ

“ความน่าสนใจของฉัตร จะเป็นตัวละครที่ทำให้เราเห็นถึงการพัฒนาตลอดเวลา ที่ใช้คำว่าพัฒนาการเพราะมันทำให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์หลากหลายมุม ผ่านตัวฉัตร คือเราจะไม่ได้เห็นถึงแค่ความอ่อนแอ ความเข้มแข็ง หรือสิ่งที่เป็นปมขัดแย้งในเรื่อง แต่เราจะได้เห็นทั้งหมดผ่านการดูแมนสรวงจากต้นจนจบ ผมคิดว่านี่คือหนึ่งในเสน่ห์ของตัวละครที่ชื่อว่าฉัตร อย่างที่สองคือฉัตรคือตัวละครที่มีจุดมุ่งหมาย เป้าหมายที่ชัดเจน และเขาเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์ต่อสิ่งที่เขาคิด เขารู้สึกยังไง เขาคิดยังไงก็จะทำอย่างนั้น ไม่ใช่คนที่ทำเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง แต่เพื่อทำสิ่งที่ถูกต้อง”

มาย ภาคภูมิ เล่าด้วยว่าได้พัฒนาตัวละครฉัตรร่วมกับผู้เขียนบท เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมให้การแสดงตัวละครนี้ จากนั้นก็มีการปรับเปลี่ยนบทในระดับหนึ่ง แล้วเมื่ออยู่หน้าฉากตอนถ่ายทำจริงก็มีการเปิดใจคุยกันอีกครั้ง “เพราะงั้น การพัฒนาตัวละครฉัตร วิธีคือการทำการบ้าน เลือกช้อยส์ เลือกสิ่งที่มีแล้วก็ไปคุยกับทีมกำกับ เกิดการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา แต่อยู่บนพื้นฐานของสิ่งที่เป็น super objective (ความต้องการหรือเป้าหมายสูงสุด) ของตัวละคร เพราะงั้นตัวละครนี้มาแมนสรวงเพื่ออะไร หรือจริงๆ แล้วเขาต้องการอะไรในเป้าหมายของชีวิตเขา ดังนั้นทุกอย่างจะอยู่ในกรอบ ต่อให้เขาอยู่ในโมเมนต์ไหน ในเรื่องไหน แต่สุดท้ายมันจะเห็นสิ่งที่เขากำลังต้องการอยู่ตลอด”

มายยังพูดถึงความท้าทายในการรับบทฉัตรด้วยว่า “เนื่องจากเลเยอร์ของฉัตร มีหลายเลเยอร์ ดังนั้นการแสดงออกต้องไม่แจ่มแจ้ง ต้องไม่ชัดเจนจนเกินไป ที่ทำให้คนดูรู้สึกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ไม่งั้นถ้าคนดูเห็น มันจะรู้สึกว่าชัดเกิน องค์ประกอบของฉัตรจะไม่ครบถ้วนครับ เพราะงั้นการแสดงมันจะยากตอนแรก ว่าเราจะเอามากหรือน้อยขนาดไหน ในเรื่องของสิ่งที่เขาแสดงออก”

นอกจากเรื่องการตีความตัวละครและการหาแนวทางการเล่นตัวละครนี้แล้ว มาย ภาคภูมิ ต้องฝึกตีตะโพนอยู่ถึง 7-8 เดือน เพื่อรับบทให้สมเป็นมือตะโพนจริงๆ ด้วยครับ และมีหลายครั้งที่เจ้าตัวบอกว่าได้แผลกลับมาเพราะเครื่องหนังของตะโพนนั้นมีความคมอยู่บ้าง ยังไม่รวมกับความแข็งของมัน

“แมนสรวง” เล่าเรื่องราวของสถานที่ในจินตนาการแห่งหนึ่งในช่วงสมัยรัชกาลที่ 3 ปี พ.ศ.2393 อันเป็นสถานบันเทิงที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุคนั้น โดยมีตัวเอกเป็น “เขม” (ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์) หนุ่มจากเมืองแปดริ้วที่แฝงตัวเข้าไปเป็นนายรำในแมนสรวงเพื่อสืบหาเอกสารลับสำคัญที่จะใช้เปิดโปงกบฏ และขอความช่วยเหลือจาก “ฉัตร” (ภาคภูมิ ร่มไทรทอง) มือตะโพนของวงดนตรีในสถานที่แห่งนี้ ตัวละครสำคัญอีกคนก็คือ “ว่าน” (อัศวภัทร์ ผลพิบูลย์) ที่แฝงตัวเข้ามาพร้อมกับเขมเพื่อช่วยกันสืบหาเอกสาร ซึ่งระหว่างนั้นเอง ความสัมพันธ์ของทั้งสามก็ค่อยๆ พัฒนาไปพร้อมกับการเผยให้เห็นถึงความลับมืดดำของแมนสรวงและปมในใจของทั้งสามตัวละคร

นักแสดงสมทบของหนังยังประกอบไปด้วย ธนายุทธ ฐากูรอรรถยา, อรอนงค์ ปัญญาวงศ์, ชาติชาย เกษนัส, ประดิษฐ์ ประสาททอง, คานธี วสุวิชย์กิต, ศรชัย ฉัตรวิริยะชัย, สายฟ้า​ ตัน​ธนา และ นนทกร เฉลิมนัย

กฤษดา วิทยาขจรเดช, ชาตชาย เกษนัส และ ผศ.ดร.พันพัสสา ธูปเทียน ร่วมรับหน้าที่กำกับหนัง หนังเข้าฉายไปแล้วตั้งแต่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมาครับ และยังยืนโรงฉายอยู่

ที่มา: Be On Cloud


Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *